Peter Schreyer และแนวคิดในการขับเคลื่อนซับ-แบรนด์ Genesis

Posted by : Man from the Past

●   กลุ่มบริษัทรถยนต์ Hyundai Motor Group มีแบรนด์รถหรู Genesis เป็นซับ-แบรนด์ใหม่ล่าสุด ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะก้าวขึ้นครองตลาดได้อย่างรวดเร็ว โดย ในขณะนี้ฮุนได สหรัฐฯ กำลังพยายามแยกโชว์รูมออกจากแบรนด์หลักอย่างฮุนได เพื่อยกระดับให้เป็นโชว์รูมหรูที่มีความเฉพาะตัวสำหรับรองรับลูกค้ากลุ่มใหม่ หลังจากเพิ่งเริ่มทำตลาดมาได้เพียง 22 เดือน

●   นับจากข่าวการเปิดตัวในเดือนธันวาคม 2015 ล่าสุดในเดือนกันยายนนี้ แบรนด์ Genesis ได้เริ่มกระบวนการแยกตัวออกมาจากแบรนด์ Hyundai ความแรงของแบรนด์มีตั้งแต่รถยังไม่วางตลาด เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ทราบกันดีอยู่แล้วว่านี่คือผลงานสร้างสรรค์ของ ปีเตอร์ ไชร์เออร์ (Peter Schreyer) มหาบุรุษนักออกแบบรถชาวเยอรมัน ที่มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสร้างสรรค์ของกลุ่มบริษัท โดยยังเป็นประธานคณะกรรมการบริษัทร่วมกับผู้บริหารชาวเกาหลีใต้อีก 2 คน

●   ที่ผ่านมามีการพูดกันมากถึงปรัชญาการออกแบบของ Hyundai-KIA ที่เรียกว่า Fluidic Sculpture หรือปฏิมากรรมลื่นไหลที่เราคุ้นหูคุ้นตากันดี ปรัชญานี้ ไชร์เออร์ ได้ใช้ออกแบบรถตั้งแต่เริ่มเป็นนักออกแบบและทำงานให้บริษัทรถยนต์หรูสัญชาติเยอรมนีอย่างออดี้ที่กลับมาผลิตรถยนต์อีกครั้งในปี 1965 หลังปิดตัวอยู่นานจากภัยสงครามโลก และประสบความสำเร็จด้วยการวางจำหน่าย Audi TT (Mk1 รุ่นปี 1988) ที่ทุกวันนี้แฟนรถยังจดจำกันได้ดี

●   Audi TT เจนเนอเรชั่นแรกที่พัฒนาขึ้นจากฝีมือการสเก็ตช์ของ ไชร์เออร์ จัดเป็นรถ Sports Coupe หรือรถ 2 ประตูหลังคาแข็งที่วางรากฐานให้รถประเภทนี้ในเวลาต่อมา โดยเฉพาะรูปทรงที่ดูแล้วเรียบง่ายแต่มีคุณค่า และนี่ก็คือแนวทางการออกแบบของ Fluidic Sculpture นั่นเอง

●   ไชร์เออร์ ทำงานกับออดี้และโฟลค์สวาเก็นมานานถึง 25 ปี ก่อนย้ายมาอยู่ที่ฮุนได ซึ่งต่อมาได้มีการควบรวมกับเกีย เขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ผลักดันการออกแบบรถหรู เพื่อยกระดับรถแบรนด์ฮุนไดให้ถึงจุดสูงสุด ไชร์เออร์ รับภาระนี้จนถึงปัจจุบันที่รถยนต์ภายใต้แบรนด์ Genesis กำลังจะก้าวสู่จุดสูงสุด นั่นคือ การเตรียมเป็นแบรนด์รถหรูระดับโลก ซึ่งนอกจากจะมีฐานจำหน่ายอยู่แล้วในเกาหลี จีน ตะวันออกกลาง และสหรัฐอเมริกา ยังจะมีตลาดสำหรับอย่างยุโรปด้วย และการจะทำเช่นนี้ให้ได้ Genesis จะต้องฝ่าด่านรถหรูของยุโรป ซึ่งก็คือรถหรูสัญชาติเยอรมันทุกแบรนด์ โดยเฉพาะเมอร์เซเดส-เบนซ์ กับบีเอ็มดับเบิลยู ซึ่งครองความยิ่งใหญ่ในโลกของรถหรูมาอย่างยาวนาน

