|
|
ภาพ: motortrivia team •
Tuesday, 24 March, 2015 5:59 PM
|
|
 |
|
2015 BIMS: FORD |
|
หลังจากรอกันมานาน Ford Everest ก็ได้เวลาเผยโฉมอย่างเป็นทางการในวันนี้ โดยเป็นการเปิดตัวครั้งแรกในภูมิภาคอาเซียน พร้อมด้วยการจัดแสดง Ford Ranger ใหม่ต่อสาธารณชน ซึ่ง ฟอร์ด ได้จัดงานเปิดตัวล่วงหน้า 1 วัน แน่นอนว่าไฮไลท์ที่ทุกคนรอคอยคือการประกาศราคาจำหน่ายนั่นเอง ทั้งคู่จะผลิตที่โรงงาน ออโต้ อัลลายแอนซ์ ประเทศไทย เพื่อการจำหน่ายในประเทศและส่งออกในภูมิภาค |
|
 |
|
ไฮไลท์
Ford Everest ใหม่ขนาด 7 ที่นั่ง มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 2 รุ่น แบ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ Duratorq TDCi ความจุ 3.2 ลิตร และเครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ Duratorq TDCi ความจุ 2.2 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบกระจายแรงบิด Torque on Demand และระบบ Terrain Management System โหมดการขับขี่ 4 แบบ คือ พื้นผิวทั่วไป, พื้นหิมะ กรวด หญ้า, ทราย และหินขรุขระ แต่ละโหมดปรับเปลี่ยนการตั้งค่าอัตราเร่ง ระบบส่งกำลัง ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ และระบบควบคุมการเกาะถนนอัตโนมัติ ระยะเคลียร์ใต้ท้องรถ 225 มม. ลุยน้ำได้ลึกสูงสุด 800 มม.
ภายในติดตั้งหลังคาพาโนรามิคมูนรูฟแบบปรับ เบาะแถว 3 ปรับไฟฟ้าแบบพับเรียบ ประตูท้ายรถเปิด-ปิดด้วยระบบไฟฟ้า ระบบอินโฟฯ SYNC 2 จอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว ลำโพง 10 ตัวรวมซับวูฟเฟอร์ ช่องเก็บของมากกว่า 30 ช่อง พร้อมช่องต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าสำหรับเบาะหน้าและเบาะหลัง
ห้องโดยสารเงียบด้วยเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวน หลักการทำงานคล้ายกับการต้านเสียงรบกวนของหูฟังพรีเมียม ใช้ไมโครโฟน 3 ตัวที่ทำหน้าที่ตรวจจับและวัดระดับเสียง จากนั้นระบบควบคุมและเครื่องเสียงในตัวรถจะทำการสังเคราะห์คลื่นเสียงที่ตรงข้ามกัน เพื่อหักล้างกับเสียงรบกวน ยังผลให้ห้องโดยสารเงียบสนิท นอกจากนี้ ฟอร์ด ยังพัฒนาซีลกันเสียงและวัสดุดูดซับเสียงภายในห้องโดยสารให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้นอีกด้วย
เทคโนโลยีอื่นๆ ประกอบไปด้วยระบบช่วยจอด Active Park Assist, ระบบตรวจจับรถในจุดบอด Blind Spot Information System, ระบบตรวจจับรถขณะออกจากซองจอด Cross Traffic Alert, ระบบป้องกันรถพลิกคว่ำ Roll Stability Control, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Program และถุงลมนิรภัย 7 จุด
สีภายนอกมีให้เลือก 5 สี คือ สีขาว Cool White, ดำ Black Mica Metallic, เงิน Aluminum Metallic, ทอง Sparkling Gold Metallic และแดง Sunset Metallic
ทั้งนี้ รายละเอียดของอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่างๆ จะแตกต่างกันไปในแต่ละประเทศครับ |
|
 |
|
Ford Ranger รุ่นปรับโฉม รุ่นเครื่องยนต์จะมีทั้งหมด 4 รุ่น ขึ้นอยู่กับประเทศที่จำหน่าย แบ่งเป็นเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ Duratorq TDCI แบบ 5 สูบ ความจุ 3.2 ลิตร ติดตั้งระบบหมุนเวียนไอเสียแบบใหม่ กำลังสูงสุด 197 แรงม้า HP ต่อด้วยเครื่องยนต์ดีเซล Duratorq แบบ 4 สูบ ความจุ 2.2 ลิตร แบ่งการจูนเป็น 2 ช่วงกำลังคือ 158 แรงม้า และ 128 แรงม้า ปิดท้ายด้วยรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน Duratec ความจุ 2.5 ลิตร กำลังสูงสุด 164 แรงม้า น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1,175 กก. ประสิทธิภาพในการลากจูงสูงสุด 3,500 กก. ลุยน้ำได้ที่ความลึก 800 มม. เช่นกัน
