December 23, 2017
Motortrivia Team (10203 articles)

Nissan เดินหน้าโครงการ แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง


เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ  •  ภาพ : นิสสัน ประเทศไทย

 

●   บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด น้อมนำพระราชดำริด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า และช่วยเหลือสังคมอย่างไม่หวังผลตอบแทน ตามรอยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ภูมิพลอดุลยเดชบรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ผ่านโครงการ แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง นำคณะสื่อมวลชนเดินทางด้วย นิสสัน นาวารา และ นิสสัน เอ็กซ์เทรล ไปยังอำเภอแก่งกระจานเพื่อทำกิจกรรมร่วมกับ “หมอล็อต” นายสัตวแพทย์ ภัทรพล มณีอ่อน นายสัตวแพทย์สัตว์ป่าคนแรกของประเทศไทยประจำกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ณ จังหวัดเพชรบุรี

●   เริ่มกิจกรรมที่โรงแรม อีสติน แกรนด์ สาทร โดยได้รับเกียรติจาก มร. ปีเตอร์ แกลลี รองประธาน สายงานสื่อสารองค์กร กล่าวต้อนรับสื่อมวลชน และร่วมเดินทางไปด้วยตลอดทริป ทีมงาน มอเตอร์ทริเวีย ได้ขับรถนิสสัน นาวารา รุ่นปี 2018 ที่เพิ่มเติมเทคโนโลยีการเคลื่อนที่อัจฉริยะ หรือ นิสสัน อินเทลลิ-เจนท์ โมบิลิตี้ (Nissan Intelligent Mobility) อย่างกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา 4 ตัว (Intelligent Around View Monitor หรือ AVM) แสดงผลได้ 4 รูปแบบบนกระจกมองหลัง เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลเทอร์โบ 2,500 ซีซี 190 แรงม้า เกียร์อัตโนมัติ 7 จังหวะ มีระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ


มร. ปีเตอร์ แกลลี่ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายงานสื่อสารองค์กร นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด


●   ออกเดินทางไปประมาณ 22 กิโลเมตร ก็แวะเติมน้ำมันที่ปั๊มเชลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนการเดินทางครั้งนี้ เติมน้ำมันเชลล์ เต็มถังทุกคันแล้วก็ขับต่อไปอีก 40 กิโลเมตร เพื่อแวะรับเกลือสำหรับนำไปทำโป่งเทียมซึ่งเป็นแหล่งอาหารเสริมสำหรับสัตว์ป่า เดินทางต่ออีก 44 กิโลเมตร ก็แวะพักเข้าห้องน้ำอีกครั้งที่ปั๊มเชลล์ จากนั้นจึงขับยาวๆ 66 กิโลเมตร ก่อนแวะร้านอาหารกลางวัน กักตุนพลังงานไว้สำหรับกิจกรรมในช่วงบ่าย

●   ตลอดการเดินทางช่วงแรกเป็นทางเรียบ เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง ตอบสนองอัตราเร่งได้ทันใจสมควร ช่วงเกียร์ต้นๆ ลากได้สั้นๆ เพราะอัตราทดสูงเนื่องจากต้องเผื่อไว้สำหรับการบรรทุกหนัก ชดเชยด้วยการเปลี่ยนเกียร์ที่ราบเรียบต่อเนื่อง ทำให้ได้อัตราเร่งที่ดี คันที่ขับเป็นรุ่น 4 ประตู เน้นโดยสารมากกว่าบรรทุก ช่วงล่างจึงค่อนข้างนุ่มนวลนั่งสบาย ไม่ดีดเด้งมากนัก ระบบเบรกไว้ใจได้เมื่อต้องเบรกฉุกเฉิน สร้างแรงเบรกได้หนักหน่วงทันใจ และสัมพันธ์กับน้ำหนักที่เหยียบแป้นเบรก

●   อิ่มแล้วจากเข้าห้องประชุมเพื่อฟังการบรรยายจาก หมอล็อต ที่ชี้แจงถึงปัญหาหลักของป่าแถบนี้ รวมถึงแนวทางการแก้ไข ปัญหาแรก คือ แหล่งอาหารของสัตว์ป่า เมื่อขาดแคลน สัตว์ก็จะออกจากป่ามาหากินในเขตชุมชน เกิดการปะทะขัดแย้งกัน สัตว์ป่าถูกทำร้าย ในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงให้สร้างแหล่งอาหารในป่าลึกให้เพียงพอกับความต้องการของสัตว์ป่า อีก 2 ปัญหาที่ได้รับการชี้แจงในครั้งนี้คือ การแพร่พันธุ์อย่างรวดเร็วของต้นสาบเสือ เป็นสมุนไพรพื้นบ้านซึ่งมีสรรพคุณทางยาที่ดี แต่ไม่มีประโยชน์กับสัตว์ป่า และยังรุกแหล่งอาหารของสัตว์ป่าอีกด้วย ต้นสาบเสือเข้ามาแพร่พันธุ์ในป่าช่วงที่มีการเปิดสัมปทานป่าไม้ และอีกหนึ่งปัญหาคือ เถาวัลย์ขนาดใหญ่ ที่เจริญเติบโตอย่างรวดเร็วปกคลุมต้นไม้ท้องถิ่น ทำให้ไม่ได้รับแสงอาทิตย์และตายลงในที่สุด ทำให้แหล่งอาหารลดลง นอกจากนี้เถาวัลย์ยังทำให้ป่ารก สัตว์ใหญ่ไม่สามารถเข้ามาหากินได้

