Formula One News : อัพเดทความเคลื่อนไหว 23-03-2017
Posted by : Fascinator.
ฮอนด้าเปลี่ยนเลย์เอาท์เครื่อง อาจเลียนแบบเมอร์เซเดส
● ทิม กอส ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของแม็คลาเรน ออกมาเปิดเผย เครื่องยนต์ฮอนด้าปีนี้จะมีการปรับรูปแบบเลย์เอาท์ใหม่ โดยอาจจะใช้เลย์เอาท์แยกเทอร์ไบน์สไตล์เมอร์เซเดส
● ใน 2 ฤดูกาลที่ผ่านมา ฮอนด้ามีปัญหากับคอนเซ็ป “ขนาด 0” ของแม็คลาเรน ซึ่งจะต้องออกแบบเครื่องยนต์ให้มีขนาดแพ็คเกจเล็กที่สุดสำหรับยัดใส่ท้ายรถอันเพรียวบาง ในปีนี้พวกเขาจึงได้ตกลงกันใหม่โดยโยกคอนเซ็ปออกจาก “ขนาด 0” ทางทีมยังคงไม่ลงรายละเอียดต่อคอนเซ็ปตัวใหม่นี้ แต่สื่อเชื่อว่า ยูสุเกะ ฮาเซกาว่า บอสโปรเจคฮอนด้า ได้ไฟเขียวให้ใช้คอนเซ็ปแยกเทอร์ไบน์สไตล์เมอร์เซเดสแล้ว
● เช่นเดียวกับที่เมอร์เซเดสทำ คอมเพรสเซอร์จะอยู่ฝั่งหนึ่งของตัวเครื่องในขณะที่เทอร์โบจะถูกย้ายไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ทั้งสองถูกเชื่อมต่อกันด้วยเพลาซึ่งถูกติดตั้งอยู่ใน วี-แบงค์ ในขณะที่อินเตอร์คูลเลอร์จะอยู่ในซอกระหว่างชาสซีส์กับเครื่องยนต์ ซึ่งมันจะช่วยลดจุดศูนย์ถ่วงของรถลง
● นอกจากนั้นสื่อยังเชื่อว่าฮอนด้าได้ปรับการออกแบบหัวฉีดเป็นแบบมัลติเจ็ท ซึ่งเป็นคอนเซ็ปที่คล้ายกับที่เฟอร์รารีใช้อยู่ในขณะนี้
● การเปลี่ยนแปลงคอนเซ็ปเครื่องยนต์ขนานใหญ่ของฮอนด้าต้องขอบคุณการยกเลิกระบบการพัฒนาเครื่องยนต์โดยใช้โทเค่น เพราะนั่นหมายถึงฮอนด้าสามารถปรับเปลี่ยนโมดิฟายเครื่องยนต์ได้อย่างไม่จำกัดเพื่อให้ไล่อีก 3 ค่าย ที่เหลือให้ทัน ●
เรโนลต์ประกาศเครื่องยนต์ใหม่แตกต่างจากเดิม 95 เปอร์เซ็นต์
● เป็นอีกค่ายนอกจากฮอนด้าที่มีการปรับเปลี่ยนเครื่องยนต์ขนานใหญ่ เรโนลต์นั้นออกมาประกาศว่า เครื่องยนต์ตัวใหม่จะแตกต่างจากเครื่องยนต์ปีที่แล้วถึง 95 เปอร์เซ็นต์ เหตุจากการที่พวกเขาเชื่อว่าเครื่องยนต์ปีที่แล้วได้พัฒนามาจนถึงทางตันแล้ว
● ก่อนฤดูกาลใหม่จะเริ่ม เรโนลต์ได้ทำการปรับคอนเซ็ปเครื่องยนต์ใหม่ซึ่งมีตั้งแต่การปรับปรุงห้องเผาไหม้ใหม่ไปจนถึง ERS เจนที่ 2 เรมี่ ทัฟฟิน หัวหน้าฝ่ายเครื่องยนต์ของเรโนลต์ ยอมรับว่า การปรับเปลี่ยนครั้งนี้มีความเสี่ยงเป็นอย่างมาก แต่เรโนลต์ไม่มีทางเลือกอื่นเนื่องจากคอนเซ็ปเดิมนั้นได้เดินมาจนถึงทางตันแล้ว
