|
ภาพ: จันทนา เจริญทวี |
Saturday, 14 March, 2015 00:59 AM |
|
 |
|
Mercedes-Benz |
|
เมอร์เซเดส-เบนซ์ ฉลองครบรอบ 110 ปี ในประเทศไทย จัดงาน The Endless Journey of Silver Star โชว์ศักยภาพผู้นำอันดับหนึ่ง ด้านนวัตกรรมยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม เชิญคณะแขกผู้มีเกียรติพร้อมด้วยสื่อมวลชน เข้าเยี่ยมชมกระบวนการประกอบ Mercedes-Benz C 300 BlueTEC HYBRID เป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมเตรียมรุกตลาดรถหรูปี 2558 หลังทุ่มงบกว่า 650 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตรถยนต์ประกอบภายในประเทศหรือ CKD (Completely Knocked Down) ณ โรงงานธนบุรีประกอบรถยนต์ หรือ TAAP จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อรองรับความต้องการในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น
มร. ไมเคิล เกรเว่ (Michael Grewe) ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "นับจากปี พ.ศ. 2448 ที่ได้มีการส่งมอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์คันแรกให้กับสำนักพระราชวังในประเทศไทย จนถึงปัจจุบัน นับเป็นเวลากว่า 110 ปีแล้ว บริษัทฯ ได้ดำเนินธุรกิจด้วยวิสัยทัศน์ในการนำเสนอ 'สิ่งที่ดีที่สุด' ให้กับผู้บริโภคชาวไทยเสมอมา ส่งผลให้ในปีที่ผ่านมา เมอร์เซเดส-เบนซ์ ยังคงความเป็นผู้นำตลาดรถพรีเมี่ยมในประเทศไทย ต่อเนื่องยาวนานถึง 14 ปี" |
|
 |
• มร. ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด |
 |
|
"นอกจากนี้ นวัตกรรมยานยนต์เพื่อสิ่งแวดล้อม เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย เป็นบริษัทแรกที่ได้นำเทคโนโลยีดีเซล ไฮบริด เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย โดยได้เริ่มดำเนินการผลิตรถยนต์ที่ใช้เทคโนโลยีดีเซล ไฮบริด ในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2556 ภายใต้สายการผลิต E-Class และเริ่มสายการผลิต S-Class ในปีต่อมาตามลำดับ"
"ในโอกาสครบรอบ 110 ปี ของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในประเทศไทย บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการเปิดสายการผลิตเมอร์เซเดส-เบนซ์ รุ่น C 300 BlueTEC HYBRID เพื่อตอกย้ำให้เห็นถึงการไม่หยุดนิ่งของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ในความมุ่งมั่นนำเสนอนวัตกรรมยานยนต์ให้กับผู้บริโภค ทั้งในด้านผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต อีกทั้งยังเป็นการเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล ไฮบริด ในตระกูล Contemporary Luxury ได้อย่างครบครัน ทั้ง C-E-S หลังจากบริษัทฯ ได้ทุ่มงบประมาณกว่า 650 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิตรองรับ ความต้องการในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น โดยให้ความสำคัญกับการผลิตรถยนต์ดีเซล ไฮบริด เพื่อช่วยลดการใช้พลังงาน และลดปริมาณคาร์บอนไดอ๊อกไซค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ"
"ทั้งนี้ การขยายกำลังการผลิตจะสำเร็จไม่ได้ หากขาดความร่วมมือที่ดีจาก บริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด กับการเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เมอร์เซเดส-เบนซ์ ประเทศไทย มาอย่างยาวนาน ด้วยบทบาทของผู้ประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ภายใต้มาตรฐานคุณภาพการประกอบรถยนต์จาก เดมเลอร์ เอจี ประเทศเยอรมนี" มร. ไมเคิล กล่าว |
|
 |
|
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เป็นแบรนด์รถหรูเพียงแบรนด์เดียวในประเทศไทย ที่มีการประกอบรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซล ไฮบริด ภายในประเทศครบทั้ง 3 ขั้นตอนหลัก ตั้งแต่ การประกอบโครงสร้างตัวถังรถ (Body shop) ซึ่งประกอบด้วยชิ้นส่วนที่มีทั้งเหล็กชนิดพิเศษ และอลูมิเนียม แข็งแรง น้ำหนักเบา, การทำสี (Paint) ซึ่งใช้มาตรฐานการทำสีของเมอร์เซเดส-เบนซ์ และ การประกอบขั้นสุดท้าย (Final Assembly) ด้วยความพิถีพิถัน โดยมีการใช้เทคโนโลยีดีเซล ไฮบริด และใช้อะไหล่ที่ผลิตในประเทศมากกว่า 40% ภายใต้มาตรฐานคุณภาพการประกอบรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ จากบริษัท เดมเลอร์ เอจี ประเทศเยอรมนี โดยในปีนี้คาดว่า C 300 BlueTEC HYBRID จะพร้อมส่งมอบให้กับลูกค้าตั้งแต่เดือนเมษายน 2558 นี้เป็นต้นไป
