November 12, 2017
Motortrivia Team (10167 articles)

F1 Brazilian GP 2017 Preview : แฮมิลตันพร้อมฉลองแชมป์โลก


Posted by : Fascinator.

 

●   สนามที่ 19 ของการแข่งขันฟอร์มูล่าวันประจำฤดูกาล 2017 จะไปกันที่ประเทศบราซิล กับ สนามอินเตอร์ลากอส ซึ่งถึงแม้ว่าแชมป์โลกทั้งสองประเภทจะถูกตัดสินไปแล้ว แต่การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไปในสนามรองสุดท้ายนี้

●   สนามอินเตอร์ลากอสมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ออโตโดรโม โฆเซ่ คาร์ลอส ปาเซ (Autódromo José Carlos Pace) ซึ่งถูกตั้งชื่อตาม คาร์ลอส ปาเซ นักแข่งชาวบราซิล ที่เคยคว้าชัยชนะที่นี่ในปี 1975 แต่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตกในปี 1977 ส่วนอินเตอร์ลากอสนั้นมีที่มาจากตำแหน่งที่ตั้งสนามซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบขนาดใหญ่ 2 ฝั่ง

●   ถูกสร้างขึ้นในปี 1938 แต่พึ่งเริ่มจัดแข่งฟอร์มูล่าวันครั้งแรกในปี 1972 อินเตอร์ลากอสนั้นเป็นเจ้าภาพบราซิเลียนกรังด์ปรีซ์ควบคู่ไปกับสนามจาคาเรปากัว แต่ทางรายการนั้นย้ายมาจัดที่สนามอินเตอร์ลากอสถาวรตั้งแต่ปี 1990 เป็นต้นมา

ใครมีโอกาสชนะมากที่สุด?

●   สนามอินเตอร์ลากอสนั้นเป็นแทร็คที่วิ่งวนทวนเข็มนาฬิกา ลักษณะจะเป็นทางตรงยาว 2 ช่วง คือหน้าพิทเลนและหลังโค้ง 3 ทำให้เซ็คเตอร์แรกกับสุดท้ายนั้นจะเน้นทำความเร็วสูง เครื่องยนต์มีบทบาทมากใน 2 เซ็คเตอร์นี้ เพราะต้องลากรถออกจากโค้งความเร็วต่ำเพื่อขึ้นทางตรงยาวทั้ง 2 จุด อีกทั้งอินเตอร์ลากอสอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 782 เมตร ถึงจะไม่ได้สูงระดับเม็กซิโก แต่เทอร์โบก็ยังคงต้องทำงานหนักขึ้นกว่าปกติจากอากาศที่เบาบางลง

●   ในส่วนของเซ็คเตอร์กลางนั้นจะเป็นโค้งความเร็วต่ำต่อเนื่อง จุดนี้ต้องการการยึดเกาะเชิงกลและพลศาสตร์ที่ดี แต่ไม่เชิงว่าต้องเซตรถให้เกิด ดาวน์ฟอร์ซสูงสุด เพราะความเร็วที่ต่ำจะทำให้ดาวน์ฟอร์ซเกิดยากเป็นทุนเดิม และอีก 2 เซ็คเตอร์ นั้นต้องการดาวน์ฟอร์ซต่ำเพื่อให้ทำความเร็วสูงได้

●   ในเรื่องของยางนั้น อินเตอร์ลากอสมีการลาดยางปรับผิวแทร็คใหม่มาตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งนั่นทำให้ผิวแทร็คทำลายยางน้อยลงไปมาก สิ่งที่นักแข่งต้องพบเจอคือจะต้องทำความร้อนให้กับยางให้เหมาะสมที่สุด

●   เมื่อนำข้อมูลมารวมกัน เมอร์เซเดสที่กำลังเครื่องเหนือกว่าเฟอร์รารีอาจจะได้เปรียบนำอยู่ครึ่งก้าว โดยเฟอร์รารีสามารถไล่เอาคืนได้ในช่วงเซ็คเตอร์กลาง แต่กับการแซงที่จำเป็นจะต้องใช้ความเร็วสูงแซงในจุดแซงปกติของสนามซึ่งอยู่ก่อนเข้าโค้ง 1 และ 4 แล้ว กำลังเครื่องน่าจะช่วยสร้างความได้เปรียบมากกว่า

บันทึกความทรงจำ

●   ยังจำลีลา แม็กซ์ เวอร์สแท็พเพ่น ลุยฝนในการแข่งขันปีที่แล้วกันได้ไหมครับ? ถ้าจำไม่ได้เราจะทวนความจำท่านด้วย 2 คลิป นี้เลยครับ   ●



รายละเอียดสนามเพิ่มเติม

•   สนาม : ออโตโดรโม โฆเซ่ คาร์ลอส ปาเซ
•   ความยาวสนามต่อรอบ : 4.309 กิโลเมตร
•   จำนวนรอบการแข่งขัน : 71 รอบ
•   เปิดใช้งานครั้งแรก : ปี 1940
•   ความเร็วสูงสุด : 330 กิโลเมตร/ชั่วโมง
•   แรง G สูงสุด : 4.0
•   การใช้คันเร่งเต็มที่ต่อรอบ : 68%
•   อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง : ต่ำ (1.35 กิโลกรัม/รอบ)
•   อัตราสิ้นเปลืองเบรก : ต่ำ
•   อัตราสิ้นเปลืองยาง : ปานกลาง
•   ต้องการดาวน์ฟอร์ซ : ต่ำ
•   จุดแซงสำคัญ : โค้ง 1, 4
•   จุดสำคัญของสนาม : โค้ง 1-2
•   ยางที่สามารถใช้ได้ : ซุปเปอร์ซอฟต์, ซอฟต์, มีเดียม
•   DRS Zone : โซนคู่ โซนแรกอยู่ที่ 20 เมตร หลังผ่านโค้ง 3 มีจุดตรวจจับเวลาอยู่ที่ยอดโค้ง 2
•   โซนที่ 2 อยู่ที่ 60 เมตร ก่อนเข้าโค้ง 15 มีจุดตรวจจับเวลาอยู่ที่ 30 เมตร หลังผ่านโค้ง 13
•   ผู้ชนะคนล่าสุด : ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส
•   ผู้ที่ได้ตำแหน่งโพลคนล่าสุด : ลูวอิส แฮมิลตัน – เมอร์เซเดส
•   ผู้ที่ชนะมากที่สุดในสนามนี้บนกริด : เฟลิเป้ มาสซ่า (2006, 2008), เซบาสเตียน เวทเทล (2010, 2013)
•   สถิติสนาม : ฮวน พาโบล มอนโตย่า – วิลเลียมส์ บีเอ็มดับบลูว – 1.11.473 – 2004
•   เวลาเร็วที่สุดของสนาม : รูเบน บาร์ริเคลโล – เฟอร์รารี – 1.09.822 – 2004 (Q1)


ที่มา :
•  espnf1.com.
•  f1fanatic.co.uk.
•  en.wikipedia.org.