● เรมี่ ทัฟฟิน : “เครื่องยนต์ของเราตัวนี้จะเป็นพื้นฐานที่เราจะใช้ต่อไปอีก 3 ปี มันเสี่ยงที่จะมีการปรับเปลี่ยนพาวเวอร์ยูนิต เพราะเมื่อคุณเปลี่ยนบางสิ่ง มันจะส่งผลกระทบต่อสิ่งอื่นๆ ฉะนั้นคุณต้องระวัง ทุกคนพูดว่าปีที่แล้วเรามีผลงานในสนามที่ดีและมีความเสถียรสูง แต่เราเลือกที่จะเปลี่ยนเพราะเราต้องการก้าวไปอีกขั้น เราได้ตัดสินใจสิ่งนี้มาตั้งแต่ 15 เดือน ที่แล้ว จากสิ่งที่ผมเห็นในปีที่ผ่านมา เรามาถึงทางตันของคอนเซ็ป ดังนั้นเราจึงต้องก้าวต่อไปอีกขั้น”
● นอกจากนั้นทัฟฟินยังกล่าวอีกว่า เครื่องยนต์ตัวนี้ของเรโนลต์ที่ตั้งเป้าให้ทำความเร็วดีขึ้น 0.3 วินาที/รอบ จากปีที่ผ่านมา ดูจะประสบความสำเร็จถึงเป้าหมายที่วางไว้ และดูเหมือนว่ามันจะทำได้ดีกว่านั้นเสียด้วยจากผลการทดสอบที่ผ่านมา ●
เฟอร์รารีเล็งนวัตกรรมลูกสูบใหม่
● เฟอร์รารีเล็งออกแบบลูกสูบใหม่โดยใช้เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ พวกเขาคาดหวังว่ามันจะสร้างก้าวกระโดดในด้านสมรรถนะเครื่องยนต์
● แมทเทีย บินอตโต้ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของเฟอร์รารี หมายมั่นปั้นมือจะยกระดับเครื่องยนต์เฟอร์รารีขึ้นไปอีกขั้น พวกเขาโฟกัสไปที่ห้องเผาไหม้ซึ่งต้องขอบคุณหัวฉีดลำเจ็ทแบบปั่นป่วนที่เฟอร์รารีพัฒนามาหลายปี มีกระแสข่าวออกมาว่า แม็กเนติ มาเรลลี ได้ออกแบบหัวฉีดไมโครใหม่ ซึ่งจะช่วยให้เปลวไฟถูกยิงออกมาอย่างเพอร์เฟคสำหรับห้องจุดระเบิด มันจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกำลังและลดการใช้น้ำมันในห้องเผาไหม้ลง
● การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ห้องเผาไหม้ตกอยู่ภายใต้สภาวะความกดดันสูงระดับ 400 บาร์ นอกจากนั้นอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ยังสูงขึ้นด้วยซึ่งนั่นอาจส่งผลต่อเสถียรภาพ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เฟอร์รารีจำต้องปรับเปลี่ยนดีไซน์ใหม่โดยการใช้ลูกสูบอัลลอยแทนที่อะลูมิเนียม อะลูมิเนียมนั้นเบากว่าเหล็กอัลลอยก็จริง แต่มันก็ทนต่อการเสียรูปน้อยกว่า ฉะนั้นเฟอร์รารีจึงต้องชั่งน้ำหนักการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ให้ดี เพราะการเพิ่มน้ำหนักในชิ้นส่วนที่มีการขยับอย่างลูกสูบนั้นเป็นเรื่องใหญ่
● เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ที่เฟอร์รารีใช้จะเข้ามามีบทบาทในส่วนนี้ การใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ จะช่วยให้วิศวกรออกแบบรูปร่างลูกสูบได้ซับซ้อนยิ่งขึ้น และไปยังพื้นที่กระบวนการหล่อและกัดโลหะไม่สามารถทำให้ได้ นอกจากนั้นการพิมพ์ 3 มิติ ยังช่วยให้กระบวนการผลิตรวดเร็วและขยายความเป็นไปได้มากยิ่งขึ้น วิศวกรไม่จำเป็นจะต้องหล่อชิ้นงานเสร็จสมบูรณ์อีกต่อไป แต่มาเก็บงานด้วยการใช้เครื่องพิมพ์ 3 มิติ
