Honda CB150R ประเดิมสนามทดสอบใหม่ ณ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ

670views

เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ • ภาพ : เอ.พี.ฮอนด้า

● เป็นข่าวใหญ่เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว เมื่อ ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี เอเชีย แปซิฟิค จำกัด หรือ HRAP ประกาศลงทุน 1,700 ล้านบาท เพื่อสร้างสนามทดสอบแห่งใหม่ ณ สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดปราจีนบุรี และในช่วงกลางปี 2560 ที่ผ่านมา สนามทดสอบแห่งนี้ก็เปิดใช้อย่างเป็นทางการ ล่าสุด บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ก็ประเดิมสนามทดสอบแห่งใหม่ด้วยการจัดให้สื่อมวลชนได้ทดลองขี่มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ล่าสุด Honda CB150R ที่ใช้เทคโนโลยีและอุปกรณ์มาตรฐานหลายอย่างร่วมกับบิ๊กไบค์ สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับมอเตอร์ไซค์ระดับ 150 ซีซี

● CB150R เกิดขึ้นจากความต้องการให้คนไทยได้ใช้มอเตอร์ไซค์คุณภาพดี ทาง เอ.พี. ฮอนด้าจึงขอความร่วมมือกับทางญี่ปุ่นเพื่อผลิตมอเตอร์ไซค์รุ่นนี้ขึ้นเป็นพิเศษเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น โดยฮอนด้ายังคงเน้นเรื่องการขับขี่ปลอดภัยและทำตามกฎจราจร จึงไม่เน้นจุดขายเรื่องแรงม้าสูงสุดหรือความเร็วสูงสุด แต่เน้นเรื่องเทคโนโลยีใหม่เพื่อให้รถรุ่นนี้เป็นไปตามแนวคิดในการออกแบบนั่นคือ สไตล์ที่โดดเด่นไม่ซ้ำใคร, เปลี่ยนการเดินทางธรรมดาให้เป็นความสนุก, อุปกรณ์จัดเต็มระดับบิ๊กไบค์ และสามารถแต่งเพิ่มได้อย่างหลากหลาย

● Mr. Yuzuru Ishikawa ตำแหน่ง Large Project Leader หรือ LPL ร่วมงานกับฮอนด้ามาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1993 มีส่วนร่วมในการพัฒนามอเตอร์ไซค์ฮอนด้าหลายรุ่น ให้ข้อมูลเกี่ยวกับ CB150R ซึ่งหลายส่วนมีความน่าสนใจ เช่น การออกแบบเฟรมรถที่แยกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่เสริมความแข็งแรง ออกแบบให้รับแรงที่มาจากระบบกันสะเทือนหลังมารวมกันที่เฟรมส่วนนี้ ส่วนเฟรมหลักที่ใช้ในการควบคุมก็สามารถออกแบบให้มีรูปทรงที่เหมาะสมได้ เพื่อการควบคุมที่ดีที่สุด ออกแบบและจัดวางอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อให้จุดศูนย์ถ่วงของตัวรถอยู่ใต้ตำแหน่งศีรษะผู้ขี่เหมือนรถแข่งรุ่น RC213 เพื่อให้ควบคุมรถได้ง่าย การจัดวางมวลน้ำหนักให้อยู่ภายใน 3 เหลี่ยมที่ลากผ่านระหว่างศีรษะผู้ขี่ ล้อหน้า และล้อหลัง

● สำหรับเครื่องยนต์ของรถรุ่นนี้ เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ใช้ฝาสูบแบบ DOHC 4 วาล์วต่อสูบ กับเครื่องยนต์สูบเดียว 150 ซีซี อัตราส่วนการอัด 11.3:1 สูงสุดในกลุ่มรถ 150 ซีซี มีแรงม้าสูงสุดที่ 9,000 รอบต่อนาที ปลอกสูบแบบใหม่ภายนอกออกแบบให้พื้นผิวขรุขระ เพื่อเพิ่มพื้นที่สัมผัสกับเสื้อสูบ ส่งผลให้มีการระบายความร้อนที่ดีขึ้น ลดการขยายตัวของลูกสูบและแหวนลูกสูบ ลดแรงเสียดทาน กระเดื่องวาล์วใหม่แบบ Roller Unit Cam ลดแรงเสียงทาน ไม่กินกำลังเครื่องยนต์ ใช้ในรถใหญ่อย่าง VFR1200 และ CBR500 เพลาข้อเหวี่ยงใหม่ เพิ่มระยะชักจกาเดิม 47.2 เป็น 57.84 มิลลิเมตร ให้แรงบิดดีตั้งแต่รอบต่ำ ลูกสูบเคลือบสารโมลิบดินัม เทคโนโลยีเดียวกับ NC750 แผ่นคลัตช์เพิ่มพื้นที่สัมผัส 11 เปอร์เซ็นต์

● โครงสร้างตัวถังและสวิงอาร์มใหม่ เน้นเรื่องน้ำหนักเบาและแข็งแกร่ง โครงถักแบบใหม่ ลดน้ำหนักจาก CBR150RR ได้ถึง 14 กิโลกรัม โดย CB150R มีน้ำหนัก 127 กิโลกรัม อุปกรณ์มาตรฐานแบบเดียวกับบิ๊กไบค์ เช่น ช็อคฯ แบบ Upside Down ขนาด 41 มิลลิเมตร แบบเดียวกับ X-Adv 750 มาตรวัดมัลติฟังก์ชั่น แสดงข้อมูลครบครัน พิเศษด้วยไฟเตือนเปลี่ยนเกียร์หรือ Shift Light ไฟบอกตำแหน่งเกียร์ทุกเกียร์ วัดรอบ ความเร็วเฉลี่ย อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย มาตรวัดระยะทางแยก Trip A และ B มาตรวัดปรับความสว่างได้ 5 ระดับ

● สวิงอาร์มหลังดีไซน์แบบบิ๊กไบค์ ยางเรเดียลเสริมใยเหล็ก ด้านหลังขนาด 150 มิลลิเมตร รับความเร็วได้สูงสุด 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบไฟส่องสว่าง Full LED ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย และไฟเลี้ยวหน้า-หลัง ดิสก์เบรกหน้าขนาด 296 มิลลิเมตร ติดตั้งแบบ Redial Mount พร้อมคาลิเปอร์ 4 พอท เป็นครั้งแรกของโลกในรถคลาสนี้ มาพร้อม ABS และ G-Sensor ซึ่งถ่ายทอดมาจาก CBR1000RR แฮนด์บาร์ขนาด 28.6 มิลลิเมตร แบบเดียวกับ X-Adv และ Africa Twin มั่นคงแข็งแรง เกียร์โยง Pillow Ball และพักเท้าหลังอะลูมิเนียม

● สำหรับการทดสอบ เน้นการขับขี่เหมือนการใช้งานจริง และเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก ไม่ได้รีดสมรรถนะกันอย่างเต็มที่นัก ตัวรถมีน้ำหนักเบา ท่านั่งกึ่งสปอร์ต ไม่ก้มมาก ขาพับไปด้านหลังไม่มากนัก ผู้ขี่ที่มีความสูงประมาณ 170 เซนติเมตร สามารถวางเท้าได้เกือบเต็มฝ่าเท้า ความเร็วสูงสุดทำได้ประมาณ 130 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.aphonda.co.th/exmotion ●