เครื่องยนต์ใหม่ติดตั้งระบบสตาร์ทและดับเครื่องอัตโนมัติ Automatic Start/Stop ซึ่งจะช่วยประหยัดการใช้เชื้อเพลิงได้สูงสุดราว 3.5 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีการปรับอัตราทดเฟืองท้ายใหม่ เพื่อช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ดียิ่งขึ้นเมื่อใช้ความเร็วสูง ส่วนระบบส่งกำลังจะมีให้เลือกทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ หรืออัตโนมัติ 6 จังหวะ
ระบบอินโฟเทนเมนท์ SYNC2 ผู้ขับสามารถใช้คำสั่งในรูปประโยคภาษาอังกฤษได้ เช่น "Temperature 20 degrees" เพื่อควบคุมระบบปรับอากาศ "play AC/DC" สั่งงานการเล่นเพลง หรือ "I'm hungry" สำหรับสั่งงานระบบนำทาง ขณะเดียวกันจอทัชสกรีนขนาด 8 นิ้ว พร้อมชุดคำสั่งแบบแยกสี จะช่วยให้การเลือกใช้งานเมนูต่างๆ ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีช่องชาร์จไฟแบบ 240 โวลต์ ซึ่งสามารถใช้ชาร์จไฟ Laptop ได้
ชุดระบบความปลอดภัยประกอบไปด้วย ระบบช่วยเตือนการขับขี่ในช่องทาง Lane Keeping Alert, ระบบรักษาช่องทางขับขี่ Lane Keeping Aid, ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบรักษาระยะห่างระหว่างรถคันหน้า Adaptive Cruise Control, ระบบเตือนป้องกันการชนรถคันหน้า Forward Alert, สัญญาณเตือนระยะเดินหน้าและถอยหลัง Front and Rear Park Assist, ระบบตรวจสอบวัดและแจ้งเตือนลมยาง Tire Pressure Monitoring System
ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Electronic Stability Program พร้อมระบบป้องกันการพลิกคว่ำและลดอาการส่ายขณะลากจูงเทรลเลอร์, ระบบตรวจสอบผู้ขับขี่ Driver Impairment Monitor ใช้กล้องหน้าและเซนเซอร์ตรวจจับผู้ขับขี่ว่ามีอาการง่วงหรือหลับในหรือไม่ นอกจานี้ในบางประเทศจะมีระบบขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน Emergency Assistance เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านสัญญาณบลูทูธ เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ในกรณีเกิดอุบัติเหตุ โดยระบบจะแจ้งรายละเอียดและตำแหน่งของตัวรถโดยอัตโนมัติ ก่อนจะเปิดสายให้ผู้ขับขี่สนทนากับเจ้าหน้าที่ต่อไป
เทคโนโลยีอื่นๆ ยังมีระบบช่วยการออกตัวขณะจอดบนทางลาดชัน Hill Launch Assist, ระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา Hill Descent Control, ระบบควบคุมการบรรทุก Adaptive Load Control และระบบเบรกฉุกเฉิน Emergency Brake Assistance
ราคาจำหน่าย
• Ford Everest 2.2 Titanium ราคาเริ่มต้นที่ 1,269,000 บาท
• Ford Everest 3.2 Titanium 4WD ราคา 1,459,000 บาท
• Ford Everest 3.2 Titanium Plus 4WD ราคา 1,599,000 บาท
บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 หรือ The 36th Bangkok International Motor Show 2015 ปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Art of Auto: ยนตรกรรมไร้พรมแดน" ตัวงานมีขึ้นระหว่างวันที่ 25 มีนาคม - 5 เมษายน 2558 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพค เมืองทองธานีครับ สนใจรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม เชิญได้ที่ Bangkok Motor Show 2015 Index • |
|
|
 |
|
|
|