Qoros Model K-EV Concept สปอร์ตไฟฟ้าลูกครึ่งจีน-อิสราเอล

499views

Posted by : AREA 54

● เป็นที่รู้กันว่าบริษัทผู้ผลิตลูกครึ่งจีน-อิสราเอล โครอส มีสายสัมพันธ์อันดีกับหนึ่งในแบรนด์ซูเปอร์คาร์ชั้นนำของโลกอย่างโคนิกเซกก์ ผ่านการซัพพอร์ทเครื่องยนต์ไร้แคมชาร์ฟ หรือ FreeValve Technology ล่าสุดหลังจากที่ลุยตลาด SUV มาอย่างต่อเนื่อง ก็ถึงเวลาที่โครอสจะเผยแนวทางการพัฒนารถสปอร์ตพลังแรงในยุคต่อไปผ่านทางต้นแบบรุ่นใหม่ Qoros Model K-EV Concept โดยรหัส K หมายถึง Konzept ส่วน EV หมายถึง electric vehicle นั่นเอง

● Model K-EV Concept เปิดตัวเป็นทางการไปในงาน 2017 Shanghai Auto Show ตัวรถฉีกแนวการออกแบบในลักษณะเดิมๆ ของโครอสเองได้ดี ซึ่งที่ผ่านมานั้นต้องบอกว่ารถ SUV ของโครอสไม่ได้โดดเด่นไปกว่าคู่แข่งในกลุ่มเดียวกันเลย ไม่ว่าจะเป็น Qoros 3 City SUV, Qoros 5 SUV หรือแม้แต่รถต้นแบบ Qoros 2 SUV PHEV Concept ก็ตาม ทว่าในต้นแบบรุ่นใหม่นั้น โครอสสามารถนำเอกลักษณ์อย่างชุดไฟหน้าทรงตั้งใน Qoros 2 Concept มาใช้งานได้อย่างลงตัว ยังผลให้ต้นแบบสปอร์ตของโครอสสามารถฉีกแนวไปจากสปอร์ตรุ่นใหม่ๆ ที่มีหน้าตาคล้ายๆ กันออกไปได้

● ในต้นแบบรุ่นนี้ โครอสเน้นการลดน้ำหนักด้วยเทคโนโลยี CCC หรือ Clever Carbon Cabin ใช้คาร์บอนไฟเบอร์เป็นวัสดุหลักในผลิตชิ้นส่วนทั่วห้องโดยสาร รวมทั้งใช้โครงสร้างยอดนิยมแบบโมโนคอคตามสไตล์รถสปอร์ต สิ่งที่น่าสังเกตุคือ โครอสไม่ได้ออกแบบห้องโดยสารในแบบรถคอนเซปท์ที่ใช้งานจริงไม่ได้ในยุคปัจจุบัน แต่มันมีลักษณะของรถที่พร้อมจำหน่ายจริงอยู่มาก หมายความว่าหากตัดความหวือหวาภายนอกตัวรถออกไปบ้าง โครอสก็น่าจะมีความตั้งใจในการผลิตต้นแบบรุ่นนี้เป็นรุ่นจำหน่ายจริงมากพอสมควร

● หากมีคันจริง สิ่งที่หายไปน่าจะเป็นระบบการเปิดประตูแบบ 1+2 ที่ผสมผสานประตูหลายๆ รูปแบบเอาไว้ด้วยกันจนให้ความรู้สึกที่มากเกินไปสักนิด Model K-EV Concept ใช้การเปิดประตูฝั่งผู้ขับแบบปีกนก 2 ชิ้นยกแขวนพับ (คล้ายๆ ประตูของ Tesla Model X) ในขณะที่ประตูฝั่งผู้โดยสารด้านหน้าเป็นแบบปกติ ประตูสำหรับผู้โดยสารทางด้านหลังเปิดแบบสไลด์ในลักษณะรถ MPV ส่วนประตูบานท้ายเปิดแบบยกทั้งชิ้นแบบรถฟาสท์แบค

● สำหรับระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าล้วนนั้น โครอสระบุว่ามีงานวิศวกรรมบางส่วนขอยืมมาจากโคนิกเซกก์ อย่างไรก็ตามโคนิกเซกก์เองยังไม่มีรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ดังนั้นงานพัฒนาที่ว่าขอยืมเทคโนโลยีบางส่วนมานี้ อาจจะมีการย้อนกลับไปใช้งานในแบรนด์โคนิกเซกก์ในวันข้างหน้าก็เป็นได้

● เซ็ทอัพระบบขับเคลื่อนประกอบด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว แยกขับล้อทั้ง 4 แบบ all-wheel drive มีระบบ torque-vectoring ช่วยกระจายแรงบิด โครอสคาดว่ากำลังสูงสุดน่าจะอยู่แถวๆ 870 แรงม้าเป็นอย่างต่ำ เมื่อรวมกับเทคโนโลยีลดน้ำหนักแบบใหม่ อัตราเร่ง 0-96 กม./ชม. น่าจะต่ำกว่า 2.7 วินาที ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดเอาไว้ที่ 260 กม./ชม. เพื่อความเหมาะสม ที่สำคัญแบตเตอรี่แพคชุดนี้ (ไม่ระบุความจุ) สามารถวิ่งทำระยะทางได้ไม่ต่ำกว่า 480+ กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง

● หากมีการพัฒนาต่อเนื่องเป็นรุ่นจำหน่ายจริง คู่แข่งในคลาสเดียวกันนับว่าเป็นกลุ่มรถที่ไม่ธรรมดาครับ ไม่ว่าจะเป็น Lucid AIR, NIO EP9 หรือ Faraday Future FF 91 ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นรถไฟฟ้าพลังแรงที่เกิดขึ้นจากการสนับสนุนของกลุ่มทุนจากประเทศจีนทั้งสิ้น กล่าวได้ว่ายุคนี้การที่กลุ่มผู้ผลิตจากประเทศจีนจีนไล่กวาดซื้อองค์ความรู้จากบริษัทผู้ผลิตต่างชาตินั้น เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมจริงๆ ●