August 10, 2017
Motortrivia Team (10076 articles)

Mazda ประกาศวิสัยทัศน์ระยะยาว Sustainable Zoom-Zoom 2030

motortrivia

●   มาสด้า มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวไปสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยการเผยวิสัยทัศน์ในระยะยาวภายใต้ชื่อโครงการ Sustainable Zoom-Zoom 2030 ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีเจนเนอเรชั่นใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอีก 13 ปีข้างหน้า โดยเตรียมเปิดตัวเครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ SkyActiv-X ในปี 2019 และจะเป็นเครื่องยนต์เบนซินในเชิงพาณิชย์รุ่นแรกของโลก ที่ใช้การจุดระเบิดด้วยการอัดอากาศ. (1)

●   ภายใต้แนวคิดและวิสัยทัศน์ ซูม-ซูม อย่างยั่งยืน หรือ Sustainable Zoom-Zoom เดิมที่มาสด้าเคยประกาศไว้ในปี 2007 มาสด้าพยายามพัฒนารถยนต์ที่ให้ความสนุกสนานในการขับ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีระบบความปลอดภัยที่ดี ปัจจุบันอุตสาหกรรมยานยนต์โลกเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มาสด้าจึงกำหนดวิสัยทัศน์ใหม่ที่มีมุมมองระยะยาว เพื่อช่วยแก้ปัญหาที่ลูกค้าทั่วโลกและสิ่งที่ผู้คนในสังคมต้องเผชิญอยู่ในขณะนี้

1. Sustainable Zoom-Zoom 2030

●   มาสด้าเชื่อว่าพันธกิจที่สำคัญของมาสด้า คือการสร้างโลกที่สวยงาม และเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนและคนในสังคม มาสด้าพยายามแสวงหาหนทางใหม่ๆ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนผ่านการมอบคุณค่าที่โลกยานยนต์สามารถให้ได้ ด้วยการริเริ่มด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับมวลมนุษยชาติ และเพื่อให้รถยนต์และมนุษย์สามารถอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน เพื่อความสมบูรณ์และความสวยงามของโลกใบนี้

●   แนวทางปฏิบัติ : ขยายมาตรการเพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างครบวงจร “Well-to-Wheel” ทั้งที่มาจากขบวนการจัดหาแหล่งพลังงานเชื้อเพลิงเพื่อนำมาใช้เป็นแหล่งพลังงานของรถยนต์ และการปล่อยก๊าซ CO2 จากตัวรถยนต์ โดยคำนึงถึงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ตลอดวงจรชีวิตของรถยนต์

●   มาสด้าตั้งเป้าหมายเพื่อลดการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เฉลี่ยของทั้งองค์กร Corporate Average Well-to-Wheel CO2 Emission ลดลง 50 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2030 เมื่อเทียบจากปี 2010 และตั้งเป้าหมายลดลงถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ภายในปี 2050 ซึ่งมาสด้าจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ด้วยนโยบายการจัดลำดับความสำคัญของการปรับปรุงประสิทธิภาพและมาตรการด้านการปล่อยมลพิษที่สะอาดมากยิ่งขึ้น และสามารถใช้งานได้บนโลกแห่งความเป็นจริง

●   เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายดังกล่าว มาสด้าดำเนินการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อพัฒนาเครื่องยนต์สันดาปภายในที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด ปัจจุบันทั่วทั้งโลกรถยนต์ส่วนใหญ่ยังคงใช้เครื่องยนต์นี้และมีจำนวนมาก และจะยังคงต่อเนื่องไปอีกหลายปีต่อจากนี้ไป สามารถลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างเป็นรูปธรรม และรวมถึงการก่อให้เกิดผลลัพธ์กับการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อทำงานรวมกับเทคโนโลยีรถไฟฟ้าในอนาคต

●   ตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นไป มาสด้าจะเริ่มเปิดตัวรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีอื่นๆ เกี่ยวกับการขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าในภูมิภาคที่ใช้พลังงานสะอาดเพื่อการผลิตกระแสไฟฟ้า หรือจำกัดเฉพาะยานพาหนะบางอย่างเพื่อลดมลพิษทางอากาศ

