| |
| เรื่อง: T_service • ภาพ: จันทนา เจริญทวี, สุพรรณี ยังอยู่ |
Wednesday, 19 March, 2014 1:23 AM |
|
 |
| |
| Honda CB500 |
| |
 ฮอนด้า ปล่อยโมเดลเครื่องยนต์ 500 ซีซี ในบิ๊กไบค์ขนาดกลาง เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนที่ชอบความแรงแบบ 2 ล้อ ทั้งสปอร์ตเนคเกดไบค์ และแอดเวนเจอร์ ล่าสุดเชิญทีมงาน motortrivia เข้าร่วมทดสอบบิ๊กไบค์ขนาดกลาง ที่ตอบโจทย์การใช้งานในสไตล์ที่ต่างกัน บนสนาม ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า หรือ Honda Safety Driving Center ถนนรามคำแหง เพื่อพิสูจน์สมรรถนะการควบคุมในรูปแบบต่างๆ
รีดแรงม้าได้เต็มประสิทธิภาพ
Honda CBR500R, CB500F และ CB500X ใช้เครื่องยนต์ 2 สูบ DOHC หัวฉีด PGM-FI ขนาด 500 ซีซี 46.9 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 43 นิวตันเมตร หรือ 4.38 กก.-ม. ที่ 7,000 รอบต่อนาที ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งผ่านกำลังด้วยระบบเกียร์ 6 สปีด พร้อมระบบคลัทช์เปียกหลายแผ่น ให้ประสิทธิภาพของการขับเคลื่อนเต็มพลังด้วยพื้นที่วาล์วไอดีและไอเสียขนาดใหญ่ ก้านวาล์วขนาดเล็กช่วยลดแรงเสียดทาน เผาผลาญอากาศได้เต็มประสิทธิภาพ ขับขี่คล่องตัวด้วยโครงสร้างที่เพรียวลม น้ำหนักเบา ซึ่งทำให้บิ๊กไบค์โมเดล 500 ซีซีของ ฮอนด้า สามารถตอบสนองความเร็วรอบเครื่องยนต์ได้อย่างลงตัวเพียงแค่บิดคันเร่งเบาๆ เท่านั้น |
| |
|
| • จากซ้าย: Honda CB500X, CB500F และ CBR500R |
|
| |
ช่วงล่างคม ระบบเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกครบครัน
ระบบช่วงล่างถูกจัดวางและเซตมาอย่างดี สามารถตอบสนองทุกการควบคุมในทุกสภาพการขับขี่ ด้วยระบบกันสะเทือนหน้าเทเลสโคปิคขนาด 41 มิลลิเมตร และระบบกันสะเทือนแบบโปรลิงค์ที่ปรับได้ถึง 9 ระดับ ช่วยลดแรงกระแทกขณะขับขี่ ทั้งยังเพิ่มความแม่นยำในการเข้าโค้ง
ระบบเทคโนโลยีอำนวยความสะดวก ตอบโจทย์ทุกการใช้งานด้วยมาตรวัดแบบระบบ LCD Digital Speedometer หน้าจอแสดงผลทั้งความเร็ว, รอบเครื่อง และปริมาณน้ำมันแบบตัวเลขดิจิตอล และนาฬิกาแบบ Fully Digital ดีไซน์สปอร์ตล้ำสมัย มีเมนูแสดงผลอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ย และเมนูคำนวณปริมาณน้ำมันในถังซึ่งมีความจุ 15.5 ลิตร ว่าสามารถใช้งานได้อีกกี่กิโลเมตรอีกด้วย |
| |
 |
| |
ความปลอดภัยเต็มประสิทธิภาพ
