February 26, 2017
Motortrivia Team (10170 articles)

Jenson Button หนึ่งในยอดนักขับ F1 และการแข่งที่ดีที่สุดของเขา


Posted by : Fascinator.

 

●   เจนสัน บัตตัน แชมป์โลกปี 2009 ได้เข้าสู่วงการฟอร์มูล่าวันครั้งแรกในปี 2000 เขาโลดแล่นอยู่ในวงการมาเป็นเวลากว่า 17 ปี และได้ตัดสินใจรีไทร์จากการแข่งขันไป เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลที่แล้ว เพื่อเป็นการรำลึกถึง บัตตัน นักแข่งที่เรียกได้ว่าฝีมือดีที่สุดคนหนึ่งในยุค เราลองมาดู 10 อันดับการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมที่สุดของเขากัน

เยอรมันจีพี 2000 (อันดับ 4)

●   ฤดูกาลแรกของ บัตตัน ในฟอร์มูล่าวันนั้นน่าประทับใจจน แพททริก เฮด ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของวิลเลียมส์ กล่าวว่า เขาต้องเป็นดาวรุ่งในอนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย ไฮไลต์ของเขาในปีแรกอยู่ที่สนามฮ็อคเคนไฮม์ ซึ่งยังคงใช้ผังสนามแบบเก่าอยู่ มันเป็นการแข่งขันที่วุ่นวายที่มีทั้งฝนและเหตุการณ์ลูกจ้างเมอร์เซเดสวิ่งประท้วงบนแทร็ค บัตตัน สตาร์ทเป็นคันสุดท้ายจากการที่รถของเขาสตอลในรอบฟอร์เมชั่น เพียงแค่นั้นความหวังที่จะเก็บแต้มของเขาแทบมลายหายไปสิ้นแล้ว (ในเวลานั้นอันดับที่มีคะแนนมีเพียง 6 อันดับแรก)

●   อย่างไรก็ตามหลังจากที่มีเซฟตี้คาร์ออกมา 2 ครั้ง บัตตัน ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 10 ได้ ในขณะที่เหลืออยู่อีกเพียง 10 รอบ สภาพอากาศที่แปรปรวนทำให้เหตุการณ์ต่างๆ ดูแย่ แต่ทีมงานวิลเลียมส์กะจังหวะเรียก บัตตัน เข้าพิทเปลี่ยนยางได้ดีพอ และเช่นทุกครั้งที่เราเห็นการขับลุยฝนของเขายอดเยี่ยมเสมอมา บัตตัน ซิ่งลุยฝนไล่จากอันดับ 6 จนกระทั่งขึ้นมาจ่อท้าย เดวิด คูลธาร์ด เข้าเส้นชัยแบบชวดโพเดียมไปเพียงปลายจมูก

ซานมารีโน่จีพี 2004 (อันดับ 2)

●   อะไรๆ ไม่เข้าที่เข้าทางอยู่หลายปีจนกระทั่งในที่สุด ปี 2004 ก็เป็นปีที่ บัตตัน เฉิดฉาย เขาเปิดฤดูกาลด้วยการคว้าแต้มได้ทันทีในอันดับ 6 ที่ออสเตรเลีย ก่อนจะขึ้นโพเดียมครั้งแรกในสนามถัดมาที่มาเลเซีย และโพลแรกก็มาถึงในสนามนี้ บัตตัน คว้าโพลไปแบบหักอกเจ้าบ้านเฟอร์รารีและ มิคาเอล ชูมัคเกอร์ แถมยังทำเวลาเร็วกว่าเพื่อนร่วมทีม ทาคุมะ ซาโตะ ถึง 1.2 วินาที วันแข่งขันเขาออกสตาร์ทได้อย่างยอดเยี่ยมและดึงระยะห่างออกมาได้ในช่วงแรก แต่เขาก็ทานความร้อนแรงของ ชูมัคเกอร์ และเฟอร์รารีไม่อยู่จึงต้องเสียอันดับผู้นำไป อย่างไรก็ตามทั้งเขาและ ชูมัคเกอร์ ต่างเร็วกว่ารถคันอื่นๆ อยู่รอบละเกือบวินาที นั่นทำให้ บัตตัน คว้าอันดับ 2 มาได้ซึ่งเป็นอันดับที่ดีที่สุดของเขาในเวลานั้น