ด้านสังคม (Social)

●   ทางด้านสังคม มาสด้ามุ่งเน้นและส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยและการสร้างความสุขในสังคมผ่านการพัฒนายานยนต์ และระบบการจัดการที่สร้างความอุ่นใจและเสริมสร้างชีวิตของลูกค้า ด้วยการมอบประสบการณ์การขับขี่แบบไร้ขีดจำกัดให้กับลูกค้าทั่วโลก

●   แนวทางปฏิบัติ : พัฒนาเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุด ภายใต้ปรัชญาความปลอดภัยเชิงป้องกันของมาสด้า ด้วยความมุ่งมั่นเพื่อนำไปสู่การลดการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน โดยเพิ่มความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน เช่น ตำแหน่งการนั่งของผู้ขับขี่ที่เหมาะสม รูปแบบของแป้นเหยียบเบรก และทัศนะวิสัยในการขับขี่ และนำมาใช้จนกลายเป็นมาตรฐานสำหรับรถยนต์ทุกรุ่น

●   ส่งเสริมการสร้างมาตรฐานใหม่เกี่ยวกับคุณลักษณะด้านความปลอดภัยขั้นสูงของระบบ i-ACTIVSENSE ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ตระหนักและประเมินอันตรายที่อาจเกิดขึ้น นอกเหนือไปจากประเทศญี่ปุ่นซึ่งได้บรรจุเป็นมาตรฐานแล้ว มาสด้าจะนำเอาเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ และให้กลายเป็นมาตรฐานในตลาดอื่นๆ ทั่วโลก โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นไป

●   เริ่มต้นการทดสอบเทคโนโลยีการขับขี่แบบอัตโนมัติ ในปัจจุบันถูกพัฒนาขึ้นโดยสอดคล้องกับแนวคิดการให้มนุษย์เป็นศูนย์กลางการควบคุม และคอนเซ็ปต์ใหม่ Mazda Co-Pilot (2) ในปี 2020 โดยมีเป้าหมายเพื่อนำไปใช้ให้เป็นมาตรฐานในรถมาสด้าทุกรุ่นภายในปี 2025

●   การใช้เทคโนโลยีการเชื่อมต่อสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ที่ช่วยให้เจ้าของรถสามารถรองรับความต้องการของผู้คนในพื้นที่ห่างไกลและยากที่จะสามารถเดินทางเข้าถึงได้

สำหรับลูกค้าทั่วโลก (People)

●   เพิ่มความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้า เสริมสร้างความสุขกายสบายใจ ด้วยการมีส่วนร่วมในการปกป้องรักษาโลกใบนี้และการมีส่วนร่วมในสังคมด้วยรถยนต์ที่สามารถส่งมอบความสุขในการขับขี่อย่างแท้จริง

●   แนวทางปฏิบัติ : เดินหน้าพัฒนาการขับขี่แบบ Jinba-ittai อย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อปลดล็อคศักยภาพของผู้คนและฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจ รวมทั้งยึดหลักปรัชญาการออกแบบยานยนต์เสมือนมีชีวิต ด้วยการก้าวพัฒนาไปอีกขั้นของการออกแบบอันสง่างามภายใต้ โคโดะ ดีไซน์ เพื่อยกระดับการออกแบบยานยนต์ให้เสมือนเป็นงานศิลปะ ที่เสริมสร้างชีวิตและอารมณ์ของทุกคนที่กำลังเหลียวมอง

2. เครื่องยนต์เจนเนอเรชั่นใหม่ SkyActiv-X

●   เครื่องยนต์ SkyActiv-X จะเป็นเครื่องยนต์เบนซินเชิงพาณิชย์ครั้งแรกของโลก ที่สามารถจุดระเบิดได้โดยการอัดอากาศ โดยการเผาไหม้ของเครื่องยนต์จะเกิดขึ้นจากการจุดระเบิดของอากาศและน้ำมันเชื้อเพลิงที่ผสมกัน ในขณะที่ลูกสูบเคลื่อนที่ในจังหวะของการอัด

●   วิธีการเผาไหม้นี้เป็นกรรมสิทธิ์ซึ่งเรียกว่า Spark Controlled Compression Ignition ช่วยแก้ปัญหา 2 เรื่องที่เป็นอุปสรรคของการพัฒนาเครื่องยนต์เบนซินที่ใช้การจุดระเบิดในจังหวะการอัดอากาศ นั่นคือ การเพิ่มพื้นที่เพื่อสามารถทำให้เกิดการจุดระเบิดในจังหวะการอัดของลูกสูบ และการพัฒนาการจุดระเบิดที่สมบูรณ์แบบนี้ได้รวมเอาข้อดีของการจุดระเบิดด้วยการอัดอากาศและการจุดระเบิดด้วยประกายการเผาไหม้เข้าไว้ด้วยกัน

●   เครื่องยนต์เผาไหม้ใหม่ที่เป็นกรรมสิทธิ์นี้ รวมข้อดีของเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล เพื่อให้ได้สมรรถนะด้านสิ่งแวดล้อม สมรรถนะพลังแรงของเครื่องยนต์ และการเร่งสปีดที่ยอดเยี่ยม การจุดระเบิดด้วยการบีบอัดและการใช้ระบบซุปเปอร์ชาร์จเจอร์ บรรจุและอัดอากาศ ทำงานร่วมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประหยัดน้ำมัน และสามารถทำให้เครื่องยนต์มีการตอบสนองได้อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และสามารถเพิ่มแรงบิด 10 – 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ SkyActiv-G ในปัจจุบัน (3)

●   การจุดระเบิดด้วยการบีบอัดสามารถช่วยให้เกิดการเผาไหม้ที่สมบูรณ์แบบได้ในภาวะ Super Lean Burn (4) จึงเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องยนต์มากขึ้น 20 – 30 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์ SkyActiv-G ในปัจจุบัน หรือเพิ่มขึ้น 34 – 45 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซินของมาสด้าในปี 2008 ที่มีขนาดเครื่องยนต์เท่ากัน เครื่องยนต์ SkyActiv-X เทียบเท่าหรือสูงกว่าเครื่องยนต์คลีนดีเซลรุ่นล่าสุด SkyActiv-D ในเรื่องของประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง

●   มีประสิทธิภาพสูงในช่วงการทำงานที่กว้างของรอบเครื่องยนต์และภาระของเครื่องยนต์ ทำให้สามารถมีอิสระในการออกแบบค่าอัตราทดเกียร์ที่ต้องการที่สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงและสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.mazda.co.th   ●

(1).    ข้อมูล ณ เดือนสิงหาคม 2017 จากการศึกษาภายใน
(2).   แนวคิดการพัฒนาเทคโนโลยีการขับขี่แบบอัตโนมัติของมาสด้า โดยมีผู้ขับเป็นศูนย์กลางเพื่อให้เกิดการขับขี่ที่ผ่อนคลายทั้งด้านจิตใจและร่างกาย ในขณะที่รถกำลังเคลื่อนที่ด้วยการควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพละมั่นคงจากผู้ขับขี่และตัวรถ ในกรณีที่ไม่คาดคิดเช่นการสูญเสียสติอย่างฉับพลันรถจะเข้ามาควบคุมการขับขี่แทนที่ผู้ขับขี่โดยอัตโนมัติและติดต่อบริการฉุกเฉินและขับรถอย่างปลอดภัยไปยังสถานที่ที่เหมาะสมที่สุด
(3).   เครื่องยนต์ยังอยู่ระหว่างการพัฒนาและตัวเลขข้อมูลจำเพาะอาจมีการเปลี่ยนแปลง
(4).   สภาวะที่อัตราส่วนผสมของน้ำมันเบนซินและอากาศลดลงจนถึงระดับที่ไม่สามารถจุดระเบิดได้ด้วยเครื่องยนต์ที่จุดระเบิดด้วยประกายไฟ