มร. มาร์ทิน ชูลซ์ (Martin Schulz) รองประธานบริหารฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "The new C-Class BlueTEC HYBRID นับเป็นยนตรกรรมในตระกูล C-Class ที่เข้ามาเติมเต็มพอร์ทโฟลิโอของรถยนต์ดีเซล ไฮบริด ในกลุ่ม Contemporary Luxury ให้ครบครันมากยิ่งขึ้น โดยรถยนต์ทั้ง 2 รุ่น คือ C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive และ C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic มาพร้อมกับเทคโนโลยี HYBRID การทำงานอย่างยอดเยี่ยมของระบบควบคุมพลังงาน ซึ่งทำหน้าที่ในการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ดีเซลแบบ 4 สูบกับมอเตอร์ไฟฟ้า และระบบเกียร์ ให้เป็นไปโดยอัตโนมัติ ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการประหยัดเชื้อเพลิงและลดมลพิษ" |
|
 |
|
"ทุกครั้งที่ชะลอความเร็วหรือเบรก มอเตอร์ไฟฟ้าจะทำหน้าที่เป็นเจนเนอเรเตอร์ แปลงพลังงานจลน์ที่เหลืออยู่ในระบบขับเคลื่อน ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้า สะสมไว้ในแบตเตอรี่ ลิเธี่ยม-ไอออน เพื่อเก็บสำรองไว้และนำกลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งรถยนต์รุ่นนี้ได้ผ่านมาตรฐานความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง และปริมาณไอเสีย (Euro 6) ที่เข้มงวดอีกด้วย"
"สำหรับดีไซน์ภายนอกของ The new C-Class BlueTEC HYBRID ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิดด้านสุนทรียศาสตร์แบบสมัยใหม่ ผสานความพริ้วไหวและองค์ประกอบต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้ตัวรถดูสปอร์ต ทันสมัย และเร้าใจขณะขับขี่ โดย C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive หรูหราด้วยกระจังหน้าแบบคลาสสิค ที่มาพร้อมกับโลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์บนฝากระโปรงลาย 3 แถบเสริมโครเมียม"
"C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic มาพร้อมกระจังหน้าแบบสปอร์ต มีสัญลักษณ์โลโก้เมอร์เซเดส-เบนซ์ ขนาดใหญ่ตรงกลาง บนลาย 2 แถบ พร้อมด้วยชุดแต่งสปอร์ตแบบ AMG ดีไซน์ภายในได้รับการออกแบบโดยเน้นความหรูหรา แต่ยังคงความสปอร์ตเอาไว้เช่นเดิม นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยแผงคอนโซลกลาง ที่สร้างเป็นชิ้นเดียวกับพนักวางแขน รวมถึง touchpad ที่ติดตั้งบริเวณที่พักแขน ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการทำงานของอุปกรณ์เครื่องเสียง อาทิ วิทยุ-ซีดี MB Audio 20 ที่บริเวณคอนโซลได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส" มร. มาร์ทิน กล่าวเพิ่มเติม |
|
 |
|
The new C-Class BlueTEC HYBRID |
รุ่น |
เครื่องยนต์ |
ปริมาตร
กระบอกสูบ
(ซีซี) |
แรงม้า/
รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด
(นิวตันเมตร/
รอบต่อนาที) |
อัตราเร่ง
0-100
กม ./ชม. |
ความเร็วสูงสุด
โดยประมาณ
(กม./ชม.) |
อัตราสิ้นเปลือง
น้ำมันโดยเฉลี่ย
(กม./ลิตร) |
C 300
BlueTEC
HYBRID
Exclusive |
ดีเซล
แถวเรียง 4 สูบ
เทอร์โบคู่
อินเตอร์คูลเลอร์ |
2,143 |
204 / 3,800
จากมอเตอร์ไฟฟ้า
27 แรงม้า |
500/1,600-1,800
จากมอเตอร์ไฟฟ้า
250 นิวตันเมตร |
6.4
วินาที
|
244 |
25.0-27.7 |
C 300
BlueTEC
HYBRID
AMG Dymamic |
ดีเซล
แถวเรียง 4 สูบ
เทอร์โบคู่
อินเตอร์คูลเลอร์ |
2,143 |
204 / 3,800
จากมอเตอร์ไฟฟ้า
27 แรงม้า |
500/1,600-1,800
จากมอเตอร์ไฟฟ้า
250 นิวตันเมตร |
6.4
วินาที
|
244 |
25.0-27.7 |
|
|
ราคาจำหน่าย
• C 300 BlueTEC HYBRID Exclusive ราคา 2,840,000 บาท • C 300 BlueTEC HYBRID AMG Dynamic ราคา 3,090,000 บาท
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมยนตรกรรมรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ได้ที่งาน บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 36 ระหว่างวันที่ 25 มีนาคม ถึง 5 เมษายน 2558 นี้ ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี • |
|