F1 Chinese GP 2017 Preview : สังเกตการณ์เมอร์เซเดสและเฟอร์รารี
Posted by : Fascinator.
● สนามที่ 2 ของการแข่งขันฟอร์มูล่าวันประจำฤดูกาล 2017 จะไปจัดแข่งกันที่ ช่างไห่ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ประเทศจีน สนามที่เราจะได้เห็นศักยภาพของรถแต่ละคันมากขึ้น
● ไชนีสกรังด์ปรีซ์นั้นถูกริเริ่มที่จะจัดแข่งมาตั้งแต่ช่วงต้นยุค 90 โดยรัฐบาลจีนในตอนแรกตั้งใจจะสร้างสนามแข่งในชูไห่ ซึ่งมันสร้างแล้วเสร็จในปี 1996 และถูกบรรจุลงปฏิทินการแข่งเอฟวันในปี 1999 แต่ว่าตัวสนามนั้นไม่สามารถเป็นไปตามมาตรฐานสากลของเอฟไอเอ ทำให้การแข่งเอฟวันครั้งแรกในประเทศจีนถูกล้มเลิกไป
● จีนยังคงไม่ละความพยายามและพวกเขาทำมันอีกครั้งในปี 2002 กับโครงการช่างไห่ อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โครงการนี้รัฐบาลจีนทุ่มงบก่อสร้างไปถึง 450 ล้าน เหรียญสหรัฐ นับว่าเป็นโครงการสร้างสนามแข่งรถที่แพงที่สุดในโลก ณ เวลานั้น พวกเขาจ้าง เฮอร์มัน ทิลเก้ สถาปนิกออกแบบสนามแข่งชื่อดัง มาเป็นคนรังสรรค์ช่างไห่อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต สร้างแล้วเสร็จในปี 2004
● ผังสนามช่างไห่จะเป็นรูปตัวอักษร “上” ในภาษาจีน ซึ่งมีความหมายว่า สูงกว่า หรือ เหนือกว่า เป็นสาส์นบ่งบอกจากรัฐบาลจีนว่านี่เป็นสนามแข่งที่จะต้องเหนือกว่าทุกแห่งในโลก ตลอดระยะทาง 5.451 กิโลเมตร นั้นมีโค้งที่ผสมผสานกันทั้งโค้งหักศอก ยูเทิร์น และโค้งความเร็วสูง ในช่วงโค้ง 1-2 นั้นจะเป็นโค้งแบบหุบเข้า 270 องศา ซึ่งมีความยากในการวาดไลน์และเดินคันเร่งอย่างมากทีเดียว ในขณะที่โค้งนี้และโค้ง 7-8 จะทดสอบแอโรไดนามิกส์ของตัวรถเป็นอย่างดี
● เนื่องจากสนามนี้มีโค้งทุกรูปแบบทั้งความเร็วต่ำและความเร็วสูง มันจึงเป็นสนามที่กินยางเอามากๆ เลยทีเดียว และผิวแทร็คนั้นถูกออกแบบมาสำหรับการแข่งขันโดยเฉพาะ ดังนั้นมันจึงมีการยึดเกาะและการทำลายยางที่สูงกว่าเมลเบิร์น
● แม้สนามนี้จะมีโค้งไหลต่อเนื่องกันเสียส่วนใหญ่ แต่มันมีทางตรงยาวที่สุดบนปฏิทินอยู่หลังโค้ง 13 เป็นต้นมาซึ่งมีความยาวถึง 1.170 กิโลเมตร มันจำเป็นจะต้องใช้กำลังเครื่องอย่างมากในส่วนนี้ อย่างไรก็ตามอัตราสิ้นเปลืองทั้งสนามจะไม่สูงมากเนื่องจากนักแข่งต้องเลี้ยงคันเร่งเสียส่วนใหญ่
ใครมีโอกาสชนะมากที่สุด?
● สนามที่แล้วเฟอร์รารีสร้างความประหลาดใจ ด้วยการขึ้นมาต่อกรกับเมอร์เซเดสได้อย่างสูสีแถมเก็บชัยชนะไปได้เสียด้วย แต่สนามนี้ภาพของศักยภาพรถทีมต่างๆ จะเห็นชัดเจนขึ้น เนื่องจากตัวสนามนั้นทดสอบตัวรถหลายอย่างมากกว่าที่ออสเตรเลีย เมอร์เซเดสและเฟอร์รารีอาจจะสูสีกันอย่างมากในสนามแห่งนี้ โดยที่ ลูอิส แฮมิลตัน ยังคงเป็นตัวเต็งที่จะชนะจากสถิติที่เจ้าตัวสะสมตลอดหลายปีที่ผ่านมาในการแข่งขันที่นี่
บันทึกความทรงจำ
● ไชนีสกรังด์ปรีซ์ 2005 เฟอร์นันโด อลองโซ คว้าแชมป์ปิดฤดูกาลและพาเรโนลต์คว้าแชมป์โลกเป็นครั้งแรกในการตั้งทีมโรงงานมาครับ ●
รายละเอียดสนามเพิ่มเติม
• สนาม : ช่างไห่อินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต
• ความยาวสนามต่อรอบ : 5.451 กิโลเมตร
• จำนวนรอบการแข่งขัน : 56 รอบ
• เปิดใช้งานครั้งแรก : ปี 2004
• ความเร็วสูงสุด : 340 กิโลเมตร/ชั่วโมง
• แรง G สูงสุด : 4.5
• การใช้คันเร่งเต็มที่ต่อรอบ : 56%
• อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง : ต่ำ (1.71 กิโลกรัม/รอบ)
• อัตราสิ้นเปลืองเบรก : ปานกลาง
• อัตราสิ้นเปลืองยาง : สูง
• ต้องการดาวน์ฟอร์ซ : ปานกลาง
• จุดแซงสำคัญ : โค้ง 14
• จุดสำคัญของสนาม : โค้ง 1-2-3, 11-12-13
• ยางที่สามารถใช้ได้ : ซุปเปอร์ซอฟต์, ซอฟต์, มีเดียม
• DRS Zone : โซนคู่ โซนแรกอยู่ที่ระยะ 450 เมตร หลังผ่านโค้ง 13 มีจุดตรวจจับเวลาอยู่บนยอดโค้ง 12
• โซนที่ 2 อยู่บนทางตรงหน้าพิทเลนระยะ 98 เมตร หลังผ่านโค้งสุดท้าย มีจุดตรวจจับเวลาอยู่ที่ 35 เมตร ก่อนเข้าโค้งสุดท้าย
• ผู้ชนะคนล่าสุด : นิโค รอสเบิร์ก – เมอร์เซเดส
• ผู้ที่ได้ตำแหน่งโพลคนล่าสุด : นิโค รอสเบิร์ก – เมอร์เซเดส
• ผู้ที่ชนะมากที่สุดในสนามนี้บนกริด : ลูอิส แฮมิลตัน (2008, 2011, 2014, 2015)
• สถิติสนาม : มิคาเอล ชูมัคเกอร์ – เฟอร์รารี – 1.32.238 – 2004
• เวลาเร็วที่สุดของสนาม : มิคาเอล ชูมัคเกอร์ – เฟอร์รารี – 1.32.238 – 2004 (เรซ)
ที่มา :
• espnf1.com.
• f1fanatic.co.uk.
• en.wikipedia.org.