2017 Easter Jeep Safari Concepts รถต้นแบบกลุ่มสุดท้ายก่อนเปิดตัวเจนเนอเรชั่นใหม่

1.7Kviews

Posted by : AREA 54

● เทศกาลสุดฮาร์ดคอร์ของชาวจี๊ป Easter Jeep Safari เวียนมาอีกครั้ง และเช่นเคย งานนี้จัดโดยจี๊ป, Moab Chamber of Commerce หอการค้าเมืองโมอับ และกลุ่มธุรกิจผู้ให้บริการในเมืองโมอับ ตัวงานจะมีขึ้นกว่า 1 สัปดาห์ในช่วงแถวๆ เดือนมีนาคม – เมษายน ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลอีสเตอร์ ไฮไลท์ของงานคือวัน Big Saturday หรือ Easter Saturday และค่อยๆ ปรับเปลี่ยนจากอีเวนท์เล็กๆ จนกลายมาเป็นเทศกาลใหญ่ประจำปีของชาวออฟ-โรดแบบฮาร์ดคอร์

● Easter Jeep Safari ปีนี้นับเป็นครั้งที่ 51 ความพิเศษอยู่ที่รถต้นแบบประจำปีนี้น่าจะกลายเป็นรถกลุ่มสุดท้ายที่ใช้พื้นฐานของ Jeep Wrangler รหัส JK รุ่นปัจจุบัน ก่อนที่รุ่นใหม่ Wrangler รหัส JL จะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้ โดยหากไม่มีอะไรผิดพลาด เราก็น่าจะได้เห็นรุ่นจำหน่ายจริง (หรือโปรโตไทป์) กันก่อนสิ้นปี 2017 นี้

1 : Jeep Switchback Concept

● Switchback ใช้พื้นฐานของ Jeep Wrangler Unlimited ตัวถัง 5 ประตูรุ่นปัจจุบัน กระจกข้างถูกถอดออกไป พร้อมเจาะช่องประตูเพื่อให้ได้ภาพลักษณ์แบบท่อการ์ดในลักษณะรถท่องเที่ยวซาฟารี การ์ดกระจกบังลมหน้าพร้อมถาดหลังคาดูแล้วชวนให้นึกถึงการ์ดทรงยอดนิยมของแลนด์ โรเวอร์ ช่วงล่างติดตั้งชุดยก 4 นิ้ว ช็อคฯ Fox ช่วงชักยาว เพลาหน้า-หลังใช้บริการ Dana 44 ล้อ 17 นิ้วสวมยาง BFGoodrich T/A KM2 ขนาด 37 นิ้ว ดอกแบบ Mud-Terrain ส่วนกันชนหน้า-หลัง ร๊อคการ์ดแนบข้างบอดี้จะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจาก MOPAR

2 : Jeep Safari Concept

● Safari เป็นรถที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานท่องซาฟารีในลักษณะเดียวกับ Switchback แต่การเลือกตกแต่งนั้นแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง Safari เป็นตัวแทนของการผสมผสานระหว่างของเล่นไฮเทคในยุคปัจจุบัน รวมเข้ากับความคลาสสิคแบบดั้งเดิมของจี๊ป ประตูรถออกแบบให้เปิดในลักษณะตู้กับข้าว ตัวบานประตูแบบโปร่งมีเพียงการ์ดคั่นกลาง และใช้ไวนิลแทนที่กระจกรอบคัน หลังคาติดตั้งคานอลูมิเนียมเป็นฐานปล่อยโดรน ห้องโดยสารติดตั้งเมาท์วาง iPad บนคอนโซลกลาง

● Safari ไม่เน้นลุยหนักเท่า Switchback มันถูกติดตั้งชุดยก 2 นิ้วเพื่อให้สามารถยัดล้อ 18 นิ้วลายพิเศษลงไปได้ ส่วนยางยังคงเป็น BFGoodrich T/A KM2 ดอกแบบ Mud-Terrain ทว่าลดขนาดลงมาเป็น 35 นิ้ว และเพลาหน้า-หลังก็ใช้บริการ Dana 44 เช่นกัน

● ทั้ง Safari และ Switchback ต่างก็ใช้เครื่องเดิมที่ไม่มีการโมดิฟายอะไรเพิ่มเติมครับ พละกำลังมาจากเครื่องยนต์ V6 สูบ ความจุ 3.6 ลิตร กำลังสูงสุด 385 แรงม้า (HP) จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 5 จังหวะ

3 : Jeep QuickSand Concept

● QuickSand เป็นหนึ่งในรถต้นแบบที่เร้าใจที่สุดของจี๊ป มันถูกออกแบบมาให้ใช้ความเร็วสูงบนพื้นทรายแบบรถ Dune buggy งานออกแบบได้รับแรงบันดาลใจมากจากรถ Hot rod ยุค 60s บอดี้ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ เพื่อคลุมโครงโรลการ์ด เสารถทั้งหมดถูกหั่นออกไป 4 นิ้ว ลดความสูงของหลังคาเพื่อให้ได้เอกลักษณ์ของรถ Hot rod อีกหนึ่งภาพลักษณ์เฉพาะสำคัญคือ ล้อสไตล์ Halibrand ดุมล้อ 3 ก้าน จับคู่ยาง BFGoodrich ดอก Mud-Terrain 2 ขนาด ด้านหน้า 35 นิ้ว ด้านหลัง 37 นิ้ว และที่ขาดไม่ได้คือ Moon tank ถังน้ำมันด้านหน้าที่ติดตั้งเอาไว้หลังวินช์

