BMW Xpo 2017 เผยโฉมตัวแรง BMW M4 DTM Champion Edition

1Kviews

ภาพ : สุพรรณี ยังอยู่ และ บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย

● บีเอ็มดับเบิลยู ประเทศไทย พร้อมเปิดงาน BMW Xpo 2017 ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 7 – 10 กันยายน 2560 โดยไฮไลท์ในปีนี้คือ BMW M4 DTM Champion Edition ตัวแรงรุ่นพิเศษที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสนามแข่ง ต่อด้วยสปอร์ตปลั๊ก-อิน BMW i8 Protonic Frozen Black Edition ปิดท้ายด้วยรถหรูในกลุ่มพรีเมี่ยม BMW 730Ld Pure Excellence และ BMW 740Le xDrive Pure Excellence ที่มีรุ่นประกอบในประเทศทำตลาดเป็นครั้งแรก

● ตัวงานในปีนี้จะใช้พื้นที่จัดแสดง 5 โซน พร้อมรถ 18 รุ่น ประกอบด้วย BMW 3, 5, 7 Series, X Series และกลุ่มรถกรีนภายใต้ซับ-แบรนด์ i ในขณะที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์จะถูกจัดเป็นเวทีเฉลิมฉลองความสำเร็จของ BMW M บนสนามแข่ง จัดอีเวนท์พิเศษรวมพลเจ้าของรถ BMW M ทั่วประเทศไทยในวันที่ 9 กันยายน 2560

มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย

● “BMW Xpo ถือเป็นงานสำคัญประจำปีสำหรับบีเอ็มดับเบิลยู และยังเป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมในการเข้าถึงทั้งลูกค้าในปัจจุบัน และผู้สนใจในรถยนต์ของเรา ผู้ที่แวะเวียนมาในงานจะได้สัมผัสกับรถหลากหลายรุ่น” มร. สเตฟาน ทอยเชอร์ต (Stefan Teuchert) ประธาน บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าว

● “เราพร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นเป็นทวีคูณ เพื่อสร้างความพึงพอใจให้กับผู้ขับในทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่รักความเร็วและสมรรถนะที่ร้อนแรงในสนามแข่ง หรือความหรูหราสะดวกสบายในทุกการเดินทาง ขณะเดียวกัน การเปิดตัวรุ่นประกอบในประเทศของ 740Le xDrive Pure Excellence ซึ่งเป็นรถยนต์ปลั๊ก-อิน ไฮบริดระดับพรีเมียม ที่ไม่เพียงสง่างามไปด้วยความหรูหราและความสะดวกสบายอันเหนือระดับ แต่ยังมาพร้อมกับขุมพลังอันเหนือชั้นที่ให้พละกำลังและประสิทธิภาพอย่างน่าประทับใจ ยังเป็นการสะท้อนคำมั่นสัญญาของเราในการต่อยอดและขับเคลื่อนการพัฒนานวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย”

● “และในวันเสาร์ที่ 9 กันยายน 2560 นี้ เราจะต้อนรับแฟนๆ ของบีเอ็มดับเบิลยูในตระกูล M เพื่อมาร่วมกันเฉลิมฉลองการครบรอบ 45 ปีของ BMW M ตัวอักษรที่ทรงพลังที่สุดในโลกยานยนต์ กับทัพรถตระกูล M หลากรุ่นจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทำให้งานครั้งนี้เป็นหนึ่งใน BMW Xpo ที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุด ด้วยรถยนต์ที่เรานำมาจัดแสดงอย่างละลานตา และบรรยากาศของความหลงใหลในความเป็นบีเอ็มดับเบิลยูที่สัมผัสได้ทั่วทั้งงาน”

คุณกฤษฎา อุตตโมทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารกิจการองค์กร

BMW M4 DTM Champion Edition

● BMW M4 DTM Champion Edition จำกัดจำนวนผลิตเพียง 200 คันทั่วโลก มันถูกสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองชัยชนะของนักขับเยอรมัน มาร์โก วิทแมนน์ (Marco Wittmann) จาก BMW Team RMG ผู้คว้าชัยทัวริ่งคาร์รายการ Deutsche Tourenwagen Masters หรือ DTM ประจำปี 2016

