July 20, 2017
Motortrivia Team (10203 articles)

Mazda ประเทศไทย เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2560


ภาพ : จันทนา เจริญทวี

 

●   บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2560 หลังส่งรถรุ่นใหม่ทำตลาด 4 รุ่น และสามารถสร้างยอดจำหน่ายรวมทุกรุ่นเกือบ 24,000 คัน คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 13% ประกาศเดินหน้าปรับปรุงโชว์รูมและศูนย์บริการทั่วประเทศ เสริมจุดแข็งด้วยบริการหลังการขาย Mazda Activ Service และปรับเป้าหมายตัวเลขยอดจำหน่ายเพิ่มขึ้น คาดปีนี้โตเพิ่ม 20% พร้อมจำหน่ายกว่า 51,000 คัน

●   นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 นี้ ตลาดรถยนต์คึกคักมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา หลายๆ ค่ายต่างขยับขับเคลื่อนทั้งเปิดตัวรถรุ่นใหม่ จัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นความต้องการ และเพื่อให้ลูกค้าได้จับจองเป็นเจ้าของรถได้ง่ายไม่ว่าจะเป็น ดาวน์น้อย ดอกเบี้ยต่ำ บำรุงรักษาให้ฟรี เพิ่มทางเลือกและโอกาสในการเป็นเจ้าของรถที่ชอบให้กับลูกค้ามากขึ้นจนเกิดการแข่งขันที่ดุเดือด เข้มข้น ส่งผลให้ตลาดรถยนต์คึกคักต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายปี 2559 ที่ผ่านมา จนถึงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ อีกทั้งยังมองเห็นแนวโน้มของการขยับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเฉพาะตลาดรถยนต์มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนมกราคม คาดว่ายอดขายรวมของตลาดจะเพิ่มขึ้นถึง 820,000 คัน สำหรับมาสด้าได้มีการปรับเป้าการขายเพิ่มอีก 1,000 คัน จาก 50,000 คัน เพิ่มเป็น 51,000 คัน หรือเติบโตเพิ่มขึ้นจาก 18% เป็น 20%”


จากซ้าย : นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด, นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด และนายอัตสึชิ ยาสึโมโต รองประธานบริหาร มาสด้า เซลส์ ประเทศญี่ปุ่น


●   หลังผ่าน 6 เดือนแรก รถใหม่ของมาสด้า 4 รุ่น ช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายครึ่งปีแรกเป็น 23,893 คัน Mazda2 มียอดขายสูงสุด 14,284 คัน, Mazda BT-50 PRO จำนวน 3,099 คัน, Mazda3 จำนวน 2,677 คัน, Mazda CX-3 จำนวน 2,219 คัน, Mazda CX-5 จำนวน 1,604 คัน และ Mazda MX-5 จำนวน 10 คัน ครองอันดับ 3 ตลาดรถยนต์นั่งในประเทศ นอกจากนี้มาสด้ายังคาดว่ายอดรวมของตลาดรถยนต์ไทยน่าจะทะลุ 820,000 คัน

●   นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศไทยที่เริ่มปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ แน่นอนว่ามาจากหลากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการส่งออกของประเทศไทยไปยังภูมิภาคต่างๆ ที่มีทิศทางที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งออกข้าว และสินค้าทางการเกษตรอื่นๆ การเติบโตของธุรกิจการท่องเที่ยวและการบริการมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ราคาสินค้าการเกษตรที่ปรับตัวดีขึ้น มาตรการของภาครัฐที่ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและเกษตรกร อาทิ การส่งเสริมให้ใช้นวัตกรรมแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า มาตรการส่งเสริมธุรกิจขนาดย่อม หรือ SME การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เริ่มชัดเจนมากยิ่งขึ้น ผนวกกับความเชื่อมั่นจากนักลงทุนต่างชาติ อีกทั้งประชาชนภายในประเทศยังคงมีความต้องการสินค้าอุปโภค – บริโภค โดยเฉพาะรถยนต์ที่กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญต่อการดำเนินชีวิตไปแล้ว โดย 6 เดือนแรกของปีนี้ ภาพรวมของตลาดรถยนต์เป็นไปตามที่คาดการณ์อยู่ที่ประมาณ 410,00 คัน ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 11% เมื่อเทียบกับตัวเลขยอดรวมเมื่อปีที่ผ่านมา 368,630 คัน”

●   สำหรับการปรับภาพลักษณ์ และการขยายเครือข่ายโชว์รูม/ศูนย์บริการมาตรฐาน เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจ ภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ของมาสด้า นั่นคือ Mazda Corporate Identity เพื่อยกระดับแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า จากทั้งหมด 147 แห่ง จะถูกปรับปรุงให้แล้วเสร็จภายในปี 2562 และเตรียมขยายเพิ่มอีก 20 แห่งทั่วประเทศ

●   ทั้งนี้ มาสด้าประกาศว่า มาตรฐานใหม่ของการให้บริการทั้งก่อนและหลังที่มาสด้าเน้นสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าทั้งด้านการขายและการบริการนั้น จะมีการติดตามผลการประเมินความพึงพอใจอย่างใกล้ชิด มีการพัฒนาคุณภาพฝีมือช่างซ่อมให้ก้าวทันเทคโนโลยี ซึ่งมาสด้าได้มีการจัดแข่งขันทักษะช่างเทคนิคและการบริการ เพื่อพัฒนามาตรฐานคุณภาพของบริการหลังการขาย

●   นายชาญชัย กล่าวว่า “มาสด้าเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของประเทศไทย มีแนวโน้มและทิศทางที่สดใสมากกว่าปีที่ผ่านมา และคาดว่ายอดขายของตลาดรถยนต์จะเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา ปีนี้คงจะได้เห็นยอดจำหน่ายมากกว่า 820,000 คัน หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 7-10% ในส่วนของมาสด้าเราตั้งเป้ายอดขายปีนี้ เติบโตสูงสุด 20% หรือประมาณ 51,000 คัน (จากปี 2559 = 42,537) และครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากกว่า 6% (จากปี 2559 = 5.5%) โดยมาสด้าได้มีการปรับเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นจากเดิมที่ได้ประกาศไว้ ทั้งในส่วนของตลาดรวมและในส่วนของมาสด้า”

●   นายธีร์ เพิ่มพงศ์พันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายการตลาด ให้ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ของครึ่งปีหลังว่า “ด้วยการส่งออกที่มีการขยายตัวตั้งแต่ช่วงปลายปี 2559 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2560 เช่นเดียวกับการลงทุนของทั้งภาครัฐ และเอกชนที่เริ่มฟื้นตัวตามสภาวะการส่งออก ประกอบกับราคาสินค้าเกษตรขยับขึ้น ผู้บริโภคจึงมีรายได้ในการจับจ่ายใช้สอยในครัวเรือนมากขึ้น มีส่วนผลักดันให้เศรษฐกิจไทยตลอดปี 2560 ขยายตัวได้ประมาณ 3.5% ซึ่งจะสูงที่สุดในรอบ 5 ปี โดยตลาดรถยนต์คือหนึ่งในปัจจัยหลักสำคัญชี้วัดตัวเลขทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี รวมทั้งกลยุทธ์หลักสำคัญที่จะนำพามาสด้าก้าวสู่ความสำเร็จในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2560 นี้”

●   สำหรับกลยุทธ์หลักสำคัญที่จะทำให้มาสด้าบรรลุเป้าหมายในช่วงครึ่งหลังของปี 2560 ประกอบด้วย:

●   1.   เปิดตัวรถใหม่ 2 รุ่น  :  มาสด้าจะทำการเปิดตัวรถรุ่นใหม่เพิ่มอีก 2 รุ่น ภายในช่วงปลายปี 2560 ทั้งนี้ แผนงานนี้ เป็นแผนการดำเนินงานที่มาสด้าประกาศมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2560.

●   2.   การขยายเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการ  :  เริ่มตั้งหน้าบ้าน นั่นคือ การปรับปรุงโชว์รูมใหม่ที่ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ Mazda Corporate Identity ทั้งภายในและภายนอก ตั้งอยู่บนแนวคิดหลัก 3 ประการ คือ สะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์ สร้างคุณค่าทางอารมณ์ให้แก่รถยนต์มาสด้า และสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และลูกค้าตั้งแต่ก้าวแรก การเปลี่ยนแปลงที่ลูกค้าสัมผัสได้ รวมไปถึงการวางระบบบริการหลังการขายอย่างมีประสิทธิภาพกับ Mazda Activ Service

●   การสร้างความพึงพอใจสูงสุดด้วยความสะดวกสบาย (Convenience) ได้แก่ ศูนย์ซ่อมสี และตัวถังแบบครบวงจร ห้องรับรองลูกค้าที่อบอุ่น หรูหรา และช่องพิเศษในการให้บริการแบบเร่งด่วนไม่เกิน 2 ชั่วโมง