●   ในการวางแผนฝ่าด่านหินนี้ Genesis Motors กำลังเตรียมออกรถเพิ่มอีกอย่างน้อย 3 รุ่น ต่อจากการเปิดตัว Genesis G90, Genesis G80 และ Genesis G70 แบ่งเป็นรถรถสปอร์ต คูเป้ 1 รุ่น และรถ SUV สปอร์ตอีก 2 รุ่น และทุกรุ่นในแผนงานนี้จะมีการเปิดตัวตามกรอบเวลาไม่เกินปี 2020

●   และจากการวางแผนงานที่เต็มไปด้วยความทะเยอทะยานเหล่านี้ ทำให้ ณ ปัจจุบันไม่ว่า ไชร์เออร์ จะไปปรากฏตัวที่ไหน เป็นต้องถูกถามอยู่เสมอว่า “จำเป็นหรือที่โลกจะต้องมีรถหรูเพิ่มขึ้นมาอีกแบรนด์?” และคำตอบที่เขาเคยให้นักหนังสือพิมพ์คนหนึ่งก็คือ “ผมไม่รู้ว่ามันจำเป็นหรือไม่จำเป็น แต่ฮุนไดอยากมี”

●   ง่ายๆ สั้นๆ พร้อมกับคำอธิบายเพื่อความเข้าใจแบบรวบรัด ปัจจุบันเศรษฐกิจของเกาหลีใต้และฮุนไดกำลังบานสะพรั่ง “ดังนั้นผมจึงคิดว่า ถึงเวลาที่พวกเราจะต้องสร้างรถพิเศษ เพื่อนำไปวางที่ชั้นบนสุดของแบรนด์ อีกทั้งการทำเช่นนี้ยังเข้ากันดีกับความคิดอ่านของคนเกาหลี”

●   สรุปคือ กลุ่มฮุนได-เกียเอาจริงแน่เรื่องการแย่งตลาดรถหรูจากบริษัทรถเยอรมัน ส่วนจะทำได้หรือไม่ได้ขอให้ดูเหตุผลประกอบดังนี้:

●   ไชร์เออร์ นอกจากจะมีฝีมือออกแบบรถยนต์เป็นเลิศ ยังมีฝีมือในการดึงคนดังในวงการรถหรูให้ไปร่วมงานด้วย ยกตัวอย่าง ลุค ดองเกอร์โวล์ค (Luc Donckerwolke) ซึ่งเลื่องชื่อในเรื่องของพลิกแพลงงานออกแบบ ดองเกอร์โวล์ค ถูกดึงตัวมาจากตำแหน่งหัวหน้านักออกแบบรถแบรนด์หรูของอังกฤษอย่าง Bentley เพื่อให้ไปเป็นหัวหน้าศูนย์ออกแบบรถฮุนได กับ มานเฟรด ฟิทซ์เจอรัลด์ (Manfred Fitzgerald) สุดยอดมันสมองเบื้องหลังการตลาดของรถสปอร์ตอิตาเลียนอย่าง Lamborghini เพื่อให้ไปนั่งบัญชาการยุทธศาสตร์การตลาดของ Genesis

●   มีคนเคยถาม ไชร์เออร์ ว่า เขามองภาพรวมของรถแบรนด์นี้เอาไว้อย่างไร? เขาตอบว่า เขามองมอง Genesis ในฐานะ “สิ่งแปลกใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราต้องผลักดัน พวกเราจะไม่ให้รถเลียนแบบรถค่ายอื่น พวกเราต้องการให้รถมีความเป็นตัวของตัวเอง”

