March 10, 2017
Motortrivia Team (10162 articles)

2018 Volvo XC60 เผยโฉมเจนเนอเรชั่น 2 ที่เจนีวาฯ 2017

Posted by : AREA 54

 

●   เดินตามรอย SUV ขนาดกลางรุ่นพี่อย่าง Volvo XC90 สำหรับงานออกแบบที่เนียนตาไปทุกมุมมองของ All-New Volvo XC60 รถ SUV ขนาดคอมแพคท์รุ่นใหม่ล่าสุดเจนเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งเปิดตัวเป็นทางการในงาน 2017 Geneva Motor Show โดยในรุ่นก่อนหน้านั้น XC60 คือรถที่ครองตำแหน่งรถ SUV ในกลุ่มพรีเมียมที่ขายดีที่สุดในยุโรป

●   นอกเหนือจากภาพลักษณ์ที่เรียบหรูในแบบ XC90 ย่อส่วนแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเพิ่มระบบความปลอดภัยเจนเนอเรชั่นใหม่อย่างระบบ Steer Assist ซึ่งเป็นระบบช่วยขับกึ่งอัตโนมัติ ควบคุมพวงมาลัยในบางจังหวะหากตรวจพบความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุ

●   แนวคิดอันชาญฉลาดของวอลโว่คือ ระบบ Steer Assist จะถูกใช้งานในลักษณะ “ตัวช่วย” เพิ่มความสามารถให้กับระบบช่วยขับ (หรือระบบความปลอดภัย City Safety system) เดิมที่มีอยู่แล้ว เช่น ระบบ Blind Spot Information System เตือนมุมอับสายตา เมื่อถูกติดตั้งระบบ Steer Assist เข้าไป จะช่วยลดความเสี่ยงในการเฉี่ยวชนขณะเปลี่ยนเลนได้ดียิ่งขึ้น

●   หรือระบบใหม่ล่าสุด Oncoming Lane Mitigation ซึ่งเป็นระบบช่วยเตือนเมื่ออาจเกิดการปะทะด้านหน้า นอกจากจะมีการส่งสัญญาณเตือนและสั่งงานระบบเบรคเพื่อลดแรงปะทะแล้ว เมื่อเพิ่มความสามารถของ Steer Assist จะมีการช่วยหักหลบให้โดยอัตโนมัติ… ผู้แปลไม่ได้หมายความมันจะปลอดภัย 100% แต่ระบบนี้จะช่วยลดความเสียหายจากการปะทะทางด้านหน้าได้มากขึ้น ในกรณีที่ผู้ขับไม่สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้ทันท่วงที

●   สำหรับชุดระบบช่วยขับกึ่งอัตโนมัติ (semi-autonomous system) ที่วอลโว่ใช้ชื่อทางการค้าว่า Pilot Assist จะถูกแยกติดตั้งเป็นออปชั่นหากต้องการ ปัจจุบัน XC60 จะถูกนับเป็นรถของวอลโว่รุ่นที่ 3 ที่จะได้ใช้งานระบบนี้ ต่อจาก Volvo XC90 และ Volvo S90 ในเบื้องต้นวอลโว่ไม่ได้ระบุเอาไว้ว่ามีการปรับปรุงอะไรหรือไม่? ตัวระบบเดิมนั้นอนุญาตให้ผู้ขับละมือจากพวงมาลัยได้บนเส้นทางที่ไม่ซับซ้อนมากนัก (เช่นมอเตอร์เวย์) ทำงานโดยอาศัยการคำนวณเส้นทางของระบบนำทาง ใช้ความเร็วได้ประมาณ 130 กม./ชม. เมื่อระบบตรวจความเป็นไปได้ในการใช้งานและเข้าสู่โหมดเตรียมพร้อม ไฟบนแพดเดิลชิฟท์ทั้ง 2 ฝั่งจะกระพริบเตือนเป็นอันดับแรก

●   หากต้องการใช้งาน ผู้ขับเพียงแค่ดึงแพดเดิลชิฟท์ทั้ง 2 ฝั่งพร้อมกัน เมื่อไฟหยุดกระพริบและสว่างตลอดเวลา หมายถึงระบบอัตโนมัติจะเริ่มทำงาน ผู้ขับสามารถละมือจากพวงมาลัยได้ทันที แต่หากระบบอัตโนมัติพบว่าไม่สามารถระบุเส้นทางต่อไปได้ ระบบจะแสดงผลด้วยการนับถอยหลัง 60 วินาทีบนมาตรวัด หากผู้ขับไม่มีการตอบสนองในการเข้าควบคุมรถแทนที่ระบบอัตโนมัติ ระบบจะสั่งงานให้ตัวรถจอดเข้าข้างทางในจุดที่ปลอดภัยทันที

●   ด้านชุดระบบขับเคลื่อน แน่นอนว่าไฮไลท์คือรุ่นเบนซินปลั๊ก-อิน ไฮบริด T8 Twin Engine กำลังสูงสุด 407 แรงม้า (HP) ซึ่งจะทำตลาดในฐานะรุ่นท๊อปเช่นเดียวกับ XC90 ต่อด้วยเครื่องยนต์ T6 อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จ + ซูเปอร์ชาร์จ กำลังสูงสุด 320 แรงม้า ปิดท้ายกลุ่มเบนซินด้วยเครื่องยนต์ T5 กำลังสูงสุด 254 แรงม้า

●   ฝั่งรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล มีรุ่น D4 เทอร์โบชาร์จ กำลังสูงสุด 190 แรงม้า และเครื่องยนต์ดีเซล 5 สูบ D5 กำลังสูงสุด 235 แรงม้า ที่มาพร้อมเทคโนโลยีล่าสุด “PowerPulse” ใช้คอมเพรสเซอร์ไฟฟ้าส่งอากาศไปสำรองเอาไว้ในแท๊งค์เก็บอากาศขนาดเล็ก ความจุ 2 ลิตร เมื่อผู้ขับกดคันเร่ง (จากรอบต่ำๆ) วาล์วในถังสำรองอากาศจะเปิดขึ้นเพื่อจ่ายอากาศ ช่วยให้เทอร์โบชาร์จทำงานได้รวดเร็วขึ้น และขจัดอาการรอรอบหรือ Turbo Lag นั่นเอง

●   หลังการจัดแสดงในเจนีวาฯ วอลโว่จะเริ่มผลิต XC60 ใหม่ในช่วงกลางเดือนเมษายน 2017 เป็นต้นไป ราคาจำหน่ายยังไม่เปิดเผยครับ   ●


2018 Volvo XC60