●   สัมผัสกับความรวดเร็ว (Fast) กับช่องซ่อมแบบเร่งด่วน จัดเตรียมสำรองอะไหล่ที่จำเป็น การอนุมัติงานซ่อมแบบเร่งด่วนกรณีเกิดอุบัติเหตุ การจัดส่งอะไหล่ที่รวดเร็ว และตลอด 24 ชั่วโมง

●   สร้างมาตรฐานและประสิทธิภาพเดียวกันทุกโชว์รูม (Standardize & Efficiency)

●   ราคาที่สบายกระเป๋า โปร่งใส (Price) ทั้งราคาอะไหล่แต่ละชิ้นต้องมีการประกาศให้ลูกค้ารับทราบ ราคาค่าแรงในการให้บริการ ราคาค่าบำรุงรักษาตามระยะทาง ราคาที่สามารถเปรียบเทียบกับตลาด

●   3.   การสื่อสารทางการตลาด  :  หลังจากการปรับภาพลักษณ์ใหม่ ยกระดับมาตรฐานใหม่ของการให้บริการ สิ่งที่มาสด้าเดินหน้าเต็มกำลังต่อจากนี้ คือ การสื่อสารทางการตลาด สร้างการรับรู้ เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในแบรนด์ พร้อมแสดงศักยภาพในด้านการบริการหลังการขาย นำเสนอการบริการที่ดีที่สุดเกินความคาดหมาย ทั้งด้านคุณภาพและประสิทธิภาพ

●   4.   เพิ่มการสื่อสาร  :  มาสด้าเตรียมเพิ่มช่องทางการสื่อสารกับลูกค้าให้มากขึ้นด้วยโปรแกรม Customer Care Menu ผ่านทางเว็บไซต์ mazda.co.th เพื่อเชื่อมต่อข้อมูลกับลูกค้าในทุกเรื่องราวที่เป็นประโยชน์สูงสุดต่อลูกค้า

●   5.   การจัดแคมเปญส่งเสริมการขาย  :  อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่มาสด้านำเสนอให้กับลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสในการเป็นเจ้าของรถได้ง่ายยิ่งขึ้น นั่นคือ การจัดแคมเปญโปรโมชั่น และในเดือนกรกฎาคม 2560 นี้ มาสด้าจัดแคมเปญพิเศษ Mazda SKYACTIV Celebration 100,000+.

●   6.   บริการตรวจสุขภาพรถ  :  พิเศษสำหรับลูกค้ามาสด้าทุกรุ่น สามารถเข้ารับบริการตรวจเช็ครถฟรี 20 รายการ และตรวจเช็คสุขภาพรถด้วยระบบคอมพิวเตอร์ Mazda Modular Diagnostic System (M-MDS) พร้อมรับส่วนลดค่าอะไหล่ ผ้าเบรก โช๊คอัพ ยางหุ้มเพลาขับ สายพานขับ สูงสุด 40% เปลี่ยนยางราคาเริ่มต้น 2,300 บาทต่อเส้น แถมฟรียางปัดน้ำฝน 1 คู่ แบตเตอรี่ราคาเริ่มต้น 1,700 บาท ระยะเวลานาน 3 เดือน เริ่มตั้งแต่วันนี้ – 30 กันยายน 2560 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โชว์รูมมาสด้า หรือมาสด้าสปีดไลน์ 02-030-5666

●   7.   การบอกเล่าผ่านประสบการณ์จริง  :  ปัจจุบันการตลาดแบบ Words of Mouth หรือการบอกต่อปากต่อปากโดยผู้มีประสบการณ์จริง มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในยุคของการสื่อสารในปัจจุบัน ถ่ายทอดเรื่องราว ความรู้สึก ผ่านการเขียนรีวิว หรือแชร์ประสบการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับตัวเอง เพราะโลกการสื่อสารของผู้คนในสังคมเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาโดยผ่านช่องทางการสื่อสารที่หลากหลาย ดังนั้นมาสด้าเตรียมจัดทำภาพยนตร์โฆษณาชุดพิเศษ ที่จะถ่ายทอดและแบ่งปันเรื่องราวความประทับใจ และประการณ์จริงจากลูกค้าที่ใช้งานจริง

●   8.   เดินสายเจาะกลุ่มลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ  :  การออกบูธจัดแสดงรถยนต์ในพื้นที่ต่างๆ หรือ Road Show เสมือนการเดินเข้าไปหาลูกค้าถึงหน้าบ้าน เจาะกลุ่มลูกค้าแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะมีความแตกต่างด้วยวิถีชีวิต รวมไปถึงการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อนำเสนอทางเลือกที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า มาสด้าจะเดินหน้าจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยจะมีรูปแบบของกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไปตามความเหมาะสม

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.mazda.co.th   ●