●   ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนก็คือ รถต้นแบบ Genesis New York Concept ที่จัดแสดงไปในงาน นิวยอร์ค ออโต้โชว์ 2016 ซึ่งมันได้กลายมาเป็นสปอร์ต entry-level สุดปราดเปรียว Genesis G70 ที่เพิ่งเปิดตัวไปในช่วงเดือนที่ผ่านมา หลายองค์ประกอบในต้นแบบ New York Concept กำลังจะถูกนำไปกับใช้รถ Genesis รุ่นใหม่ๆ และ ไชร์เออร์ ตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดกับการได้รังสรรค์แบรนด์รถยนต์ใหม่ขึ้นมา

2016 Genesis New York Concept

●   “มันเป็นโครงงานที่ยิ่งใหญ่มาก พวกเราได้รับโอกาสในการออกแบบรถแบรนด์ใหม่ ตามแนวทางที่พวกเรารู้สึกว่าจะต้องเป็นไปตามนั้น พวกเรามีรถฮุนไดกับเกียแล้ว แต่รถเจเนซิสจะไม่เหมือนกับรถทั้งสองแบรนด์อย่างสิ้นเชิง ประเด็นนี้สำคัญในเชิงปรัชญา”

●   ท้ายที่สุด ไชร์เออร์ เคยถูกถามว่า เขารู้สึกอย่างไรกับการย้ายไปทำงานที่เกาหลีใต้ คำตอบก็คือ ทั้งเยอรมนีและเกาหลีมีวัฒนธรรมงานฝีมือที่ฝังแน่น เพียงแต่ขณะนี้ ประเทศหลังมีความทันสมัยชนิดไฮเปอร์ ทั้งด้านอิเล็คทรอนิคส์ เทคโนโลยี ศิลปะ การแต่งกาย ดนตรี กับวัฒนธรรมใหม่เอี่ยมที่กำลังแผ่อิทธิพลไปทั่วโลกอย่าง K-pop

●   ในบทความสัมภาษณ์จาก forbes.com ผู้สัมภาษณ์ให้ข้อมูลว่า เมื่อพูดถึงตรงนี้ ใบหน้าของ ไชร์เออร์ นั้นเต็มไปด้วยยิ้มพร้อมกับกล่าวว่า “ทั้งหมดส่งกระแสแผ่ทั่วกรุงโซล จนส่งอิทธิพลให้กับพวกเรานักออกแบบ และส่งให้โดยคนรับทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว”

●   ถึงตรงนี้คงต้องเขียนถึงประวัติการศึกษาของ ไชร์เออร์ เพราะถือกันว่าเป็นความเยี่ยมยอดของเขาอีกด้าน ไชร์เออร์ นั้นเกิดในครอบครัวเกษตรกร อยู่ในท้องทุ่งตั้งแต่เล็ก พอวัยรุ่นจึงเริ่มสนใจรถยนต์และเครื่องบิน ดังนั้นหลังจบมัธยมเขาจึงเข้าเรียนการออกแบบอุตสาหกรรมที่มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ประยุกต์ที่นครมิวนิค และไปศึกษาต่อด้านการออกแบบยานขนส่งที่ราชวิทยาลัยศิลปะแห่งกรุงลอนดอน… แน่นอนว่า ไชร์เออร์ ได้รับรางวัลมากมายจากผลงานของเขา แต่สิ่งที่ชี้ให้เห็นว่าเขายิ่งใหญ่ขนาดไหนในโลกของการออกแบบยานยนต์ก็คือ การได้รับปริญญาเอกกิติมศักดิ์ในสาขานี้จากที่นี่   ●

Peter Schreyer@Hyundai Motorstudio Seoul