|
เรื่อง: T_service • ภาพ: ดูคาติ ประเทศไทย |
Saturday, 14 February, 2015 11:29 AM
|
|
 |
|
Ducati Scrambler MY2014 |
|
ถ้าใครอยากได้รถเก๋าๆ สักคัน อย่าเปิดข้ามไปนะครับ เพราะครั้งนี้ผมได้ร่วมขบวนทดสอบรถในตำนานอย่าง Ducati Scrambler รถมอเตอร์ไซค์ที่มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่า 50 ปี สร้างตำนานในยุค 60's ตีคู่นักกีต้าร์มือทองอย่าง Jimi Hendrix และเป็นยุครุ่งโรจน์ของเหล่าฮิปปี้ที่ต้องการอิสระ...
ก่อนที่จะเข้าเรื่องการทดสอบ มาทำความรู้จักกับความนิยมของเจ้า Scrambler กันสักหน่อย ว่าทำไม Ducati ถึงตั้งชื่อรุ่นแบบนี้ คำว่า "Scrambler" มีความหมายใกล้เคียงกับคำว่า Scramble ในภาษาอังกฤษที่แปลว่า การผสมผสาน การคลุกเคล้าแหล่งรวมความคิดอิสระเพื่อปลดปล่อยจินตนาการ แล้วถ่ายทอดแบ่งปันสิ่งดีๆ ไปสู่ผู้อื่น ดังนั้น Ducati Scrambler จึงไม่ใช่แค่รถจักรยานยนต์ แต่มันหมายถึงการเปลี่ยนแปลงกระแสสังคม โดยเน้นหลักการแห่งอิสรภาพความเป็นตัวของตัวเอง ความคิดนอกกรอบ พร้อมเปิดรับปรัชญาและแนวคิดใหม่ๆ
ไม่แปลกใช่มั้ยครับที่การคิดนอกกรอบจะได้รับความนิยมที่ยืนยาวขนาดนี้ |
|
 |
|
เอาล่ะ ในเมื่อรู้ความเป็นมาแล้ว ก็ถึงเวลาสตาร์ทอารมณ์ในการขี่กัน Scrambler คันที่นำมาทดสอบในครั้งนี้คือรุ่น Icon รถมอเตอร์ไซค์ที่มีรูปร่างคล้ายๆ กับรถวิบากขนาดเล็ก ออกแบบให้ใช้งานหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางฝุ่นหรือแม้กระทั่งถนนธรรมดาที่ใช้เดินทางประจำวัน เมื่อผมก้าวขาขึ้นคร่อมรถ เพื่อเช็คความเหมาะสมของท่านั่ง เจ้า Scrambler ดูเหมือนจะรับกับสรีระผมได้ดี เนื่องจากเบาะที่ไม่สูงมาก (แต่ก็มีความกว้างพอสมควร) ทำให้การวางเท้าที่พื้นมีความเหมาะสม เหยียบได้เกือบเต็มฝ่าเท้า สามารถขยับรถได้สะดวก ช่วงแฮนด์บังคับเลี้ยวมีความกว้างพอสมควร เมื่อเทียบกับรถ Naked bike แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรในการควบคุม
มาตรวัดรอบไฟฟ้าทำงานผ่านจอ LCD แสดงผลพื้นฐานทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นรอบเครื่องยนต์ ความเร็ว (สามารถปรับเปลี่ยนหน่วยเป็น k/m หรือ m/h ได้) และระบบเตือนน้ำมัน ทว่าไม่มีตัวแสดงอัตราน้ำมัน แต่มีระบบคำนวนการเตือนมาทดแทน เมื่อไฟเตือนกระพริบจะมีตัวเลขขึ้นโชว์ว่าวิ่งไปกี่กิโลเมตร ซึ่งทางฝ่ายเทคนิคของ Ducati ให้ข้อมูลว่า "ไม่ควรเกิน 30 กิโลเมตรเมื่อตัวเลขรันขึ้นมา" ส่วนปุ่มคอนโทรลเปลี่ยนฟังชั่นอยู่ทางด้านซ้ายมือ ถ้าจะเข้าปรับเปลี่ยนโหมดให้ดันสวิตซ์ด้านล่างแตรค้างไว้ หน้าเรือนไมล์จะเปลี่ยนเข้าโหมดฟังชั่นต่างๆ แล้วก็เปลี่ยนได้ตามต้องการ
เมื่อตั้งหลักพร้อมแล้วก็ถึงเวลาสตาร์ท ต้องยอมรับเลยว่าเสียงเครื่องยนต์ L-Twin Desmodromic ขนาด 830 ซีซี ส่งเสียงได้ดุดันมาก (นี่ขนาดปลายท่อเดิมๆ) เครื่องยนต์แบบ 2 สูบ สร้างความสั่นสะท้านไปทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดเท้า (แบบนี้สิถึงเรียกว่าม้าพยศ) ขณะออกตัวเบาๆ สเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ส่งกำลังจากเครื่องยนต์ 75 แรงม้า แรงบิด 68 นิวตันเมตร สร้างแรงกระชากทันทีตั้งแต่ปล่อยคลัทช์เบาๆ |
|
 |
|
การออกตัวด้วยคันเร่งแบบสายและคลัทช์แบบสาย ดูเหมือนจะลงตัวมากว่าคันเร่งไปฟ้าและคลัทช์น้ำมันที่อยู่ Ducati รุ่นอื่น ช่วยให้ออกตัวได้ดี และยังควบคุมได้ง่าย แต่ก็ไม่นุ่มนวลมากจนเกินไป ระบบเกียร์ธรรมดาแบบ 6 สปีด ดูเหมือนจะถูกปรับตั้งให้มีความชิดกันพอสมควร ขี่ทางไกลเหมือนจะหมดเร็วไปสักหน่อย ซึ่งดูเหมือนว่าน่าจะปรับเซ็ตให้เข้ากับการขี่ทางขรุขระมากกว่า