ฮอนด้า บิ๊กไบค์ทั้ง 3 สไตล์ มาพร้อมกับระบบเบรก ABS (Anti-Brake Lock System) ป้องกันการล็อกของล้อทั้งหน้าและหลังเมื่อหยุดกะทันหัน ดิสก์เบรกหน้าขนาด 320 มิลลิเมตร แบบ 2 ลูกสูบ และดิสก์เบรกหลังขนาด 240 มิลลิเมตร ให้ความมั่นใจแม้ต้องหยุดรถขณะวิ่งด้วยความเร็วสูง ระบบกุญแจ H.I.S.S. (Honda Ignition Security System) ลิขสิทธิ์เฉพาะของ ฮอนด้า ป้องกันการโจรกรรมด้วยกุญแจที่ฝัง Chip ซึ่งจะตั้งรหัสให้ตรงกับช่องเสียบกุญแจ |
| |
 |
| • Honda CB500F |
|
| |
สีใหม่สปอร์ตดุดัน
ในเวอร์ชั่น 2014 ฮอนด้า ได้เพิ่ม 3 สีใหม่ 3 รุ่น เริ่มด้วย CBR500R: Ross White (WHT) บิ๊กไบค์สไตล์สปอร์ตที่โดดเด่นด้วยแฟริ่งสีขาวคาดสีน้ำเงิน และสีแดงที่พาดผ่านแฟริ่งด้านข้างแบบ 3 โทนทั้งซ้ายและขวา ยาวไปถึงถังน้ำมันเข้าชุดกับด้านท้ายสีแดงขลิบขาว
CB500F: Pearl Himalayas White (WHT) บิ๊กไบค์สไตล์เนคเก็ตไบค์ในเวอร์ชั่น 2014 มาพร้อมสีขาวสะดุดตา ให้ความโฉบเฉี่ยวตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านหลัง
CB500X: Candy Ruby Red (RED) บิ๊กไบค์สไตล์แอดเวนเจอร์ที่เติมเต็มความดุดันด้วยสีแดงเข้ม เพิ่มความสปอร์ตด้วยรหัสโลโก้ตัว X ด้านข้าง ให้ดูบึกบึนทุกการเดินทาง |
| |
 |
| • Honda CB500X |
|
| |
เข้าสู่ช่วงการทดสอบบนสนามมาตรฐาน
สำหรับการทดสอบครั้งนี้ ฮอนด้า จัดขึ้นที่ ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยฮอนด้า ถนนรามคำแหง โดยแบ่งการทดสอบออกเป็น 3 สเตชั่น ประกอบด้วย การทดสอบการควบคุม, การทดสอบระบบช่วงล่าง และ การทดสอบระบบเบรก เพื่อให้ทีมงาน motortrivia ทดสอบสมรรถนะอย่างเต็มที่ น่าเสียดายที่ไม่ได้ทดสอบ Honda CBR500R เนื่องจากรถไม่พร้อม จึงได้ทดสอบเพียง 2 รุ่น คือ CB500F และ CB500X
ช่วงแรกครูฝึกอบรมภาคสนามได้ขี่รถนำเพื่อบอกไลน์ในการทดสอบ รวมถึงเทคนิคการขี่รถในสนามทดสอบอย่างถูกวิธี เพื่อให้ผู้ทดสอบได้รับรู้ถึงสมรรถนะรถอย่างเต็มที่ เริ่มทดสอบในรุ่น CB500X แบบแอดเวนเจอร์ บิ๊กไบค์ทรงสูงที่สุดในตระกูลนี้ เพราะได้รับการเซตที่นั่งให้สูงกว่าเดิม 25 มิลลิเมตร ท้องเครื่องสูงกว่าเดิม 15 มิลลิเมตร และฐานล้อยาวกว่าเดิม 10 มิลลิเมตร เน้นเรื่องการเดินทางเป็นหลัก สามารถใช้งานได้ทั้งในถนนออฟโรดและออนโรด |
| |
 |
| |
ดูผิวเผินเป็นรถที่มีความสูงเอาเรื่อง เพราะผู้ทดสอบสูงประมาณ 170 เซนติเมตรเท่านั้น กะระยะคร่าวๆ เวลานั่งบนเบาะก็น่าจะเขย่งสุดปลายเท้า แต่พอได้ลองนั่งจริงๆ ระบบกันสะเทือนด้านหลังจะยุบตัวลงประมาณ 2 เซนติเมตร ทำให้เท้าที่คิดว่าต้องเขย่งสุดปลายเท้า สามารถยืนเหยียบได้เกือบเต็มฝ่าเท้า แฮนด์บังคับที่ยกสูงขึ้นสามารถจับได้เหมาะมือ สัมพันธ์กับท่านั่งหลังตรง เหมาะสมกับการขับทางไกล เบาะนั่งมีขนาดใหญ่กว้างกระชับ บังลมหน้าสามารถปรับระดับได้ถึง 40 มิลลิเมตร ลดลมปะทะขณะขับขี่ ลดอาการเมื่อยล้า ช่วยให้ขับขี่ได้ไกลยิ่งขึ้น