● จี๊ปเลือกวางเครื่องสำเร็จรูป (Crate Engine) ด้วย Hemi 392 (V8 สูบ ความจุ 6.4 ลิตร 485 แรงม้า) ของ Chrysler/MOPAR หมุนล้อด้วยเพลา 2 ขนาด ด้านหน้า Dana 44 ด้านหลัง Dana 60 ห้องโดยสารติดตั้งมาตรวัดทรงกลมแทนที่ระบบอินโฟฯ เพิ่มความเก๋าด้วยสวิทช์คันโยก ตกแต่งภาพลักษณ์ด้วยโทนสีดำแดง ทีเด็ดอยู่ที่คันเกียร์ก้านโค้งที่มาพร้อมกับหัวเกียร์อครีลิค

4 : Jeep Luminator Concept

● Luminator เป็นผลงานร่วมกันระหว่างจี๊ปและ Magneti Marelli ซึ่งทำการเพิ่มชุดไฟ LED รอบคัน จุดประสงค์ก็คือการเพิ่มแสงสว่างรอบๆ ตัวรถในขณะวิ่งแบบ Trail ในเวลากลางคืนโดยใช้พลังงานให้น้อยที่สุด และมีชุดระบบไฮเทคให้ใช้งานมากมาย อาทิ:

● หลังคามีแผงโซลาร์เซลล์ ช่วยชาร์จไฟไปสำรองเอาไว้ในแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน, หลังคาติดตั้งกล้อง 360 องศาสำหรับแสดงภาพให้ผู้โดยสารชมขณะวิ่งแบบออฟ-โรด, ไฟท้ายซ่อนพอร์ท USB สำหรับชาร์จอุปกรณ์พกพา, ฝาครอบยางอะไหล่ทางด้านท้าย เปิดฝาออกมาเป็นฐานปล่อยโดรน ในขณะที่กระจกข้างบานท้ายใช้เป็นมอนิเตอร์แสดงภาพที่ถ่ายด้วยกล้องจากโดรน, ชุดไฟตัดหมอกที่กันชนหน้าหมุนมุมตามองศาของพวงมาลัย, ฝากระโปรงหน้ามีกล้องอินฟราเรดช่วยตรวจจับสัตว์ที่วิ่งผ่านทางในความมืด ปิดท้ายด้วยเสาสัญญาณที่ควบรวมไฟ LED เอาไว้ตลอดเสา ช่วยให้การสื่อสารระหว่างรถที่วิ่งเป็นขบวนในยามมืดมิดมีความปลอดภัยยิ่งขึ้น

● การเพิ่มสมรรถนะอื่นๆ มีชุดยก 4 นิ้ว เพลาหน้า-หลัง Dana 60 ล้อ Mickey Thompson รุ่น Deegan 38 แบบ Beadlock มีแหวนรัดขอบ จับคู่ยาง Goodyear Wrangler ขนาด 37 นิ้ว

5 : Jeep CJ-Sixty Six

● ปิดท้ายด้วย CJ-Sixty Six รถรุ่นพิเศษที่ถูกจัดแสดงมาก่อนหน้านี้ที่ 2016 SEMA ตัวรถเป็นการตัด หั่น ต่อจิ๊ปรหัส CJ, TJ และ JK เข้าด้วยกัน เริ่มด้วยการหั่นบอดี้ของรถรุ่นคลาสสิค Jeep CJ รุ่นปี 1966 (ซึ่งเป็นที่มาของชื่อ Sixty Six) แล้วนำมันไปวางบนแชสซีส์ของ Jeep Wrangler TJ ซึ่งมีฐานล้อยาวกว่า และตกแต่งรอบคันด้วยอุปกรณ์พื้นฐานอย่างชุดไฟ ฝากระโปรงหน้า กระจังหน้า และกันชนของ Jeep Wrangler JK รุ่นปัจจุบัน

● ช่วงล่างยกสูง 2 นิ้ว ล้อ Beadlock สวมยาง BFGoodrich ดอกแบบ Mud-Terrarin ขนาด 35 นิ้วของ โป่งล้อด้านหน้าออกแบบเป็น 2 ชั้นแยกชิ้น เบาะทรงสปอร์ตในห้องโดยสารมีการข้ามสายพันธุ์ไปขอยืมเพื่อนร่วมค่ายอย่าง Dodge Viper มาใช้งาน

● ด้านพละกำลัง จิ๊ปเลือกวางเครื่องยนต์ไครสเลอร์ตระกูล HEMI แบบเบนซิน V8 สูบ ความจุ 5.7 ลิตร จับคู่เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ กำลังสูงสุด 383 แรงม้า (HP) พร้อมใช้งานเพลายอดนิยม Dana 44 ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ●