2017 Infiniti Q60 Project Black S Concept สปอร์ตไฮบริด F1

576views

Posted by : AREA 54

● อินฟินิติเผยโฉมรถสปอร์ตต้นแบบพันธุ์ดุ Infiniti Q60 Project Black S Concept ในงาน 2017 Geneva Motor Show ผลงานพัฒนาร่วมกันระหว่างอินฟินิติ และ Renault Formula 1 Team ใช้เทคโนโลยีขับเคลื่อนที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถ F1 มีระบบยิงพลังชั่วคราวในบางจังหวะด้วย ERS

● ผู้แปลแอบขึ้นย่อหน้าแรกให้ดูตื่นเต้นไปอย่างนั้นเองครับ… อันที่จริงแนวคิดในการเพิ่มพลังในบางจังหวะให้กับรถถนนนั้นมีมานานแล้ว ยิ่งในยุคนี้ระบบไฮบริดที่อาศัยความสามารถของมอเตอร์ไฟฟ้าเป็นกำลังสนับสนุน ยิ่งง่ายต่อการกันกำลังบางส่วนเอาไว้ใช้ในยามต้องการ

● จากัวร์เคยรังสรรค์ปุ่ม Push to Pass ให้รถต้นแบบ Jaguar C-X16 Concept ในปี 2011 เพื่อเพิ่มพลังให้เครื่อง V6 ชั่วขณะด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า หรือแม้แต่ในรถขนาดเล็กอย่าง Honda CR-Z ก็ยังมีปุ่ม Plus Sport ให้กดเพิ่มพลังเล่นบนพวงมาลัยมาแล้ว ในขณะที่ซูเปอร์คาร์อย่าง McLaren P1 ครบเครื่องด้วย 2 ปุ่มมหัศจรรย์ที่ถอดออกมาจากเทคโนโลยี F1 ยุคปัจจุบัน ได้แก่ ปุ่ม PAS สำหรับยิง KERS และปุ่ม DRS สำหรับปรับองศาปีกหลังเพื่อลดค่าดาวน์ฟอร์ซ (ลดการยึดเกาะ) ในการเพิ่มความเร็ว

● ดังนั้นแนวคิดของชุดระบบที่จะใช้งานในต้นแบบ Q60 Project Black S Concept ก็ไม่ได้แตกต่างไปจากชุดระบบของแบรนด์อื่นๆ มากนักครับ นั่นคือ 1. สำรองพลัง และ 2. ปลดปล่อยกำลังออกมาให้ใช้งานชั่วขณะหนึ่งยามต้องการ ทว่าชุดระบบในอินฟินิตินั้นจะได้เปรียบกว่าแบรนด์อื่นๆ ข้างต้นนิดหน่อย เนื่องจากมีการถอดเทคโนโลยีบางส่วนมาจากรถ F1 ในยุคปัจจุบัน ซึ่งมีอุปกรณ์พื้นฐานแตกต่างจากระบบ KERS หรือ Kinetic Energy Recovery System ในยุคอดีต

● ในรถ F1 ยุคปัจจุบันนั้น ชุดระบบเพิ่มกำลังให้กับเครื่องยนต์ V6 คือ “ERS” หรือ Energy Recovery System ซึ่งมี 3 ส่วนย่อยประกอบกันคือ MGU : Motor Generator Unit พร้อมแบตเตอรี่แพค, MGU-K : Motor Generator Unit-Kinetic และ MGU-H : Motor Generator Unit-Heat พื้นฐานการทำงานก็คือ MGU จะทำหน้าที่สำรองพลังงานไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ โดยมี MGU-K ช่วยเปลี่ยนพลังงานในขณะเบรคไปเป็นพลังงานไฟฟ้า (ระบบชาร์จไฟกลับขณะเบรค) ในขณะที่ MGU-H จะทำการเปลี่ยนพลังงานความร้อนจากไอเสียไปเป็นพลังงานไฟฟ้า โดยชุดระบบนี้เริ่มใช้งานใน F1 ตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา

● ชุดระบบของ Q60 Project Black S Concept ประกอบด้วยเครื่องยนต์ V6 สูบ 3.0 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศแบบทวิน-เทอร์โบชาร์จ เฉพาะชุดระบบส่วนนี้ผลิตกำลังได้ 405 แรงม้า (PS) แรงบิด 48.4 กก.-ม. เริ่มที่รอบต่ำเพียง 1,600 รอบ/นาที ซึ่งชุดระบบเครื่องยนต์พื้นฐานนี้ จะได้รับการสนับสนุนกำลังเพิ่มเติมจากเทคโนโลยี MGU นั่นเอง โดยอาศัยความสามารถของแบตเตอรี่แบบชาร์จ/ดิสชาร์จ (เก็บ/ปล่อยพลังงาน) ความเร็วสูงเพื่อเพิ่มกำลังสูงสุดในบางจังหวะ

● อย่างไรก็ตาม อินฟินิติระบุว่าชุดระบบเพิ่มกำลังสำหรับรถถนนนี้ ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาร่วมกันกับวิศวกรของเรโนลท์ F1 เป้าหมายคือกำลังสูงสุดประมาณ 500 แรงม้า (HP) ผู้แปลเข้าใจว่าตัวเลขนี้หมายถึง “บวกกำลังเพิ่ม” เข้าไปแล้ว เนื่องจากในรถ F1 นั้นชุดระบบ ERS จะเพิ่มกำลังให้ชั่วคราวราว 160 แรงม้า ดังนั้นในเวอร์ชั่นถนน เครื่องยนต์ 405 PS + กำลังอีกราว 90 – 100 แรงม้าก็น่าจะสมเหตุผลดี

● สำหรับตัวรถนั้น ในเวอร์ชั่นสำหรับติดตั้งระบบสาธิต อินฟินิติพัฒนาขึ้นบนพื้นฐานของ Infiniti Q50 รุ่นท๊อป Red Sport 400 ที่มีจำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน เสริมด้วยแอร์โรพาร์ทชุดใหม่ทั้งหมดที่เน้นประสิทธิภาพในด้านอากาศพลศาสตร์แบบหวังผลในการใช้งานจริง ช่องรับอากาศด้านหน้า, สปอยเลอร์หน้า-หลัง และดิฟฟิวเซอร์ออกแบบให้มีการจัดระเบียบอากาศคล้ายๆ กับรถ F1 เสริมความสวยงามด้วยล้ออลูมิเนียมขนาด 21 นิ้วพร้อมยางหน้ากว้าง คาลิเปอร์เบรคสีสด ส่วนดิฟฟิวเซอร์ถูกแทรกท่อคู่ไทเทเนียมทรงกลมเอาไว้ระหว่างกลาง

● อินฟินิติยังไม่ระบุกรอบเวลาในการพัฒนาชุดระบบขับเคลื่อนนี้มาใช้งานจริงครับ ส่วนชุดแต่งรอบๆ คันนั้นอาจจะมีการพิจารณาพัฒนาเป็นแพคเกจติดตั้งสำหรับรุ่นย่อยของ Q60 ในชื่อเกรด “Black S” ในอนาคต โดยในปัจจุบันนั้น Q60 แบ่งการจำหน่ายเป็น 10 รุ่นย่อย มี 3 กลุ่มใหญ่ๆ ที่ประกอบด้วยเกรด Premium, Sport และ Red Sport ●