|
เรื่อง: ARIA 54 |
Friday, 10 January, 2014 3:39 PM |
|
 |
|
|
|
ติดค้างกันที่ ยอดจำหน่าย 7 เดือนแรก ของปีที่แล้ว ในที่สุดศึกยอดจำหน่ายระหว่าง Chevrolet Volt และ Nissan LEAF ก็ถึงเวลาตัดสินเสียที โดยก่อนหน้านี้ LEAF มีทีท่าว่าจะนำ Volt ไปจนถึงสิ้นปี 2013 ทว่าการปรับรุ่นปีของ Volt ได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ดันยอดจำหน่าย 5 เดือนสุดท้ายให้น๊อค LEAF ในยกสุดท้ายไปจนได้
เชฟโรเลต ครองแชมป์ไฟฟ้าด้วยรถยนต์แบบ range-extender รุ่นแรกของบริษัท พร้อมยอดจำหน่ายต่อปี 23,094 คัน เฉือนชนะรถ BEV แท้ๆ อย่าง Nissan LEAF ไปเพียง 484 คันเท่านั้น... ทว่า เมื่อดูตัวเลขเฉลี่ยต่อเดือนในช่วง 5 เดือนสุดท้าย บอกได้เลยว่า เชฟโรเลต หนักใจในปีหน้าแน่ๆ |
|
 |
|
Volt ตีตื้นขึ้นมาจากยอดเพียงเดือนเดียวเท่านั้น คือ 3,351 คันในเดือนสิงหาคม ซึ่ง เชฟโรเลต ใช้วิธีเปลี่ยนรุ่นปีเป็นรถใหม่ จากนั้น 4 เดือนหลังยอดก็วูบลงไปมีตัวเลขต่อเดือนที่ต่ำกว่า LEAF นั่นเท่ากับว่า LEAF 'ยอดไม่เคยตก' และ 4 เดือนหลังยอดจำหน่ายต่อเดือนของ LEAF ยังคงขึ้นนำ Volt โดยตลอด กล่าวได้ว่ายอดของ LEAF มีเส้นกราฟที่ค่อยๆ ขยับตัวสูงขึ้นแบบต่อเนื่อง ในขณะที่ Volt มีตัวเลขที่แกว่งไปมา ขึ้นๆ ลงๆ จนน่าสงสัยว่าอะไรกันแน่คือตัวแปรสำคัญ? ราคา...ออปชั่น หรืออะไร?
ถ้าให้เดา... ความเห็นส่วนตัวของผู้แปลคือ Volt ยังคงต้องเติมน้ำมันเพื่อใช้เป็นเจนเนอเรเตอร์ คิดเล่นๆ หากบ้านเราจำหน่าย LEAF และ Volt ถ้าให้เลือกผู้แปลจะตัดความจุกจิกตรงนี้ออกไป คือเลือก LEAF แต่... จุดนี้คือคิดแบบคนใช้รถน้อย ถ้าวิ่งทางไกลบ่อยๆ Volt ก็สะดวกกว่า
Tesla Model S ตามมาในอันดับ 3 แบบนิ่มๆ กราฟยอดจำหน่ายอยู่ตัว เฉลี่ย 1,000+ ต่อเดือน จบปี 2013 ด้วยตัวเลข 17,650 คัน ดูเผินๆ เหมือนว่า เชฟโรเลต กับ นิสสัน จะไม่ต้องกังวลอะไร แต่ผู้แปลเชื่อว่านักการตลาดมือทองคงนั่งไม่ติด เพราะตัวเลขในระดับนี้เป็นของรถไฟฟ้าที่มีราคาจำหน่ายสูงกว่าทุกคันในตาราง จากการวางตัวสินค้าในระดับพรีเมี่ยม |
|
 |
|
อะไรที่ทำให้ผู้คนเฉลี่ยกว่า 1 พันคนต่อเดือนควักเงินซื้อรถราคาแพงอย่าง Model S งานออกแบบ...ขนาดตัวรถ...ความหรู...เทคโนโลยี หรือเพราะอะไร? หรือคนซื้อเพราะนิยม Elon Musk ที่สามารถดันตัวเองให้กลายเป็นไอค่อนในลักษณะเดียวกับ Steve Jobs? นี่เป็นเรื่องที่น่าวิเคราะห์อยู่เหมือนกัน เพราะไม่มีอะไรที่บ่งบอกว่า Tesla Model S มีความเหนือชั้นกว่า LEAF หรือ Volt เลยในแง่ของเทคโนโลยีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน
เมื่อใดที่ เทสล่า สามารถมีรถรุ่นใหม่ๆ เข้ามาเสริมทางเลือก ยกตัวอย่างเช่น Model X ที่เตรียมแชร์ส่วนแบ่งในตลาดครอสโอเวอร์/เอสยูวี การติดปีกให้ยอดจำหน่ายดูจะเป็นเรื่องที่ไม่เกินความสามารถของ เทสล่า นัก อีกทั้งรถทั้ง 2 รุ่นก็มีตลาดที่แยกขาดจากกันชัดเจน ไม่ต้องแย่งกลุ่มลูกค้าเดิมของ Model S
ปิดท้ายรถไฟฟ้า 4 อันดับแรกที่มียอดจำหน่ายเกิน 1 หมื่นคันที่ไฮบริดเสียบปลั๊กชาร์จ Toyota Prius PHEV กับยอด 12,088 คัน ซึ่งตัวเลขนี้ โตโยต้า ไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะนับว่าทำได้ดีมากแล้ว เนื่องจากในตลาดรถกรีนนั้น รถไฮบริดตระกูล Prius ที่ไม่ได้เสียบปลั๊ก มียอดรวมที่รถไฟฟ้าต้องเหนื่อยกันอีกมาก หากจะคิดไล่ตามให้ทัน |
|
 |
|
กลุ่มที่ก้ำกึ่ง และต้องใช้ความพยายามให้มากกว่าที่เป็นอยู่คืออันดับ 5 - 9 กลุ่มนี้ขอให้เรามองข้ามเรื่องการต่อสู้ระหว่างแบรนด์ไปก่อน เพราะ ฟอร์ด มีรถที่ตัดกำลังกันเองถึง 3 รุ่น คือ C-Max Energi (7,154 คัน), Fusion Energi (6,089 คัน) และ Focus Electric (1,738 คัน) ยอดเหล่านี้แม้จะรวมเป็นกลุ่มกำไรให้ ฟอร์ด คือ 1,4981 คัน ก็ยังไล่ตาม LEAF หรือ Volt ไม่ทัน งานใหญ่ของ ฟอร์ด คือต้องดันยอดต่อเดือนให้มากกว่านี้ถ้าจะไล่ 2 ผู้นำ แต่ถ้าไม่คิดมาก ยอดรวมของรถทั้ง 3 รุ่นต่อเดือนนับว่าไม่น้อยทีเดียว เพียงแต่ว่าจะคุ้มทุนหรือเปล่า? จุดนี้ผู้แปลไม่ทราบจริงๆ
อย่างไรก็ตาม Focus Electric ต้องถูกจัดรวมอยู่กลุ่มของรถที่น่าหนักใจ แม้จะนำหน้าอันดับ 8 - 9 หลายร้อยคัน แต่ก็ตามเพื่อนๆ ในบริษัทไม่ทันแน่ โดยอันดับ 8 คือ Toyota RAV4 EV ยอดจำหน่าย 1,096 คัน และ Mitsubishi i กับตัวเลขใกล้เคียงกัน 1,029 คัน ทั้งคู่มีตัวเลขต่อเดือนที่น่าใจหายมาก กราฟของทั้ง 2 รุ่นร่วงลงมาอย่างต่อเนื่อง เดือนธันวาคมที่ผ่านมา RAV4 EV ขายได้ 28 คัน ส่วน i-MiEV จบที่ 11 คัน... ยากที่จะพลิกฟื้นสถานการณ์ขึ้นมาได้
i-MiEV ยังไม่น่าห่วงเท่าไหร่ มิตซูบิชิ ยังปรับเปลี่ยนรุ่น หรือไม่เสียหายมากนักในตลาดโลก ทว่า RAV4 EV นั้น นี่เป็นการคว่ำของ โตโยต้า เป็นครั้งที่ 2 กับชื่อของ RAV4 ในแบบไฟฟ้าล้วน แม้ว่า RAV4 ไฟฟ้ารุ่นแรก จะกล่าวได้ว่าเป็นรุ่นบุกเบิก แต่การพัฒนารุ่นที่ 2 เป็นการพัฒนาในขณะที่มีความพร้อมอย่างเต็มที่ โตโยต้า คงต้องคิดหนักพอสมควรว่าจะทำตลาดต่อไปในลักษณะใด
กลุ่มสุดท้าย คือกลุ่มที่มียอดจำหน่ายไม่ถึง 1 พันคัน smart ED ยอดต่อปี 923 คัน, Fiat 500e ยอด 645 คัน, Honda Fit EV ยอด 569 คัน ปิดท้ายด้วย Chevrolet Spark EV ยอด 569 คัน ในกลุ่มนี้ smart ED มีแนวโน้มดีที่สุด ทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มจำหน่ายเมื่อเดือนพฤษภาคม 2013 ที่ผ่านมา และมีตลาดที่ค่อนข้างเฉพาะตัวเมื่อเทียบกับรถรุ่นอื่นๆ คือใช้ความเป็นแฟชั่นนำหน้าการใช้งาน ซึ่ง เฟียต มีจุดนั้นในมือเช่นกัน แต่นำมาเป็นจุดขายแล้วกลับไม่เวิร์ค ส่วน Fit กับ Spark ดูเหมือนว่าตลาดสหรัฐฯ จะไม่ใช่ที่ที่เหมาะนักสำหรับการทำตลาด |
|
 |
|