ในการทำความเร็ว Scrambler สามารถไปได้ถึง 160 กิโลเมตร/ชั่วโมงแบบสบายๆ คันเร่งตอบสนองได้ดี แต่ดูเหมือนว่ารอบเครื่องยนต์จะสูงไปสักนิด ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการลดลงของพละกำลังที่เหลือเพียง 75 แรงม้า ซึ่งเมื่อเทียบกับรถที่มีเครื่องยนต์ใกล้เคียงกันอย่าง Hypermotard ที่มีขนาด 821 ซีซี 110 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 89 นิวตันเมตร
แต่ไม่เป็นไรครับ อย่าลืมว่า Ducati Scrambler คือรถกึ่งวิบาก ถ้ารอบเครื่องมาเร็วจนเกินไป อาจจะทำให้สูญเสียการควบคุมได้บนพื้นผิวแบบขรุขระ เท่าที่สังเกตความเร็วที่ควบคุมง่ายที่สุดอยู่ในช่วงความเร็ว 100 - 120 กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยท่านั่งแบบหลังตรงที่ถูกบังคับด้วยแฮนด์จะถูกลมปะทะมากที่สุด ยิ่งขี่เร็วมากเท่าไหร่ ลำตัวก็จะต้านลมมากเท่านั้น ทำให้ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากในการขี่ที่มีความเร็วสูง
การเข้าโค้งนับว่าตอบสนองได้ดี จุดศูนย์ถ่วงต่ำ รถมีน้ำหนักเบา ทำให้ควบคุมได้ง่าย ระบบกันสะเทือนหน้าช๊อคฯ เทเลสโคปิกแบบกลับหัว ขนาด 41 มิลลิเมตร ด้านหลังเป็นแบบโมโนช๊อคฯ ซับแรงกระแทกได้ดี ทั้งพื้นถนนแบบไฮเวย์ที่มีความกระด้างมากในบ้านเรา และพื้นถนนแบบขรุขระนอกเส้นทาง ส่วนระบบเบรกด้านหน้าแบบเดี่ยวขนาด 330 มิลลิเมตร พร้อมปั๊มเบรคขนาดใหญ่ 4 ลูกสูบ และด้านหลังขนาด 245 มิลลิเมตร ทำงานคู่กับปั๊มเบรคแบบ 1 ลูกสูบ พ่วงด้วยระบบ ABS มั่นใจได้เวลาเบรคหนักๆ หรือต้องใช้งานในยามฉุกเฉิน
สรุป... ถ้าใครหลงไหลคำว่า "ย้อนยุค" Ducati Scrambler นับว่าเป็นมอเตอร์ไซค์ที่สานต่อความฝันได้เป็นอย่างดี ทั้งรูปร่างหน้าตา การออกแบบ ยาวไปถึงเครื่องยนต์ เรียกได้ว่าลงตัวที่สุด ขณะเดียวกัน Scrambler ก็ไม่ใช่รถโบราณตกยุค เนื่องจากแฝงเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกมาให้ไม่น้อย แม้จะไม่แรงเร้าใจเหมือนที่คาดไว้ เพราะรถคันนี้ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานในรูปแบบคลาสสิก ขี่กันแบบชิลด์ๆ ได้ในทุกเส้นทาง • |
|
 |
|
ราคาจำหน่าย
• Ducati Scrambler Icon สีแดง ราคา 369,900 บาท
• Ducati Scrambler Icon สีเหลือง ราคา 374,900 บาท
• Ducati Scrambler Full Throttle ราคา 419,900 บาท
• Ducati Scrambler Classic ราคา 419,900 บาท
• Ducati Scrambler Urban Enduro ราคา 419,900 บาท |
|
ข้อมูลจำเพาะ
- รุ่น : Ducati Scrambler Icon 2014
- ขนาดเครื่องยนต์: 803.00 cc.
- รายละเอียดเครื่องยนต์ : L-Twin 2 สูบ , 2 วาล์ว/สูบ ระบบขับวาล์วแบบ Desmodromic
- แรงม้า : 75 แรงม้า ที่ 8,250 รอบ/นาที
- แบบเครื่องยนต์ : 4 จังหวะ
- ระบบเกียร์ : เกียร์ธรรมดา 6 เกียร์ Wet multiplate with hydraulic control
- ระบบระบายความร้อน : อากาศ
- ระบบสตาร์ท : สตาร์ทไฟฟ้า (มือ)
- ระบบจุดระเบิด : n/a
- ระบบจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง : หัวฉีด
- ความจุถงน้ำมัน : 13.5 ลิตร
- น้ำหนัก : 186 กก.
ระบบกันสะเทือน
- หน้า :Upside Down ขนาด 41 มม.
- หลัง : โมโนช๊อคปรับความแข็งสปริง
ระบบเบรค
- หน้า : ดิสก์เบรคขนาด 330 มม.
- หลัง : ดิสก์เบรคขนาด 245 มม.
ขนาดยาง
- หน้า : 110/80 ZR18
- หลัง : 180/55 ZR17 |
|
ขอบคุณ: บริษัท ดูคาทิสติ จำกัด (ดูคาติ ไทยแลนด์) อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง |
|