ฮังกาเรียนจีพี 2006 (อันดับ 1)

●   ชัยชนะแรกของ บัตตัน นั้นได้ท่ามกลางสภาวะอากาศแปรปรวนอีกครั้ง นักแข่งอังกฤษสตาร์ทจากกริด 14 เนื่องจากการเปลี่ยนเครื่องยนต์และค่อยๆ ไต่อันดับขึ้นมา เขาแซง มิคาเอล ชูมัคเกอร์ ได้ในจังหวะสำคัญก่อนที่เซฟตี้คาร์จะออกมาจากการชนกันของ คิมี ไรค์โคเนน และ วิทันโทนิโอ ลิอุสซี่ หลังรีสตาร์ท เฟอร์นันโด อลองโซ ฉีกขึ้นนำแต่ก็ค่อยๆ ถูก บัตตัน ขยับเข้าใกล้ทีละน้อย ทั้งคู่เข้าพิทครั้งสุดท้ายก่อนจะออกมาตัดสินกันบนแทร็ค เพียงแต่ว่าการตัดสินนั้นไม่ได้เกิดขึ้น

●   ทีมพิท อลองโซ ขันน็อตล้อให้นักแข่งสแปนิชได้ไม่ดีทำให้เขาหมุนหลุดจากแทร็คไปในโค้งที่ 3 หลังออกจากพิท ส่งผลให้ บัตตัน ขึ้นนำและคว้าชัยชนะแรก ชัยชนะที่เขาต้องรอมานานถึง 113 สนาม


โมนาโคจีพี 2009 (อันดับ 1)

●   บัตตัน มาที่โมนาโคด้วยชัยชนะ 4 ครั้งในกระเป๋าจากสนามเปิดฤดูกาล 5 สนาม เขาขึ้นนำได้ตั้งแต่โค้งแรกและนั่นการันตีชัยชนะครั้งที่ 5 ในฤดูกาลนี้ของเขาได้อย่างมั่นคง แต่ความยอดเยี่ยมของเขาอยู่ที่การบริหารการใช้ยางในสนามนั้น เซบาสเตียน เวทเทล ออกอาการยางหมดอย่างหนักหลังจากที่วิ่งไปเพียงไม่กี่รอบ ส่วนเพื่อนร่วมทีมของเขา รูเบน บาร์ริเคลโล่ ยางหมดสภาพเช่นกัน แต่ บัตตัน ไม่เป็นเช่นนั้น เขาบริหารยางได้อย่างยอดเยี่ยมและทิ้งห่าง บาร์ริเคลโล่ ถึง 16 วินาที ก่อนเข้าพิทแรก และความยอดเยี่ยมของเขาในจุดนี้เองที่ช่วยการันตีชัยชนะในสนามนี้ สิ่งเดียวที่เขาทำผิดพลาดในวันนั้นคือ เขาจอดรถผิดที่ทำให้ต้องวิ่งผ่านหน้าพิทไปยังโพเดียมเพื่อรับรางวัล


บราซิเลียนจีพี 2009 (อันดับ 5)

●   สนามรองสุดท้ายประจำฤดูกาล 2009 บัตตัน มาที่นี่ด้วยเป้าหมายปิดจ็อบแชมป์โลก เขาต้องการคะแนนมากกว่า รูเบน บาร์ริเคลโล่ เพื่อนร่วมทีมของเขาเพียง 4 คะแนน เท่านั้น อย่างไรก็ตามเหมือนฟ้าต้องการทดสอบคุณค่าความเป็นแชมป์โลกของเขา เขาควอลิฟายได้กริด 14 จากสภาพฝนกระหน่ำในขณะที่ บาร์ริเคลโล่ คว้าโพลไปได้

