2019 Jeep Cherokee ปรับโฉม ลดส่วนเกินในด้านงานออกแบบ

2.6Kviews

Posted by : AREA 54

● หลังจากที่ Jeep Cherokee เปิดตัวเจนเนอเรชั่น 5 ในปี 2013 แบบ “เปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง” และถูกสื่อต่างประเทศอัดกันอย่างหนักพอสมควร แม้ภายหลัง Mike Manley ซีอีโอและประธานจี๊ปจะกล่าวในทำนองว่า โดยรวมๆ มันก็ดีอยู่แล้ว (รวมถึงสมรรถนะในการใช้งาน) ทว่าในการปรับโฉมครั้งล่าสุดในงาน 2018 Detroit Auto Show จี๊ปก็ยอมลดความล้ำในการออกแบบให้ Cherokee จนได้

● ดวงตายังคงเป็นหน้าต่างของดวงใจ ที่สุดแล้ว Cherokee ใหม่รุ่นปรับโฉมก็ได้รับการขยายโคมไฟหน้าขึ้นมา พร้อมตัดไฟ 2 ชั้นทิ้งไป รวมทั้งลดขนาดชุดไฟตัดหมอกให้กลับมาอยู่ในขนบของรถ SUV หรือรถยนต์โดยทั่วไป… และแน่นอน มนุษย์ก็ยังคงเป็นมนุษย์ ซึ่งมีหลากมีหลายความชอบแตกต่างกันไป ผู้แปลลองอ่านความเห็นในต่างประเทศจากหลายๆ แหล่งเว็บไซท์ข่าว ก็ยังคงมีการถกเถียงกันเช่นเดิมว่าการปรับโฉมในครั้งนี้ทำให้ Cherokee ดูดีขึ้นหรือแย่ลงกันแน่ (คนที่ชอบตา 2 ชั้นในแบบเดิมก็มีครับ ว่ากันไม่ได้เรื่องแบบนี้)

● อย่างไรก็ตาม หากตัดเรื่องความนิยมชมชอบในด้านงานออกแบบเป็นการส่วนตัวของแต่ละบุคคลออกไป ปฏิเสธไม่ได้ว่า Cherokee ยังคงเป็นหนึ่งในรุ่นรถ SUV ไซส์ครอสโอเวอร์ที่น่าใช้ที่สุดรุ่นหนึ่งในกลุ่มเดียวกัน

● ในเบื้องต้น Cherokee สเปคสำหรับตลาดอเมริกาเหนือ จะมาพร้อมกับระบบอินโฟเทนเมนท์ Uconnect เจนเนอเรชั่น 4 แยกเป็นรุ่นจอขนาด 7 หรือ 8.4 นิ้ว ทุกรุ่นมีฟังก์ชั่นเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Android Auto และ Apple CarPlay รองรับฟังก์ชั่นการลากวางบนหน้าจอ (drag and drop) และการขยายภาพด้วยการถ่างนิ้ว (pinch-to-zoom) พูดง่ายๆ ก็คือมันสามารถใช้งานได้สะดวกขึ้นเหมือนๆ กับการใช้งานสมาร์ทโฟนนั่นเอง

● Cherokee รุ่นปี 2019 จะมากับเครื่องยนต์ใหม่ที่ประหยัดเชื้อเพลิงยิ่งขึ้นอย่าง เบนซิน 4 สูบ ความจุ 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จแบบ twin-scroll จ่ายเชื้อเพลิงตรง เพิ่มประสิทธิภาพด้วยระบบแปรผันแคมชาร์ฟอิสระคู่ มีระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติขณะหยุดนิ่ง ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ TorqueFlite 9 จังหวะ กำลังสูงสุดผลิตได้ 270 แรงม้า (HP) แรงบิดสูงสุด 40.7 กก.-ม. ซึ่งเครื่องยนต์บล็อคนี้อยู่ในกลุ่มเดียวกับเครื่องยุคใหม่ของกลุ่ม Fiat Chrysler Automobiles ที่เรียกว่า GME หรือ Global Medium Engine กลุ่มเดียวกับที่ใช้งาน Jeep Wrangler เจนเนอเรชั่นใหม่ นั่นเอง

● เทียบกับรุ่นเครื่องยนต์ตระกูล Pentastar แบบ V6 ความจุ 3.2 ลิตร ที่มีกำลังสูงสุด 271 แรงม้า และแรงบิดเพียง 33 กก.-ม. แล้ว เครื่อง 4 สูบ 2.0 ใหม่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัดในทุกแง่มุม แม้ว่าตัวเลขกำลังจะหายไป 1 แรงม้าก็ตาม… ปิดท้ายทางเลือกไลน์อัพด้วยเครื่องยนต์ตระกูล MultiAir2 Tigershark ในรุ่นพื้นฐาน แบบ 4 สูบ 2.4 ลิตร กำลังสูงสุด 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 23.4 กก.-ม. ทั้งคู่มากับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะเช่นกัน

● ชุดระบบช่วยขับ (ADAS) ประกอบด้วย ระบบ ParkSense Parallel/Perpendicular Park Assist ช่วยจอดในทุกรูปแบบ, ระบบ Adaptive Cruise Control-Plus รักษาความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าอัตโนมัติ, ระบบ Forward Collision Warning-Plus แจ้งเตือนการชนทางด้านหน้าพร้อมหยุดรถอัตโนมัติในกรณีที่ผู้ขับไม่ตอบสนอง, ระบบ LaneSense Lane Departure Warning-Plus ช่วยเตือนและช่วยดึงรถกลับเมื่อผู้ขับออกนอกเลนของตัวเองโดยไม่ได้ตั้งใจ, ระบบ Blind-spot Monitoring แจ้งเตือนเมื่อตรวจพบรถในจุดอับสายตา, ระบบ Rear Cross Path Detection ตรวจสอบรถที่วิ่งตัดมาทางด้านข้างขณะถอยออกจากซอง และปุ่ม SOS สำหรับขอความช่วยเหลือแบบเร่งด่วนในขณะเกิดเหตุฉุกเฉิน

● จี๊ปจะเริ่มจำหน่าย Cherokee ใหม่ในสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2018 เป็นต้นไป รุ่นพื้นฐานเครื่อง 4 สูบ 2.4 ลิตร 180 แรงม้า เริ่มต้นที่ 25,190 ดอลลาร์ หรือประมาณ 8 แสนบาทครับ ●