|
|
เรื่อง: นาธัส แสงสุริยะ • ภาพ: นิสสัน ประเทศไทย |
Wednesday, 28 May, 2014 9:11 PM |
|
 |
|
Nissan Livina & Pulsar Turbo |
|
หลังเปิดตัว พร้อมกัน 3 รุ่น ไปเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นิสสัน ก็จัดให้สื่อมวลชนได้ทดสอบแบบกลุ่มกับรถ 2 รุ่น คือ ลิวิน่า เครื่องยนต์ 1,600 ซีซี 114 แรงม้า และ พัลซาร์ DIG Turbo เครื่องยนต์เบนซิน ไดเร็คอินเจ็คชั่น เทอร์โบ 1,600 ซีซี 190 แรงม้า ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-สระบุรี เดินทางด้วย ลิวิน่า ไปยัง บูด้า รีสอร์ท มวกเหล็ก ซึ่งถูกใช้เป็นที่ทานอาหารกลางวัน ทำกิจกรรมสนุกๆ และทดลองขับ พัลซาร์ DIG Turbo ในระยะทางสั้นๆ
การเดินทางครั้งนี้มี ลิวิน่า ทั้งหมด 4 คัน นั่งคันละ 3-4 คน เดินทางกันแบบขบวนคาราวานช่วยลดความกังวลเรื่องการหลงทางไปได้บ้าง ผมอาสาขอขับก่อนโดยออกเดินทางจาก อาคารนันทวัน สำนักงานใหญ่ของนิสสัน ซึ่งตั้งอยู่แถวราชดำริ วนกลับมาขึ้นทางด่วนขาออกนอกเมือง ต่อด้วยยางยกระดับดอนเมือง-โทลเวย์ ต่อเนื่องถนนพหลโยธิน จากนั้นจึงแวะพักพร้อมเปลี่ยนคนขับที่ปั๊มน้ำมันฯ ระยะทาง 82.3 กิโลเมตร ได้อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยดีเกินคาด 18.6 กิโลเมตรต่อลิตร เพราะตลอดการเดินทาง รถนำขบวนใช้ความเร็วประมาณ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รวมทั้งเกียร์อัตโนมัติ CVT ที่มีอัตราทดเกียร์สุดท้ายค่อนข้างต่ำ ที่ความเร็ว 90 และ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เครื่องยนต์หมุนประมาณ 1,500 และ 1,750 รอบต่อนาที จึงช่วยให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงขึ้นอีก
ระบบกันสะเทือนหน้าอิสระแม็กเฟอร์สันสตรัตพร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังทอร์ชั่นบีมพร้อมเหล็กกันโคลง รุ่นที่ขับเป็นรุ่นสูงสูงสุด 1.6V CVT จึงได้ยางขนาด 195/55 R16 ช่วงแรกที่ออกเดินทางต้องขับผ่านถนนที่มีฝาท่อโลหะทรงกลม รู้สึกว่ามีแรงกระแทกมากไปนิด ความรู้สึกคล้ายเวลาขับรถที่เติมลมยางมากเกินไป ระยะต่ำสุดของรถรุ่นนี้อยู่ที่ 175 มิลลิเมตร อยู่กึ่งกลางระหว่างรถเก๋งกับเอสยูวีแท้ๆ ในด้านทัศนวิสัยจึงปลอดโปร่งกว่ารถเก๋งอยู่บ้าง โดยความรู้สึกขณะขับยังไม่แตกต่างจากขับรถเก๋ง |
|
 |
|
นิสสันจัดรถรุ่นนี้ว่าเป็นคอมแพกต์เอสยูวี แต่ผมคิดว่าน่าจะเป็นครอสโอเวอร์หรือรถเก๋งไซส์คอมแพ็กต์แบบสเตชั่นแวกอน ที่ยกช่วงล่างให้สูงขึ้น ประเภทเดียวกับ ซูบารุ เอาท์แบ็ก หรือวอลโว่ ตระกูล XC มากกว่าจะเป็นเอสยูวี
ในช่วงที่ขับบนทางโล่งทั้งบนทางด่วนและโทลเวย์ ใช้ความเร็วไม่สูงนักรู้สึกว่าพวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าหนืดมือพอเหมาะ ไม่เบาหวิวจนเกินไป ส่วนระบบกันสะเทือนก็ให้ความนุ่มนวลบนทางเรียบ ให้ความมั่นใจในการควบคุมเมื่อขับด้วยความเร็วปกติ ระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัม มีตัวช่วยครบครันทั้ง ABS, EBD และ BA ในทุกรุ่นย่อย ประสิทธิภาพการเบรกอยู่ในระดับดีทั้งการแตะเบรกเบาๆ และในการเบรกหนักๆ ความเร็วก็ถูกดึงลงได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีอาการเบรกไหลให้หวาดเสียว
รูปลักษณ์ภายนอกสไตล์แวกอนท้ายตัด 5 ประตู เสริมด้วยการตกแต่งสไตล์รถสำหรับลุยด้วยการ์ดใต้กันชนหน้า-หลังและด้านข้างสีโครเมียม ขอบล่างของตัวถังและโป่งล้อเสริมด้วยวัสดุสีดำ ล้อแม็กลายสวยขนาด 16 นิ้ว บนหลังคามีแร็กไว้รองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริม มิติตัวถังมีความยาว 4,310 มิลลิเมตร กว้าง 1,735 มิลลิเมตร สูง 1,635 มิลลิเมตร ฐานล้อ 2,600 มิลลิเมตร ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,475/1,480 มิลลิเมตร ระยะต่ำสุด 175 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1,175 กิโลกรัม |
|
 |
|
เครื่องยนต์รหัส HR16DE บล็อกเดียวกับ Juke และรถอีกหลายรุ่นของนิสสัน เป็นแบบเบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว มีระบบแปรผันวาล์ว Twin C-VTC และหัวฉีดคู่ต่อกระบอกสูบ ความจุ 1,598 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 84 กิโลวัตต์ หรือ 114 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 15.6 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบต่อนาที รุ่นพื้นฐาน 1.6E MT ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ ส่วนรุ่นท๊อปที่ทดลองขับและรุ่นรองท๊อปใช้เกียร์อัตโนมัติ CVT
เปรียบเทียบอัตราทดเกียร์สูงสุดและอัตราทดเฟืองท้ายของรุ่นเกียร์ธรรมดาและเกียร์อัตโนมัติแล้ว ถ้าเดินทางไกลด้วยความเร็วคงที่ ในเกียร์สูงสุดรุ่นเกียร์ CVT จะใช้รอบต่ำกว่า ซึ่งช่วยลดความสึกหรอและอัตราสิ้นเปลืองได้ ในด้านอัตราเร่งถือว่าดีสำหรับรถในพิกัด 1,600 ซีซี ทันใจขึ้นอีกนิดเพราะมีเกียร์ CVT มาช่วย เมื่อกดคันเร่งสุดรอบจะตวัดขึ้นสูงและคาอยู่แถว 6,000 รอบต่อนาที ช่วยให้อัตราเร่งทันใจขึ้นบ้าง |
|
 |
|
ภายในห้องโดยสารติดตั้งอุปกรณ์มาตรฐานมาพอสมควร มีระบบ Keyless Entry ช่วยอำนวยความสะดวกขณะเข้า-ออกจากรถ รุ่นสูงสุดตกแต่งด้วยหนังแท้สีดำ ส่วนอีก 2 รุ่นที่รองลงไปให้เบาะผ้าสีดำ มาตรวัดมีจอแสดงข้อมูลการขับมาให้ คอนโซลกลางติดตั้งชุดเครื่องเสียงของ Kenwood แบบหน้าจอสัมผัส พร้อมลำโพง 4 ตัว ความกว้างขวางของห้องโดยสารอยู่ในเกณฑ์เฉลี่ยโดยเฉพาะด้านหลัง ถ้าจะนั่งให้สบายยังต้องให้ผู้โดยสารด้านหน้าช่วยเลื่อนเบาะให้บ้าง พนักพิงเบาะหลังปรับมุมมาตั้งชันไปนิดและปรับเอนไม่ได้ ส่วนเรื่องการกระจายความเย็นไม่มีปัญหา เพราะมีช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารด้านหลังมาให้ ที่อยากได้เพิ่มคือ ที่เท้าแขนสำหรับเบาะหน้าและเบาะหลัง
นิสสันชูจุดเด่นเรื่องความจุของห้องเก็บสัมภาระด้านท้ายที่มีความจุ 383 ลิตร และเพิ่มเป็น 769 ลิตรเมื่อพับพนักพิงเบาะหลัง พร้อมให้สื่อมวลชนพิสูจน์ความจุด้วยเกมนำของใส่รถ ลิวิน่า ใครทำเวลาได้เร็วที่สุดเป็นผู้ชนะ คนแรกๆ ยังเกรงใจนิสสัน ค่อยๆ วางของอย่างระมัดระวัง แต่คนหลังๆ เริ่มใช้วิธีโยนและยัดซึ่งก็ได้ผล เพราะสามารถนำของชิ้นใหญ่กองโต ใส่รถพร้อมปิดประตูทุกบานได้ในเวลาไม่ถึง 30 วินาที รับของรางวัลแบบขำๆ เพราะทุกชิ้นถูกห่ออย่างมิดชิดวางไว้ 1 กอง ผู้ที่ทำเวลาดีที่สุดในอันดับต่างๆ จะได้เลือกของก่อนส่วนจะได้อะไรนั้นก็แล้วแต่ดวง • |
