|
|
เรื่อง: ARIA 54 •
Friday, 24 April, 2015 0:29 AM
|
|
 |
|
2015 CHEVROLET FNR CONCEPT |
|
เชฟโรเลต โชว์แนวคิดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าพร้อมระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ หรือ autonomous car อีกครั้ง นับจากการเผยโฉมต้นแบบรถโครงข่ายอัจฉริยะ EN-V concept ในช่วงปี 2011 - 2012 รวมทั้งมีการ จัดแสดงในบ้านเรา ที่งาน 2011 Motor Expo ด้วย การพัฒนายังคงอาศัยความร่วมมือของ PATAC หรือ Pan Asia Technical Automotive Center ในเซี่ยงไฮ้ เช่นเดียวกับการพัฒนา EN-V การจัดแสดงมีขึ้นที่งาน 2015 เซี่ยงไฮ้ ออโต้โชว์ ระหว่างวันที่ 22 - 29 เมษายน 2015
โดยพื้นฐาน FNR Concept และ EN-V ได้รับการพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิดเดียวกัน คือเป็นรถสำหรับผู้คนในยุคอนาคต ใช้งานในเมืองใหญ่ เน้นความสะดวกสบายภายใต้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ลดการควบคุมหรือการกระทำซ้ำๆ ของผู้ใช้งาน (เช่น ถือพวงมาลัย เร่ง เบรค) มีการเชื่อมต่อกับโครงข่ายการจราจรขนาดใหญ่ รวมทั้งมีการสื่อสารกันระหว่างรถกับรถ
และรถกับฐานข้อมูลส่วนกลาง
จุดที่มีความแตกต่างกันก็คือ EN-V หรือ Electric Networked-Vehicle เป็นพาหนะขนาดเล็กแบบ PMV หรือ Personal Mobility Vehicle ใช้งานได้ดีในพื้นที่จำกัด หรือเมืองใหญ่ที่มีการจราจรแออัด ในขณะที่ FNR Concept เป็นรถไฟฟ้าที่แม้จะใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ทว่าผู้ขับจะยังสามารถสนุกกับการควบคุมเองได้ในแบบรถสปอร์ตขนาดเล็ก กลุ่มเป้าหมายก็คือหนุ่มสาวในเจนเนอเรชั่นต่อไปนั่นเอง
จุดเด่นของ FNR Concept คือการออกแบบคอคพิทในลักษณะแคปซูล ชุดโคมไฟหน้า-หลังใช้เทคโนโลยี crystal laser กระจายแสงและสีได้หลายรูปแบบตามเหลี่ยมมุมของคริสตัล ติดตั้งประตูบานสวิงแบบเปิด 4 บาน เชฟโรเลต เรียกว่าประตูแบบ "ปีกแมลงปอคู่" หรือ dragonfly dual swing doors ส่วนล้อพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้า ใช้เทคโนโลยีไร้ดุมแบบ hubless ปิดท้ายด้วยระบบชาร์จแบตเตอรี่รถอัตโนมัติแบบไร้สาย wireless auto-charge system |
|
 |
|
ด้านระบบอำนวยความสะดวกในการขับ ประกอบด้วยเรดาห์สำหรับตรวจจับสภาพแวดล้อมรอบคัน ติดตั้งอยู่บนหลังคา ป้อนข้อมูลให้กับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ซึ่งเป็นแนวคิดในลักษณะเดียวกับ Google self driving, แทนที่พวงมาลัยด้วยจอทัชสกรีนแบบเต็มแผง รองรับระบบสั่งงานด้วยการเคลื่อนไหวมือ หรือ Gesture control, ระบบ Chevy Intelligent Assistant วิเคราะห์เส้นทางที่ดีที่สุดในฐานะผู้ช่วยส่วนตัว ทำงานร่วมกับระบบนำทาง, ระบบ iris recognition แสกนม่านตาเพื่อสตาร์ทรถ และในขณะที่ใช้งานโหมด self-driving ชุดเบาะผู้ขับและผู้โดยสารด้านหน้า สามารถหมุนกลับได้ 180 องศาเพื่อจัดวางตำแหน่งใช้งานแบบเบาะประชุม
แน่นอนว่าทั้งหมดนี้เป็นแค่แนวคิด แต่หากแยกการทำงานออกมาเป็นส่วนๆ เราจะพบว่ามีหลายเทคโนโลยีที่มีใช้จริงแล้วในยุคปัจจุบัน นั่นหมายถึงคำว่า "รถแห่งอนาคต" มีกรอบเวลาที่ใกล้ความจริงเข้าไปทุกที
GM - SAIC - PATAC
GM และ SAIC Motor Corp., Ltd. ได้ลงนาม MOU ร่วมกันเพื่อพัฒนาธุรกิจยานยนต์ รองรับการเติบโตของธุรกิจในจีนและทั่วภูมิภาค ตั้งแต่ช่วงปี 2010 อาทิ การพัฒนารถยนต์ที่ใช้พลังงานรูปแบบใหม่ การร่วมกันวิจัย-พัฒนางานด้านวิศวกรรม และการออกแบบรถยนต์ในนาม Pan Asia Technical Automotive Center หรือ PATAC โดยงานแรกที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงก็คือ การจัดแสดง SAIC-GM Pavilion ในงาน World Expo 2010 ที่ประเทศจีน • |
|
|
|
|