สเตชั่นที่ 1 ทดสอบการควบคุมเครื่องยนต์ เป็นการขี่แบบสลาลอม 2 รูปแบบคือ แบบกว้างขนาดประมาณ 3 เมตร และแบบแคบประมาณ 2 เมตร ผู้ขี่ต้องเลี้ยงคันเร่งเพื่อดูความลื่นไหลเครื่องยนต์ว่ามีความสัมพันธ์กันมากน้อยขนาดไหน และก็ไม่ผิดหวัง ถึงแม้ว่า CB500X จะมีความสูงและยาวกว่ารถในคลาสเดียวกัน ก็สามารถผ่านไปได้โดยไม่ยากลำบากนัก แต่ต้องใช้ความเคยชินสักระยะหนึ่งก่อน คันเร่งที่บิดส่งกำลังควบคุมได้ดี ไม่หนืดเวลาต้องการเรียกรอบเพิ่มขึ้น ในทางกลับกันเมื่อถอนคันเร่งรอบเครื่องก็จะถูกฉุดลงมา ให้มีอาการตื้อเล็กน้อยเหมือนมี Engine Brake ทำให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้น เวลาสลาลอมไม่ต้องใช้เบรกช่วยในการโยกหลบไพล่อนแต่ละครั้ง |
| |
 |
| |
สเตชั่นที่ 2 การทดสอบระบบช่วงล่างในรูปแบบทางโค้ง ที่มีทั้งกว้างและแคบ ทางโค้งรูปเลข 8, ทางโค้งรูปตัว S ด้วยรูปร่างความสูงและยาวกว่าเพื่อนร่วมรุ่น ดูเหมือนจะเป็นอุปสรรคเล็กน้อยในสเตชั่นนี้ แต่เมื่อได้ลองทดสอบจริง ส่วนสูงที่มีมากกว่าไม่ได้เป็นปัญหาในการควบคุมแม้แต่น้อย กลับให้ความรู้สึกควบคุมได้ง่ายกว่าที่คาดไว้
ช่วงล่างโปรลิงค์ปรับได้ 9 ระดับ ช่วยให้ขณะเข้าโค้งมีการทรงตัวที่ดี ทำงานคู่กับยางหน้าขนาด 120/70 และยางหลัง 160/60 ถือว่าเป็นคู่ที่ลงตัวมาก ถัดมาเป็นทางโค้งรูปเลข 8 และตัว S ที่ต้องใช้แรงโยกในการควบคุม ระบบช่วงล่างทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ช่วยซับแรงได้ดี ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนระดับหนึ่งก่อนขึ้นสู่แฮนด์บังคับ ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหลังทำหน้าที่ดันล้อให้จิกโค้งได้ดี ไม่มีอาการดิ้นให้รู้สึกเหวอเท่าไหร่นัก
หมายเหตุ: ในการเข้าโค้งทุกครั้ง ควรทำความรู้จักความเร็วที่จะเข้าโค้งไว้ด้วย เพราะว่าแต่ละโค้งไม่สามารถเข้าในความเร็วที่เท่ากันได้ ซึ่งถ้าเร็วเกินไปก็อาจหลุดโค้งได้ แต่ถ้าช้าเกินไปก็อาจเกิดอาการพับในโค้งได้ |
| |
 |
| |
สถานีที่ 3 ทดสอบ ABS เพื่อทดลองระบบป้องกันการล็อกของล้อทั้งหน้าและหลังเมื่อหยุดกะทันหัน ในความเร็วไม่ต่ำกว่า 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง บนระยะทาง 100 เมตร แบ่งเป็น 3 รูปแบบคือ การทดสอบเบรกหน้า, ทดสอบเบรกหลัง และทดสอบเบรกพร้อมกัน ผู้ขี่ต้องกดเบรกให้สุดโดยทันทีแล้วสังเกตการทำงานของ ABS ว่ามีการทำงานอย่างไร
ในการทดสอบกดเบรกล้อหน้าให้หยุดกะทันหัน ABS ตอบสนองมาถึงมือ รับรู้ถึงจังหวะการจับและปล่อยของเบรกได้อย่างชัดเจน ส่วนด้านหลังก็ทำเช่นเดียวกัน ใช้เท้าเหยียบให้สุดจังหวะการทำงานของ ABS ที่สั่งการไปยังล้อสะท้านมาที่ฝ่าเท้าจนรู้สึกได้เช่นกัน ไม่มีอาการล้อล็อกที่ทำให้เกิดอาการปัดให้หวาดเสียว ส่วนการทดสอบเบรกพร้อมกันทั้งหน้าและหลัง พบว่ารถไม่มีอาการไถลเรียกได้ว่าเอาอยู่ เมื่อเกิดเหตุคับขันก็สามารถแก้สถานการณ์ได้ทันท่วงที |
| |
 |
| |
รุ่นต่อมาเป็น CB500F เนคเกดไบค์สไตล์ใช้งานในเมือง เน้นความคล่องตัวเป็นหลัก แฮนด์สูงกว่ารุ่นสปอร์ตประมาณ 5 เซนติเมตร เวลานั่งขี่แผ่นหลังค่อนข้างตั้งตรงไม่ก้มมากจนเกินไป สามารถควบคุมรถได้ง่ายกับการใช้งานในเมือง ที่ต้องซอกแซกระหว่างการจราจรที่หนาแน่น
สถานีการควบคุมเครื่องยนต์ไม่มีอะไรมาก เพราะระบบพื้นฐานส่วนใหญ่เหมือนรุ่น CB500X อีกทั้งมีขนาดใกล้เคียงกันอีกด้วย ที่แตกต่างกันคือ ความสูงที่ขาดหายเพียง 1 เซนติเมตรเท่านั้น ทำให้การควบคุมผ่านแฮนด์บังคับเลี้ยวมีความคมกว่าเล็กน้อย เมื่อโยกผ่านไพล่อนที่ตั้งไว้ในสลาลอม สิ่งที่แตกต่างชัดเจนเป็นเรื่องทัศนวิสัยในการขับขี่ เพราะรถรุ่นนี้ไม่มีบังลมหน้า ซึ่งบังมุมมองในการขี่ไปบ้าง ทำให้มองเห็นได้ทั่วถึงชัดเจน ส่งผลใหเการควบคุมหรือการกะระยะทำได้ง่ายกว่า |
| |
 |
| |
การทดสอบระบบช่วงล่างและการเข้าโค้ง CB500F ดูเหมือนจะทำได้ดีกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ CB500X เนื่องจากตัวรถที่สั้นกว่า 10 มิลลิเมตร และเตี้ยกว่า 15 มิลลิเมตร สร้างความคล่องตัวมากกว่าในการเข้าโค้งทั้งกว้างและแคบ ส่วนโค้งรูปเลข 8 และตัว S ที่ต้องใช้แรงโยกในการควบคุมก็ไม่ต้องออกแรงมาก เพียงแค่สะบัดแฮนด์นิดเดียวรถก็สามารถโยกเข้าโค้งได้อย่างทันใจ จุดแตกต่างที่มีไม่มาก แต่เห็นได้ค่อนข้างชัดกับรถ 2 รุ่นนี้ ที่เหลือใกล้เคียงกันเกือบทั้งหมด
รถ 2 รุ่นนี้มีความแตกต่างชัดเจนในเรื่อง 'การใช้งาน' สำหรับคนที่ชื่นชอบการเดินทางผจญภัยในเส้นทางแบบออฟโรดและออนโรด ควรเลือกแบบแอดเวนเจอร์ เพราะว่าสามารถตอบสนองการเดินทางไกลได้ดี แต่ถ้าต้องการโฉบเฉี่ยวกึ่งสปอร์ต ขี่สนุกทั้งในเมืองและนอกเมือง เนคเกดไบค์ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปชมตัวจริงพร้อมทดลองขี่ได้ที่ Honda BigWing ทุกสาขา หรือ www.hondabigwing.com •
ขอบคุณ: บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด อำนวยความสะดวกในการทดสอบ |
| |