|
 |
|
Specification: Nissan Livina 1.6V CVT |
แบบตัวถัง |
เอนกประสงค์ 5 ประตู |
ยาว x กว้าง x สูง |
4,310 x 1,735 x 1,635 มิลลิเมตร |
ฐานล้อ |
2,600 มิลลิเมตร |
ความกว้างล้อหน้า/หลัง |
1,475/1,480 มิลลิเมตร |
ระยะต่ำสุดจากพื้น |
175 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก |
1,175 กิโลกรัม |
แบบเครื่องยนต์ |
เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Twin-C-VTC |
ความจุ |
1,598 ซีซี |
กระบอกสูบ x ช่วงชัก |
78.0 x 83.6 มิลลิเมตร |
อัตราส่วนการอัด |
9.8:1 |
กำลังสูงสุด |
114 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด |
15.6 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบต่อนาที |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติ XTRONIC CVT |
ระบบขับเคลื่อน |
ล้อหน้า |
ระบบบังคับเลี้ยว |
แร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS |
ระบบกันสะเทือนหน้า |
อิสระแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง |
ระบบกันสะเทือนหลัง |
ทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง |
ระบบเบรกหน้า/หลัง |
ดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน/ดรัม พร้อม ABS, EBD และ BA |
ผู้จำหน่าย |
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด |
โทรศัพท์ |
0-2257-4200 |
เวบไซต์ |
www.nissan.co.th |
|
|
 |
|
หลังจากทำกิจกรรมสนุกๆ กับ ลิวิน่า เสร็จแล้ว ก็สลับมาลองขับ พัลซาร์ DIG Turbo ในระยะทางสั้นๆ ประมาณ 16 กิโลเมตร ขับไปขับกลับเฉยๆ ก็ดูจะน่าเบื่อไปหน่อย นิสสันจึงจัดเกมให้เล่นกันอีก โดยแบ่งสื่อมวลชนออกเป็นทีมละ 2 คน ผลัดกันขับคนละ 16 กิโลเมตร โดยในระยะทางไป-กลับ ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 16 นาที แล้วมาดูกันว่าใครใช้เวลาใกล้เคียง 16 นาทีมากที่สุดก็เป็นผู้ชนะ การจับเวลาจะทำโดยคณะกรรมการ ขับไปครึ่งทางรับน้ำองุ่นที่ทางทีมงานนิสสันเตรียมไว้ให้แล้วจึงขับกลับ ระหว่างทางห้ามจอดรถเพื่อดึงเวลา แต่สามารถขับคลานๆ ช้าๆ ได้
ถึงรอบที่ผมขับฝนก็เทลงมาพอดี ผมรับหน้าที่ขับก่อนส่วนเพื่อนอีกคนเป็นผู้ทำทาง ปรากฎว่าพากันหลงไปเล็กน้อย กลับมาถึงจุดลงเวลาด้วยระยะทางกว่า 22 กิโลเมตร กับเวลาที่ใช้ไป 21 นาที กรรมการที่จุดลงเวลากลางทางที่คอยแจกน้ำองุ่นคงจะเห็นคันผมหายไปนานผิดสังเกต จนต้องมีการโทรตามตัวกัน สร้างความตื่นเต้นวุ่นวายให้กรรมการเล็กน้อย
พัลซาร์ DIG turbo ใช้เครื่องยนต์รหัส MR16DDT เบนซินไดเร็คอินเจ็คชั่นเทอร์โบ 1,600 ซีซี คำว่า DIG มาจาก Direct Injection Gasoline เคลือบผิวนาโนลดการเสียดสีระหว่างเพลาลูกเบี้ยวและตัวยกวาล์ว ตัววาล์วไอเสียหล่อโซเดียมไว้ภายในก้านวาล์ว ช่วยถ่ายเทความร้อนจากห้องเครื่องยนต์ผ่านวาล์วไอเสีย ลูกสูบออกแบบให้มีช่องหล่อเย็นพร้อมหัวฉีดน้ำมันช่วยลดความร้อนของตัวลูกสูบ เครื่องยนต์รุ่นนี้มีกำลังสูงสุด 190 แรงม้า ที่ 5,600 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 24.4 กก.-ม. มาที่รอบ 2,400-5,200 รอบต่อนาที เกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมโหมด Manual +/-
อาจเป็นเพราะคาดหวังกับตัวเลข 190 แรงม้ามากไปหน่อย พอได้ขับจริงจึงรู้สึกว่าไม่จี๊ดจ๊าดเท่าที่ควร โดยเฉพาะในรอบต่ำ-ปานกลาง ทั้งที่สเปคระบุว่าแรงบิดสูงสุดมาที่รอบ 2,400-5,200 รอบต่อนาที ลองใช้โหมด Manual หรือโหมด +/- ก็ช่วยได้นิดหน่อย และจะช่วยมากในด้านการรักษารอบไม่ให้ตกเมื่อผ่อนคันเร่ง เพราะเกียร์คงอยู่ในเกียร์เดิมไม่เปลี่ยนขึ้นเกียร์สูง ช่วยให้กดคันเร่งซ้ำแล้วรอบไต่ขึ้นอย่างรวดเร็ว ลองกดคันเร่งหนักๆ ไล่รอบขึ้นไปถึง 5,000รอบฯ จึงรู้สึกถึงแรงฉุดของเครื่องยนต์ ที่มากกว่ารถทั่วไปอยู่บ้าง ทำเอารถออกอาการอันเดอร์สเตียร์เล็กๆ เพราะกำลังอยู่ในโค้ง แต่ก็เอาอยู่เพราะมีระบบช่วยอย่าง TCS และ VDC
ระบบกันสะเทือนระบุว่าเปลี่ยนสปริงและช๊อคแอ็บซอร์เบอร์ที่มีความหนืดกว่ารุ่นพื้นฐานล้อและยางขนาด 205/50 R17 ช่วงที่ลองขับเป็นทางโค้งจึงได้ลองประสิทธิภาพของช่วงล่างบ้าง ก็รู้สึกหนึบแน่นดี ระบบเบรกดิสก์ 4 ล้อ เพิ่มประสิทธิภาพการเบรก พร้อม ABS, EBD และ BA แต่เนื่องจากฝนตกหนักและผิวถนนมีน้ำขัง จึงต้องยั้งไว้ไม่ได้ลองเต็มที่ เพราะยังไม่อยากทดสอบระบบแอร์แบ็กรอบคัน
แม้จะได้ขับพัลซาร์ DIG Turbo มากกว่าสื่อมวลชนท่านอื่นเพราะหลงทาง แต่ก็ยังสงสัยว่ารถไซส์คอมแพกต์น้ำหนัก 1,325 กิโลกรัม กับเครื่องยนต์ระดับ 190 แรงม้า น่าจะให้อัตราเร่งที่ดีกว่านี้ หรือจะเป็นเพราะฝนตกถนนลื่น ทำให้ไม่กล้ากดคันเร่งเต็มที่ ถ้ามีโอกาสจะขอยืมมาทดสอบเดี่ยวให้หายข้องใจ • |
|
Specification: Nissan Pulsar DIG Turbo |
แบบตัวถัง |
แฮทช์แบ็ก 5 ประตู |
ยาว x กว้าง x สูง |
4,295 x 1,760 x 1,520 มิลลิเมตร |
ฐานล้อ |
2,700 มิลลิเมตร |
ความกว้างล้อหน้า/หลัง |
1,530/1,530 มิลลิเมตร |
ระยะต่ำสุดจากพื้น |
137 มิลลิเมตร |
น้ำหนัก |
1,325 กิโลกรัม |
แบบเครื่องยนต์ |
เบนซิน 4 สูบ ไดเร็คอินเจ็คชั่น DOHC 16 วาล์ว เทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ |
ความจุ |
1,618 ซีซี |
กระบอกสูบ x ช่วงชัก |
79.7 x 81.1 มิลลิเมตร |
อัตราส่วนการอัด |
9.5:1 |
กำลังสูงสุด |
190 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบต่อนาที |
แรงบิดสูงสุด |
24.4 กก.-ม. ที่ 2,400-5,200 รอบต่อนาที |
ระบบส่งกำลัง |
อัตโนมัติ XTRONIC CVT พร้อมโหมด Manual |
ระบบขับเคลื่อน |
ล้อหน้า |
ระบบบังคับเลี้ยว |
แร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า EPS |
ระบบกันสะเทือนหน้า |
อิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง |
ระบบกันสะเทือนหลัง |
ทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง พร้อม TCS และ VDC |
ระบบเบรกหน้า/หลัง |
ดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน/ดิสก์ พร้อม ABS, EBD และ BA |
ผู้จำหน่าย |
บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด |
โทรศัพท์ |
0-2257-4200 |
เวบไซต์ |
www.nissan.co.th |
|
|
|
|
|