|
เรื่อง: นาธัส แสงสุริยะ • ภาพ: BMW ประเทศไทย |
Friday, 23 January, 2015 12:12 PM
|
|
 |
|
BMW xDrive Xperience 2015 |
|
บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย รุกตลาดรถยนต์เอนกประสงค์ระดับหรูสไตล์สปอร์ตหรือ SAV-Sport Activity Vehicle แบบครบไลน์การผลิต ตั้งแต่รุ่นเล็กถึงรุ่นใหญ่ เริ่มจาก X1, X3, X4, X5 และ X6 โดยรถยนต์ตระกูล X ทุกรุ่นยกเว้น X1 ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ xDrive ส่วน X1 รุ่นที่ทำตลาดในเมืองไทยใช้ระบบขับเคลื่อนล้อหลัง sDrive ล่าสุด บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย จัดกิจกรรม BMW xDrive Xperience 2015 ณ ไทย โปโล แอนด์ อีเควสเทรียน คลับ พัทยา จังหวัดชลบุรี เพื่อพิสูจน์ประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive บนเส้นทางวิบากหลากหลายรูปแบบ โดยใช้รถรุ่น X3 xDrive 2.0d และ X5 xDrive 3.0d นับเป็นโอกาสดีของทีมงาน มอเตอร์ทริเวีย ที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ เพราะถ้าขอยืมรถมาทดสอบเอง ก็คงไม่กล้าขับบนทางโหดแบบนี้ และสำหรับผู้ที่สนใจรถ 2 รุ่นนี้ หรือมีในครอบครองอยู่แล้ว ก็จะได้รู้ว่ารถที่หน้าตาดูหรูหรานี้ สามารถทำอะไรได้มากกว่าที่คิด
xDrive เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา ในสภาพการขับปกติระบบจะแบ่งการส่งกำลังระหว่างล้อหน้าและล้อหลังในแบบ 40:60 และจะแปรผันการแบ่งกำลังให้เหมาะสมกับสภาพถนนและลักษณะการขับ ซึ่งในบางสถานการณ์ระบบสามารถส่งกำลังทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ ไปยังล้อหน้าหรือล้อหลัง เพื่อให้รถมีการยึดเกาะถนนได้ดีที่สุด เช่น การออกตัวบนทางลาดชันมากๆ หรือผิวถนนมีความลื่น และเมื่อขับด้วยความเร็วต่ำหรือใช้งานทั่วไป ระบบ xDrive ก็จะปรับการส่งกำลังเพื่อให้รถมีความคล่องตัว |
|
 |
|
ขณะเข้าโค้ง ถ้าระบบตรวจพบว่ารถกำลังจะเกิดอาการ Understeer หรือหน้าดื้อโค้ง ระบบก็จะสั่งลดกำลังที่ส่งไปยังล้อหน้าโดยอัตโนมัติ ส่วนถ้ารถจะเกิดอาการ Oversteer หรือท้ายปัด ก็จะลดกำลังที่ส่งไปยังล้อคู่หลัง และส่งกำลังไปที่ล้อหน้ามากขึ้น รถก็จะมีการทรงตัวที่เป็นกลางโดยที่ผู้ขับไม่ต้องแก้ไขใดๆ ส่วนการขับบนทางคดเคี้ยวหรือใช้ความเร็วสูง ระบบจะทำงานต่อเนื่องเพื่อถ่ายทอดกำลังทั้งหมดของเครื่องยนต์ลงสู่พื้นถนน โดยไม่สูญเสียไปกับการลื่นไถล xDrive ทำงานร่วมกับระบบ Dynamic Stability Control หรือ DSC โดยอาศัยข้อมูลจากเซนเซอร์เพื่อประมวลผลสภาพถนน และตรวจสอบความเร็วในการหมุนของแต่ละล้อ ถ้าพบว่าล้อในล้อหนึ่งหมุนเร็วผิดปกติ ก็จะสั่งเบรกเพื่อลดอาการลื่นไถล
สำหรับการทดลองใช้งานระบบ xDrive แบ่งเป็น 2 สถานีหลัก คือ Mountain การขับบนเส้นทางลัดเลาะไปตามสันเขา มีสถานีย่อยต่างๆ ไว้ให้ทดลองขับผ่าน ทั้งการลุยน้ำ ลุยกรวดร่วน เนินสลับ และการทดลองระบบ Hill Descent Control และ Sand+Slope ขับบนพื้นผิวที่เป็นทราย แบ่งเป็น 2 สถานีย่อย คือ การขับเป็นเลข 8 อ้อมไพลอนที่วางไว้ 2 อัน และการขับแบบ Gymkhana บนผืนทราย ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่มีการจับเวลาเพิ่มความตื่นเต้นด้วย และสถานี Slope ขับบนเนินเอียง ที่แม้จะใช้ความเร็วต่ำ แต่ก็ได้ลุ้นทุกวินาที |
|
 |
• คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย |
 |
|
ช่วงเช้ามีพิธีการสั้นๆ เป็นการกล่าวต้อนรับโดย คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย และบรรยายผลิตภัณฑ์โดย คุณโอภาส นพพรพิทักษ์ Specialist Product Management จากนั้นจึงลงไปที่รถเพื่อชมการสาธิต และทดลองขับในสถานีย่อยๆ ประกอบด้วยพื้นลื่น เป็นพื้นที่ทาน้ำมันพืช เมื่อเร่งออกตัวระบบจะทำงาน ช่วยให้ควบคุมทิศทางได้ และเนินสลับ เมื่อล้อใดล้อหนึ่งลอยขึ้น ระบบจะตัดการส่งกำลังไปยังล้อนั้น แล้วส่งกำลังไปยังล้อฝั่งตรงข้าม เพื่อให้มีแรงขับเคลื่อนต่อไปได้ จากนั้นพักทานอาหารกลางวันก่อนจะลงไปลุยกันแบบเต็มๆ ในช่วงบ่าย |
|
 |
|
Mountain
เริ่มต้นด้วยการขับไปบนภูเขา มีรถ X3 และ X5 รุ่นละ 2 คัน มีผู้ฝึกสอนนั่งไปด้วย ขับตามกันเป็นขบวนห่างๆ โดยต้องเว้นระยะเผื่อคันหน้าตะกุยหินหรือไหลลงเนินมา ครูฝึกแนะนำให้ใช้เท้าขวากดคันเร่ง และใช้เท้าซ้ายแตะเบรกเพื่อชลอความเร็ว แต่เอาเข้าจริงก็ทำยากและฝืนความเคยชินไม่น้อย เพราะเท้าซ้ายเคยชินกับการเหยียบคลัตช์ซึ่งเป็นการเหยียบสุด เมื่อใช้เท้าซ้ายเหยียบเบรกช่วงแรกๆ จึงเหยียบค่อนข้างแรง มีหน้าทิ่มกันบ้าง แต่ขับไปไม่นานก็ปรับตัวได้ และพบว่าวิธีนี้ช่วยให้หยอดรถได้นุ่มนวลจริงๆ เพราะการขับในทางทุรกันดาร ถ้าขับแบบลุยแหลกรถอาจเกิดความเสียหาย ไม่สามารถเดินทางต่อได้ จึงต้องใช้วิธีค่อยๆ ขับผ่านอุปสรรคต่างๆ
ไฮไลต์อยู่ที่สถานีปีนขอนไม้ทรงกลมที่มีขนาดพอดีกับล้อ แม้ขอนไม้จะสูงจากพื้นไม่มาก แต่ถ้าตกลงไปรถก็อาจเกิดความเสียหายได้ และสถานีปีนขอนไม้ที่วางไว้เฉียงๆ และทาน้ำมันพืชเพื่อความลื่น รถจะแฉลบไปตามแนวของไม้ ต้องหมุนพวงมาลัยต้านไว้ล่วงหน้า เพราะถ้าแฉลบแล้วจะแก้ไขยาก บางครั้งต้องถอยหลังมาตั้งหลักใหม่ เมื่อถึงด่านที่ต้องลุยน้ำก็เจอกับมุขเด็ดของผู้ฝึกสอน ที่บอกว่าให้กลั้นหายใจและเอามืออุดจมูกก่อนขับลงไป ทำเอาสะดุดไปหลายวินาที อีกด่านที่ต้องค่อยๆ หยอดคือ การขับลงเนินที่พื้นเป็นหิน การขับแบบ 2 เท้าช่วยให้ขับได้นุ่มนวลและต่อเนื่อง |
|
 |
|
อีกระบบที่ได้ใช้ตลอดการขับในสถานีนี้คือ Hill Descent Control มีสวิตช์เปิด-ปิดระบบที่ข้างคันเกียร์ สามารถปรับความเร็วในการไหลลงได้ง่ายๆ ปุ่มบนพวงมาลัย เมื่อขับลงเนินชันแล้วผ่อนคันเร่ง ระบบจะทำงานโดยการเบรกหน่วงความเร็วให้โดยอัตโนมัติ ถ้ากดคันเร่งระบบก็จะยกเลิกการทำงาน และถ้ายกคันเร่งอีก ระบบก็จะกลับมาทำงานอีกครั้ง โดยมีสัญญาณไฟสว่างขึ้นบนชุดมาตรวัด ระบบนี้ทำงานทั้งขณะขับลงเนินและขึ้นเนิน เมื่อขับขึ้นเนินแล้วเหยียบเบรกให้รถหยุดนิ่ง เมื่อยกเท้าออกจากแป้นเบรก ระบบจะคงแรงดันน้ำมันเบรกต่อเนื่องให้อีก 3 วินาที เพื่อให้มีเวลายกเท้าจากเบรกไปกดคันเร่ง ช่วยให้รถไม่ไหลถอยหลังเมื่อออกตัวบนเนินชัน
ระบบ xDrive และระบบเสริมต่างๆ ช่วยให้การขับบนทางวิบากในระดับ All Wheel Drive เป็นเรื่องง่าย แม้ผู้ขับจะไม่ได้ขับแบบนี้บ่อยๆ หรือไม่ได้เชี่ยวชาญมากนัก ก็สามารถผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้โดยง่าย เพียงแต่ต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ขับเพื่อให้รถไม่กระแทกหรือบอบช้ำน้อยที่สุด บางช่วงที่ต้องขับลงและขึ้นจากหลุมลึก ก็ยังกังวลว่ากันชนหน้าจะครูดพื้นตอนลงหรือเปล่า เพราะหน้ารถทิ่มลงไปมาก แต่เมื่อค่อยๆ หยอดลงไปแล้วก็ผ่านไปได้โดยไม่ครูด ส่วนตอนขึ้นจากหลุม กันชนหลังก็ไม่ครูดเช่นกัน แสดงว่า บีเอ็มดับเบิลยู ออกแบบรถไว้ให้ลุยได้พอสมควร มุมปะทะด้านหน้าและมุมจากด้านหลัง มีเพียงพอสำหรับการลุยแบบโหดปานกลาง |
|
 |
|
Sand+Slope
การขับบนพื้นทรายที่ค่อนข้างหนา แค่ลงเดินเท้าก็จมลงไปพอสมควร ความหนาน่าจะพอๆ กับทรายตามชายหาดต่างๆ ถ้าเป็นรถที่ไม่มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ คงติดหล่ม ไม่สามารถขับบนสภาพพื้นผิวแบบนี้ได้ อุ่นเครื่องด้วยการขับอ้อมไพลอนที่วางไว้ห่างๆ ให้เป็นเลข 8 ครูฝึกบอกจังหวะการกดและผ่อนคันเร่งผ่านทางวิทยุสื่อสาร ใช้รถ X3 เริ่มต้นด้วยการขับช้าๆ ให้เป็นเลข 8 ก่อนจากนั้นในช่วงที่วนออกจากไพลอนก็ให้กดคันเร่งเต็มที่ พบว่าระบบส่งกำลังมาที่ล้อหน้า ช่วยดึงรถให้พุ่งออกไปได้อย่างรวดเร็ว เรียกว่าเป็นการทำ Power Slide การควบคุมรถบนพื้นทรายทำได้ง่ายกว่าที่คิด ระบบ xDrive ทำงานอย่างราบเรียบไม่มีอาการสะดุดหรือกระตุก การหมุนพวงมาลัยยังคงเป็นธรรมชาติไม่มีการฝืน ยิ่งขับยิ่งสนุก แต่สุดท้ายก็ต้องจอดพัก เพราะฝุ่นตลบจนมองไม่เห็นว่าไพลอนอยู่ตรงไหน พอฝุ่นจางก็ต้องแปลกใจ เพราะรถไหลมาไกลจากไพลอนมากกว่าที่คิด |
|
 |
|
ต่อเนื่องด้วยการขับผ่านเนินเอียง ที่ตอนยืนดูก็ไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แต่เริ่มหวั่นใจเมื่อทดลองนั่งในรอบสาธิต และหวาดเสียวสุดๆ เมื่อต้องขับเอง ครูฝึกแนะนำว่าให้กดคันเร่งรักษาความเร็วให้ต่อเนื่อง ไม่เร็วเกินไป แต่ก็ต้องไม่ช้าเกินไปหรือจอดกลางทาง เพื่อให้ระบบ xDrive ทำงานต่อเนื่องจนสุดทาง ขับรอบแรกไม่น่ากลัวเท่าไร เพราะตัวผู้ขับอยู่บนยอดเนิน แต่ขากลับตัวผู้ขับอยู่ด้านล่างของเนินซึ่งดูแล้วใกล้ชิดกับพื้นมากเพราะตัวรถเอียงค่อนข้างมาก ไต่ได้มุมชันถึง 28 องศา ตามมาตรวัดบนจอที่คอนโซลกลาง
