2017 Chevrolet FNR-X Concept ต้นแบบครอสโอเวอร์ PHEV

684views

Posted by : AREA 54

● ย้อนกลับไปในช่วงปี 2015 เชฟโรเลตได้จัดแสดงต้นแบบในชื่อ FNR Concept ซึ่งเป็นอักษรย่อที่นำมาจากสโลแกน “Find New Roads” ของเชฟโรเลต โดยในครั้งนั้นรถต้นแบบ FNR รุ่นแรกยังห่างไกลกับคำว่าโปรดัคชั่นคาร์มาก เนื่องจากมันเป็นสปอร์ตในจิตนาการที่เชฟโรเลตอ้างอิงถึงแนวคิด ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ เป็นหลัก ทว่าต้นแบบรุ่นใหม่ Chevrolet FNR-X Concept ที่จัดแสดงในงาน 2017 Shanghai Auto Show นั้น มีความเป็นไปได้ที่เชฟโรเลตจะพัฒนาต่อยอดเป็นรุ่นจำหน่ายจริงครับ

● FNR-X Concept อยู่ในรูปโฉมของรถครอสโอเวอร์ ซึ่งมีแนวโน้มที่จะทำตลาดได้ดีกว่ารถคลาสอื่นๆ หากมีคันจริง ตัวรถฉีกแนวการออกแบบในสไตล์ดั้งเดิมของเชฟโรเลต โดยหันไปใช้รูปทรงที่เน้นความคมชัดของเหลี่ยมสันเช่นเดียวกับ Toyota CH-R หรือ Lexus NX จุดเด่นคือเชฟโรเลตยังสามารถเก็บงานออกแบบส่วนหน้ารถที่ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์เอาไว้ได้ครบถ้วน ทั้งนี้รหัส “X” ที่ต่อท้าย FNR นั้น หมายถึงคำว่าครอสโอเวอร์ตามสมัยนิยมนั่นเอง

● งานออกแบบเป็นผลงานของ PATAC : Pan Asia Technical Automotive Center ศูนย์ R&D ที่ GM และ SAIC ประกาศการลงทุนร่วมกันตั้งแต่ช่วงปี 2010 แผนงานหลักๆ คือการพัฒนาแนวทางในการทำธุรกิ, พัฒนารถยนต์รุ่นใหม่ทั้งต้นแบบและรุ่นจำหน่ายจริง, พัฒนาพลังงานทางเลือกรูปแบบใหม่ และตั้งโรงงานผลิตเครื่องยนต์สำหรับป้อนรถในเครือของทั้ง 2 บริษัท

● ในเบื้องต้น FNR-X Concept จะใช้ระบบขับเคลื่อนแบบ plug-in hybrid และยังไม่มี ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ แต่มีแนวคิดว่าจะใช้ระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติ (หรือระบบช่วยเหลือผู้ขับแบบในยุคปัจจุบัน) ใช้ชื่อว่าชุดระบบ ADAS : Advanced Driver Assist System มีจอ OLED ขนาดเล็ก-ใหญ่หลายจุดทั่วแผงแดชบอร์ด สื่อความล้ำยุคด้วยรูปทรงโพลีกอน และมีจอ head-up display ระบบ AR ขนาดยักษ์แสดงผลบนกระจกบังลมหน้า สามารถฉายภาพมุมกว้าง 270 องศาทางด้านท้ายรถ กินพิ้นที่มุมมองทั้งด้านหลังและด้านข้างของตัวรถทั้ง 2 ฝั่ง ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

● ส่วนช่วงล่างแบบปรับระดับอัตโนมัติ ตามแนวคิดความสูงของตัวรถต้องสามารถสร้างความแตกต่างได้ชัดเจนระหว่างการโหลดเพื่อให้รองรับการขับแบบสปอร์ตบนทางเรียบ และมีความสูงพร้อมการให้ตัวของช่วงล่างที่มากพอสำหรับการใช้งานออฟ-โรดในแบบลุยพอประมาณ

● เชฟโรเลตยังไม่ได้เผยรายละเอียดทางเทคนิคมากนัก นั่นทำให้มีความก้ำกึ่งอยู่มากในการที่จะฟันธงลงไปว่า GM หรือ SAIC จะเปิดไฟเขียวให้เชฟโรเลตทำการผลิตคันจริงหรือไม่ แต่หากดูจากงานออกแบบโดยรวมทั้งภายนอกและภายใน การตัดทอนสัดส่วนของความเป็นรถต้นแบบออกไปสัก 20-30% ก็เพียงพอที่จะให้ภาพในจินตนาการของรถรุ่นจำหน่ายจริงมีความชัดเจนอยู่พอสมควร

● คันจริงจะมีหรือไม่ เชฟโรเลตยังไม่ได้ระบุอะไรชัดเจนในเวลานี้… แต่หากจะให้เดา ผู้แปลคิดว่ามีความเป็นไปได้มากครับ ●