● ตัวรถตกแต่งด้วยภาพลักษณ์เดียวกับรถแข่ง DTM อาทิลวดลายสุดคลาสสิคตามแบบฉบับ M บนพื้นตัวถังสีขาว Alpine White พร้อมชิ้นส่วนคาร์บอนที่ถูกออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ทุกชิ้น ไฟหน้า LED พร้อมระบบ BMW Selective Beam ไฟท้ายแบบ OLED โครงสร้างน้ำหนักเบามีอาทิ ฝากระโปรงหน้า-หลัง หลังคา โครงแผงหน้าปัด และแผงใต้กันชนท้าย ผลิตจากพลาสติกเสริมเส้นใยคาร์บอน (CFRP : carbon-fibre-reinforced plastic) ท่อไอเสียคู่แบบสปอร์ตมาพร้อมกับท่อเก็บเสียงที่ทำจากไทเทเนียมน้ำหนักเบาพิเศษ

● ห้องโดยสารตกแต่งตามจุดต่างๆ ด้วย Alcantara พวงมาลัย M Sports เบาะหน้าคู่แบบ M Carbon bucket seat เบาะหลังแทนที่ด้วยโครง rollover bar สะดวกด้วยระบบนำทางแบบ Professional ระบบช่วยจอด Park Distance Control และกระจกภายนอก – ภายในแบบปรับระดับความสว่างอัตโนมัติ

● เทคโนโลยีระบบหัวฉีดน้ำ (water injection) ลดอุณหภูมิไอดีก่อนเข้าห้องเผาไหม้จาก BMW M4 GTS ช่วยเสริมประสิทธิภาพให้เครื่องยนต์ 6 สูบ 3.0 ลิตร ทวิน-เทอร์โบชาร์จ ผลิตกำลังได้ถึง 500 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 61.1 กก.-ม. อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 305 กม./ชม.

● BMW M4 DTM Champion Edition ราคาจำหน่าย 13,939,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard

BMW 740Le xDrive Pure Excellence (ประกอบในประเทศ)

● 740Le xDrive Pure Excellence รุ่นประกอบในประเทศ เป็นรถหรูที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปลั๊ก-อิน ไฮบริด เครื่องยนต์ 4 สูบ BMW TwinPower กำลังสูงสุด 258 แรงม้า จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 83 กิโลวัทท์ หรือเทียบเท่า 113 แรงม้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ Steptronic กำลังรวมทั้งระบบ 326 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 50.9 กก.-ม.

● ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบ 4 ล้อ all-wheel drive อัตราเร่ง 0-100 กม. ภายใน 5.3 วินาที อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 47.6 กม./ลิตร อัตราการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสีย 49 กรัม/กม. ส่วนโหมดไฟฟ้าล้วนวิ่งทำระยะทางได้ 41 กม. และทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 140 กม./ชม. การชาร์จแบตเตอรี่นั้นสามารถชาร์จด้วยไฟบ้านได้เต็มภายใน 4 ชม. แต่หากใช้ชุดชาร์จแรงดันสูง BMW i Wallbox ในอัตรา 3.5 กิโลวัตต์ (16 แอมป์/230 โวลต์) จะลดเวลาลงเหลือ 2 ชั่วโมง 40 นาที

● BMW 740Le xDrive Pure Excellence รุ่นประกอบในประเทศ ราคาจำหน่าย 6,339,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard

BMW 730Ld Pure Excellence

● 730Ld Pure Excellence ใช้โครงสร้างตัวถัง Carbon Core เทคโนโลยีเดียวกับที่ใช้ใน BMW i8 ผสม CFRP เข้ากับเหล็กกล้าและอลูมิเนียม ช่วยให้ตัวรถเบาลงราว 130 กก. เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า มีระบบ Air Flap Control เปิดช่องระบายอากาศโดยอัตโนมัติเมื่อตัวรถต้องการระบายความร้อน เพิ่มประสิทธิภาพด้านอากาศพลศาสตร์

● อุปกรณ์มาตรฐานทั้ง 740Le xDrive Pure Excellence และ 730Ld Pure Excellence ยังมีอาทิ ไฟหน้า Adaptive LED, กุญแจ BMW Display Key, ระบบนำทางแบบ Professional, ระบบ iDrive รองรับการสั่งงานแบบสัมผัสและ Gesture Control, ระบบระบายอากาศที่เบาะพร้อมฟังก์ชั่นนวด และฟังก์ชั่นในการอุ่นเบาะ ผู้โดยสารด้านหลังสะดวกสบายด้วยเบาะ Executive Lounge Seating ปิดท้ายด้วยหลังคากระจก Sky Lounge Panorama

● พละกำลังมาจากเครื่องยนต์ดีเซล 6 สูบแถวเรียง 3.0 ลิตร BMW TwinPower Turbo กำลังสูงสุด 265 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 63.1 กก.-ม. ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 8 จังหวะ อัตราเร่ง 0-100 กม. ภายใน 6.2 วินาที

● BMW 730Ld Pure Excellence ราคาจำหน่าย 5,839,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard

BMW X5 xDrive40e Pure Experience

● X5 xDrive40e Pure Experience รถเอนกประสงค์ SAV ปลั๊ก-อิน ไฮบริด ที่มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ xDrive นุ่มนวลด้วยช่วงล่างแบบ comfort adaptive ตกแต่งด้วยบันไดข้างอลูมิเนียม รางหลังคาเคลือบอลูมิเนียมด้าน และล้ออัลลอย Star-spoke style 449 ขนาด 19 นิ้ว

● เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ TwinScroll พร้อมระบบ VALVETRONIC กำลังสูงสุด 245 แรงม้า จับคู่มอเตอร์ไฟฟ้า 113 แรงม้า กำลังรวมทั้งระบบ 313 แรงม้า อัตราเร่ง 0 – 100 กม. ภายใน 6.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 210 กม./ชม. อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 29.4 กม./ลิตร คาย CO2 ประมาณ 79 กรัม/กม.

● โหมดไฟฟ้าล้วนทำความเร็วสูงสุดได้ 120 กม./ชม. ชาร์จแบตเตอรี่ด้วยไฟบ้านราว 3 ชั่วโมง 50 นาที แต่หากชาร์จด้วยชุดอุปกรณ์ BMW i Wallbox Pure จะลดเวลาลงเหลือ 2 ชั่วโมง 45 นาที

● BMW X5 xDrive40e Pure Experience ราคาจำหน่าย 4,439,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard

BMW i8 Protonic Frozen Black Edition

● สปอร์ตปลั๊ก-อิน i8 Protonic Frozen Black Edition นับเป็นรุ่นพิเศษจำกัดจำนวน สีพิเศษดำด้านแบบ BMW Individual paint finish เฉพาะรุ่น Protonic Frozen Black ตกแต่งด้วยสีเทาเมทัลลิค Frozen Grey

● ห้องโดยสารตกแต่งด้วยตะเข็บเบาะและคอนโซลกลางสีเหลืองตัดกับพื้นผิวสีดำ แผงประตูเสริมความเด่นด้วยตะเข็บสีเหลือง ผ้าบุเพดานสีดำแอนทราไซต์ สายเข็มขัดนิรภัยสีเทา คันเกียร์และปุ่มควบคุม iDrive เคลือบเซรามิค และเพิ่มความเฉพาะตัวด้วยขอบประตูด้านล่างที่คำว่า “Edition”

● BMW i8 Protonic Frozen Black Edition ราคาจำหน่าย 11,839,000 บาท รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard

ข้อเสนอพิเศษในงาน

● สั่งจองรถรุ่นที่เข้าร่วมรายการภายในงาน พร้อมด้วยแพ็คเกจบริการ BSI Ultimate บำรุงรักษาฟรี 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร และการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทาง โดยมีกำหนดส่งมอบรถไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2560 จะได้รับการขยายระยะเวลาโปรแกรม BSI ครอบคลุมการบำรุงรักษาฟรี 6 ปี/120,000 กิโลเมตร พร้อมรับประกัน 6 ปีแบบไม่จำกัดระยะทาง (ข้อเสนอขยายเวลาในโครงการ BSI และการรับประกัน ไม่ครอบคลุมรถตระกูล i และ M)

● นอกจากนี้ ผู้ที่สั่งจองรถภายในงาน และมีกำหนดส่งมอบรถไม่เกินวันที่ 30 กันยายน 2560 ยังจะได้รับลำโพงบลูทูธ Bowers & Wilkins T7 เป็นของสมนาคุณด้วย

● สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.bmw.co.th ●