ครูฝึกบอกว่าถ้ารถมีอาการว่าจะไหลลงเนินหรือพลิก ให้หมุนพวงมาลัยพารถลงจากเนิน ไม่ใช่หมุนสวนทางซึ่งจะทำให้รถพลิกง่ายขึ้น ส่วนการลงจากเนินเอียง ให้หมุนพวงมาลัยให้ล้อหน้าฝั่งที่อยู่ด้านล่างของเนิน ยันกับพื้นไว้ก่อน เพื่อป้องกันการพลิกคว่ำ จากนั้นค่อยๆ เดินคันเร่งให้รถลงจากเนินครบทั้ง 4 ล้อ
ปิดท้ายด้วยการขับแบบ Gymkhana บนผืนทราย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีโอกาสได้ขับแบบนี้ ดูเวลาของเพื่อนๆ แล้วไม่กดดัน เพราะสู้ไม่ได้แน่ๆ เส้นทางก็ไม่ซับซ้อนและจำได้แล้วว่าต้องขับอย่างไรเพราะดูมาหลายรอบ สิ่งที่สร้างความกดดันมากที่สุดคือ ครูฝึกท่านหนึ่งที่รับหน้าที่เป็นคนพากษ์ ซึ่งพากษ์ได้กวนประสาทเรียกเสียงเฮฮาได้ตลอด แต่เมื่อถึงเวลาต้องขับเองก็เริ่มจะขำไม่ออก ขับออกจากเส้นสตาร์ตมีไพลอนวางไว้ห่างๆ ให้ขับอ้อม จากนั้นโค้งซ้ายกว้างๆ พยายามไม่ขับเร็วเพราะดูจากรอบอื่นๆ ถ้ามาเร็วรถจะสไลด์ออกนอกโค้ง ทำให้เสียเวลามาก |
|
 |
|
พ้นโค้งเข้าสู่ทางตรง พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม จึงกดคันเร่งเต็มที่ ปรากฎว่าทรายบริเวณนั้นค่อนข้างลึก รถเริ่มไหลจะไปชนไพลอน (ถ้าชนจะโดนบวกเวลาไพลอนละ 2 วินาที) ต้องแก้อาการด้วยการหมุนพวงมาลัย ต้องทั้งหลบไพลอนและควบคุมรถไปในทิศทางที่กำหนด ตื่นเต้นจนลืมไปว่าควรจะผ่อนคันเร่งช่วย รอดพ้นจากตรงนั้นมาได้เป็นโค้งซ้ายอีก คราวนี้เริ่มเข็ดจึงประคองความเร็วมาเพื่อเลี้ยวซ้าย กำลังจะต่อเนื่องด้วยการทำวงกลมรอบกรวยที่วางไว้ 4 ตัวเป็นสัญลักษณ์ ด้วยความที่ลังเลว่าจะวนซ้ายหรือวนขวาดี สุดท้ายเลยเหมาไพลอนไป 4 อัน ชนครั้งเดียวเต็มอิ่ม 8 วินาที ตั้งหลักใส่เกียร์ถอยแล้วขับเข้าเส้นชัยแบบอายๆ แทบไม่อยากลงจากรถ แล้วก็เป็นตามคาดเพราะว่าถูกนักพากษ์คนนั้นแซวจนกระทั่งงานเลิก
บทเรียนนี้สอนให้รู้ว่า การขับ การเลี้ยว และการเบรกด้วยความเร็วสูงบนพื้นทรายหรือพื้นที่มีความลื่นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะรถจะไม่ไปตามที่สั่งในทันทีทันใด ต้องเผื่อเวลาและระยะทางสำหรับการลื่นไถลไว้ด้วย แม้รถจะมีระบบช่วยเหลือที่ทันสมัย แต่ถ้าล้อไม่สามารถยึดเกาะผิวถนนได้แล้ว ระบบดีแค่ไหนก็คงช่วยได้ไม่มาก การขับด้วยความเร็วที่เหมาะสมและไม่ประมาท จึงน่าจะเป็นระบบความปลอดภัยที่ดีที่สุด เพราะความปลอดภัย เริ่มต้นจากผู้ขับ • |
|
ขอบคุณ บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จำกัด อำนวยความสะดวกตลอดการทดสอบ |
|