● คาดว่าเฟอร์รารีต้องการที่จะดึงเครื่องยนต์ตัวใหม่นี้ลงสนามให้เร็วที่สุด และมันอาจจะเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นมันตั้งแต่สนามแรกที่เมลเบิร์น ●
ฟอร์ด บีเอ็มดับบลิว กล่าวยังไม่คิดหวนคืนเอฟวัน
● ฟอร์ดและบีเอ็มดับบลิว 2 ค่าย ผู้ผลิตซึ่งเคยโลดแล่นอยู่ในวงการเอฟวันยังคงปฏิเสธการหวนคืนสู่วงการในเร็ววันนี้
● หลังจากที่ลิเบอร์ตี้มีเดียเข้าเทคโอเวอร์เอฟวัน หลายคนก็คาดหวังว่าทางบริษัทมีเดียยักษ์ใหญ่แห่งอเมริกันจะช่วยปรับภาพลักษณ์เอฟวันพร้อมทั้งดึงความสนใจจากบรรดาค่ายผู้ผลิตให้เข้ามามีส่วนในวงการมากขึ้น อย่างไรก็ตามฟอร์ด ค่ายที่เคยอยู่คู่กับวงการเอฟวันมานาน บอกปฏิเสธถึงการหวนคืนวงการ โดยให้เหตุผลว่าค่าใช้จ่ายในวงการตอนนี้มหาศาลเกินกว่าที่ฟอร์ดจะรับไหว
● เดฟ เพริแซค ผู้อำนวยการฝ่ายดำเนินการของฟอร์ด : “ฟอร์มูล่าวันนั้นมีค่าใช้จ่ายสูงมาก เราจึงเลือกลงแข่งซีรีย์อื่นที่ยังคงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการแข่งขันสู่รถบ้าน เราใช้สนามแข่งเป็นห้องทดสอบเพื่อปรับปรุงเทคโนโลยีและถ่ายทอดกลับสู่รถบ้าน มันเป็นไปด้วยดีทีเดียว ไม่เพียงแต่เฉพาะ GT แต่กับผลิตภัณฑ์อื่นก็ด้วย”
● ทางด้านบีเอ็มดับบลิวก็บอกปัดการหวนคืนวงการเอฟวันเช่นกัน โดยทางค่ายใบพัดฟ้าขาวให้เหตุผลว่าพวกเขาตั้งใจเอาทรัพยากรส่วนของเอฟวันไปพัฒนาอย่างอื่นแทน
● โฆษกของบีเอ็มดับบลิว : “ในตอนที่เราถอนตัวออกจากเอฟวันหลังปี 2009 มันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการระยะยาวของบริษัท เราต้องการนำเอาทรัพยากรที่ใช้ไปกับเอฟวันไปพัฒนาในส่วนของระบบส่งกำลังทางเลือกแทน เราได้แสดงเจตจำนงความเป็นผู้นำทางด้านรถระดับพรีเมียมที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า เรากำลังจับตาดูความเป็นไปในวงการมอเตอร์สปอร์ต แต่ ณ ตอนนี้เรายังไม่มีแผนการหวนคืนสู่เอฟวัน”
● ปัจจุบันบีเอ็มดับบลิวนั้นมีส่วนในการแข่งขัน DTM และ GT และพวกเขาเตรียมกลับคืนสู่สังเวียนเลอมังส์ในปี 2018 นอกจากนั้นพวกเขายังเป็นพาร์ทเนอร์กับทีมแอนเดรตติใน ฟอร์มูล่าอี และกำลังประเมินเตรียมส่งทีมโรงงานลงแข่งในฤดูกาล 2018-19 ●
ที่มา :
• espnf1.com.
• motorsport.com.