อันที่จริงมีตัวแปรอีกเยอะครับ ที่ไม่ได้นำมาคิดรวมในความเห็นข้างต้น เช่น บางรุ่นออกสตาร์ทช้ากว่าเพื่อนๆ เกือบครึ่งปี บางรุ่นก็จำกัดพื้นที่ในการจำหน่าย บางรุ่นยังไม่ได้นับยอดในการปล่อยเช่า หรือ ขายแบบยกลอทให้กับบริษัทประเภท Carsharing อย่างเช่น Zipcar แต่อย่างน้อยก็ให้ภาพรวมได้ว่า การทำงานหนัก (และมีความเสี่ยงสูง) ของ จีเอ็ม และ นิสสัน ได้เริ่มผลิดอกมอบผลตอบแทนให้อย่างน่าพอใจ • |
|
2013 |
jan |
feb |
mar |
apr |
may |
jun |
jul |
aug |
sep |
oct |
nov |
dec |
total |
• Chevrolet Volt |
1140 |
1626 |
1478 |
1306 |
1607 |
2698 |
1788 |
3351 |
1766 |
2022 |
1920 |
2392 |
23094 |
• Nissan LEAF |
650 |
653 |
2236 |
1937 |
2138 |
2225 |
1864 |
2420 |
1953 |
2002 |
2003 |
2529 |
22610 |
• Tesla Model S |
1200 |
1400 |
2300 |
2100 |
1700 |
1350 |
1800 |
1300 |
1000 |
800 |
1200 |
1500 |
17650 |
• Toyota Prius PHEV |
874 |
693 |
786 |
599 |
678 |
584 |
817 |
1791 |
1152 |
2095 |
1100 |
919 |
12088 |
• Ford C-Max Energi |
338 |
334 |
494 |
411 |
450 |
455 |
433 |
621 |
758 |
1092 |
941 |
827 |
7154 |
• Ford Fusion Energi |
0 |
119 |
295 |
364 |
416 |
390 |
407 |
600 |
750 |
1087 |
870 |
791 |
6089 |
• Ford Focus Electric |
81 |
158 |
180 |
147 |
157 |
177 |
150 |
175 |
110 |
115 |
130 |
158 |
1738 |
• Toyota RAV4 EV |
25 |
52 |
133 |
70 |
84 |
44 |
109 |
231 |
167 |
91 |
62 |
28 |
1096 |
• Mitsubishi i |
257 |
337 |
31 |
127 |
91 |
39 |
46 |
30 |
20 |
28 |
12 |
11 |
1029 |
• smart ED |
2 |
- |
- |
- |
60 |
53 |
58 |
182 |
137 |
111 |
153 |
167 |
923 |
• Fiat 500e |
- |
- |
- |
- |
- |
- |
150 |
160 |
50 |
40 |
125 |
120 |
645 |
• Honda Fit EV |
8 |
15 |
23 |
22 |
15 |
208 |
63 |
66 |
35 |
40 |
23 |
51 |
569 |
• Chevrolet Spark EV |
- |
- |
- |
- |
- |
27 |
103 |
102 |
78 |
66 |
87 |
76 |
539 |
|
|
หมายเหตุ:
เรามักจะได้เห็นข่าวว่า ยุโรปจะมีความนิยมในรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากที่สุด แต่จากสถิติในปี 2012 ประเทศญี่ปุ่นและสหรัฐฯ มีปริมาณการจำหน่ายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าแบบ BEV: battery electric vehicle สูงที่สุด คือ:
- อันดับ 1 ญี่ปุ่น 28%
- อันดับ 2 สหรัฐฯ 26%
- อันดับ 3 จีน 16%
- อันดับ 4 ฝรั่งเศส 11%
- ตลาดอื่นๆ รวมกัน 19% แบ่งเป็นนอรเวย์, เยอรมนี, สหราชอาณาจักร
นอกจากนี้ รถกึ่งไฟฟ้าหรือไฮบริดแบบเสียบปลั๊ก PHEV: plug-in hybrid electric vehicle สหรัฐฯ มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในโลก คือ 70% รองลงมาคือประเทศญี่ปุ่น 12% ที่เหลือเฉลี่ยกันตามลำดับ คือ เนเธอร์แลนด์, แคนาดา และจีน ทว่าเมื่อมองไปที่สาธารณูปโภคอย่าง สถานีชาร์จ ญี่ปุ่นมีสถานีชาร์จแบบฟาสต์ชาร์จสูงที่สุดในโลก รองลงมาคือเนเธอร์แลนด์ และสหรัฐฯ • |
|