●   หลังจากฟังการบรรยายเสร็จแล้ว ก็เดินทางเข้าป่าไปทำกิจกรรมบริเวณ ห้วยคมกฤต หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จอดเอ็กซ์เทรลไว้ แล้วใช้เฉพาะนิสสัน นาวารา รุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เพราะเส้นทางค่อนข้างทุรกันดาร บางช่วงเป็นดินลื่น ใช้แค่ระบบ 4H  ก็ผ่านไปได้ เพิ่มความสะดวกในการบุกตะลุยด้วยระบบ HSA – Hill Start Assist ช่วยออกตัวบนทางลาดชัน และ HDC – Hill Descent Control รวมทั้งเฟืองท้ายแบบลิมิเต็ดสลิป ถึงจุดทำกิจกรรมซึ่งอยู่บริเวณชายป่า หมอล็อต พูดทีเล่นทีจริงว่า เป็นช่วงใกล้เวลาออกหากินมื้อเย็นของสัตว์ป่า นัดแนะกันว่าถ้าเห็นสัตว์ป่าออกมาก็ไม่ต้องสนใจ ให้มองหา หมอล็อต ไว้ ถ้าเห็นหมอวิ่ง ก็ให้วิ่งตาม แต่ห้ามวิ่งแซง เพราะอาจจะหลงป่าได้

●   อุ่นเครื่องด้วยกิจกรรมหนักๆ ขุดดินเพื่อทำโป่งเทียม ซึ่งเป็นแหล่งแร่ธาตุอาหารเสริมสำหรับสัตว์ ขุดลึกประมาณ 1 ฟุต แล้วใส่แร่ธาตุแบบก้อนสำเร็จรูปลงไป ทุบให้แตกพอประมาณ ไม่ต้องละเอียดมาก เพราะธรรมชาติของสัตว์จะต้องขุดคุ้ยหรือเหยียบให้ละเอียดก่อนกิน ถ้าทุบละเอียดไว้ให้ สัตว์จะเคยตัว รวมทั้งถ้าทุบละเอียดมาก แร่ธาตุจะละลายไปกับดินเร็วเกินไป จากนั้นใส่เกลือที่เตรียมมา คลุกเคล้าให้เข้ากัน กลบหลุมแล้วรดน้ำ รอให้กลิ่นระเหยขึ้นมาแล้วสัตว์จะเข้ามากินโป่งเอง

●   ต่อเนื่องด้วยการถางต้นสาบเสือ ที่ขึ้นกินพื้นที่กว้างเป็นทุ่ง มีดอกสีม่วงกลิ่นฉุน มีเรื่องเล่าว่าถ้าหนีเสือ ให้หนีเข้าไปในดงต้นสาบเสือ เพราะกลิ่นฉุนจะทำให้เสือไม่เข้ามา การกำจัดต้นสาบเสือไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว จะใช้ยาฆ่าหญ้าก็ไม่ได้ เพราะจะเป็นอันตรายต่อสัตว์ป่า ก็ต้องใช้แรงคนค่อยๆ ขุดรากถอนโคนกันไป ปิดท้ายด้วยการตัดเถาวัลย์ ซึ่งหลายเถามีขนาดใหญ่กว่าต้นไม้ท้องถิ่นซึ่งเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ป่า เมื่อเถาวัลย์บังแสงอาทิตย์ ต้นไม้ก็จะแห้งตาย หรือต้นไม้รับน้ำหนักไม่ไหวก็จะหักโค่นลง เรียกว่าป่าถล่ม การตัดเถาวัลย์ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีจำนวนมากและขนาดใหญ่ ต้องใช้เครื่องมือที่ดีและแรงคนจำนวนมาก

●   กว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ ตะวันก็ลับขอบฟ้าพอดีเพราะเป็นช่วงฤดูหนาว บริเวณที่ทำกิจกรรมบรรยากาศดีมาก อากาศเย็น สดชื่น และเงียบสงบ อยากอยู่ต่ออีกนิด แต่ต้องรีบเดินทางออกเพราะได้เวลาสัตว์ป่าออกหากิน ช่วงขากลับได้ลองความสว่างของไฟหน้า LED กับโคมแบบโปรเจคเตอร์ ที่รวมแสงเข้มมีขอบเขตชัดเจนไม่ฟุ้งกระจายรบกวนเพื่อนร่วมทาง ถึงที่พักเก็บของแล้วลงมาดื่มด่ำมื้อเย็นท่ามกลางอากาศหนาว อิ่มแล้วรีบขึ้นห้องพักนั่งต่อไม่ไหวเพราะไม่ได้เตรียมเสื้อกันหนาวมา   ●

เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

●   นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนจะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่

●   สำหรับประเทศไทย นิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 190 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้

เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด

●   นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2559 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.63 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.72 ล้านล้านเยน โดยมี นิสสัน ลีฟ เป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์

●   สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันมีพนักงานทั่วโลกจำนวน 247,500 คน ทั้งยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ภายใต้พันธมิตร เรโนลต์ – นิสสัน ตั้งแต่ปี 2542

●   ในปี 2559 นิสสันได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิ จนได้เข้าร่วมพันธมิตรเป็นสมาชิกรายที่สาม ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันสูงระดับ 10 ล้านคันต่อปี

●   ข้อมูลเพิ่มเติม nissan-global.comFacebook, Instagram, Twitter และ LinkedIn พร้อมรับชมวีดีโอล่าสุดได้ที่ YouTube   ●


Nissan 2560 : Honor the King’s Legacy (2)