●   บัตตัน สตาร์ทได้ดีในวันแข่งโดยไม่เอาตัวเองเข้าไปมีเอี่ยวในอุบัติเหตุรอบแรกระหว่าง ยาร์โน ทรูลลี่, เอเดรียน ซูทิล และ เฟอร์นันโด อลองโซ เขาขยับขึ้นมาอันดับ 9 หลังรีสตาร์ทและแสดงการไล่ล่าแซงที่หลายคนโจมตีเขาว่าไม่เอาถ่าน เขาแบทเทิลกับ คามูอิ โคบายาชิ อย่างสนุกสนาน และไล่ขึ้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเข้าเส้นชัยในอันดับ 5 ในขณะที่ บาร์ริเคลโล่ เจอปัญหายางแตกในช่วงท้าย ส่งผลให้ บัตตัน ปิดจ็อบคว้าแชมป์โลกปี 2009 ได้สมปรารถนาที่รอคอยมานาน


ออสเตรเลียนจีพี 2010 (อันดับ 1)

●   การขับที่ยอดเยี่ยมของ บัตตัน นั้นโผล่มาอีกครั้งในสภาพสนามกึ่งเปียกกึ่งแห้ง ในช่วงสตาร์ทเขาสะกิดกับ เฟอร์นันโด อลองโซ และ มิคาเอล ชูมัคเกอร์ เล็กน้อยซึ่งทำให้เขาหล่นจากอันดับ 4 ไปอยู่อันดับ 7 แต่ความสามารถในการอ่านสภาพพื้นแทร็คของเขานั้นยอดเยี่ยมเสมอมา บัตตัน เข้าพิทไปเปลี่ยนเป็นยางสลิคในขณะที่พื้นแทร็คนั้นยังไม่แห้งสนิท หลายคนคิดว่าเขาทำผิดพลาดอีกแล้วหลังจากที่เขาเปลี่ยนยางและหลุดแทร็คออกไป แต่หลังจากนั้น 3 รอบ บัตตัน กดเวลาต่อรอบเร็วที่สุดและขึ้นมาเป็นอันดับ 2 เลยทีเดียว หลังจากที่รถคันอื่นต้องเข้าพิทไปเปลี่ยนเป็นยางสลิคบ้าง และเมื่อผู้นำอย่าง เซบาสเตียน เวทเทล เบรกมีปัญหาจนต้องออกจากการแข่งขัน บัตตัน ก็ขึ้นนำและนำแบบม้วนเดียวจบ ทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง โรเบิร์ต คุบิคซ่า ถึงกว่า 12 วินาที

แคนาเดียนจีพี 2011 (อันดับ 1)

●   เรียกได้ว่าเป็นสนามไฮไลต์ของอาชีพ บัตตัน เลยก็ว่าได้ มันเป็นสนามที่วุ่นวายที่สุดที่ฝนถล่มและการแข่งขันเริ่มต้นภายใต้เซฟตี้คาร์ บัตตัน มีการกระแทกกับ ลูอิส แฮมิลตัน เพื่อนร่วมทีม จากการที่เขามองไม่เห็น แฮมิลตัน ขึ้นมาตีคู่เนื่องจากละอองน้ำ เขาเข้าพิทเปลี่ยนเป็นยางกึ่งเปียกกึ่งแห้งในรอบถัดมา แต่ว่าเซฟตี้คาร์ออกมาขัดจังหวะเขาอีกครั้ง

●   หลังเซฟตี้คาร์กลับเข้าพิท บัตตัน ไล่ทำความเร็วขึ้นมา แต่ก็ถูกลงโทษขับผ่านพิทจากการใช้ความเร็วในพิทเกินกำหนด เขาออกมาอยู่ท้ายแถวและฝนก็ถล่มอีกครั้ง เรียกเซฟตี้คาร์และธงแดงออกมาหยุดการแข่งขันชั่วคราว

●   เวลาผ่านไป 2 ชั่วโมง การแข่งขันเริ่มต้นอีกครั้ง คราวนี้ บัตตัน ไปสะกิดกับ เฟอร์นันโด อลองโซ นักแข่งสแปนิชออกจากการแข่งขันทันที ส่วน บัตตัน ยางหน้าแตกต้องเข้าพิทไปเปลี่ยนยาง และจากการปะทะกันเซฟตี้คาร์ต้องออกมาเคลียร์แทร็คอีกครั้ง

●   บัตตัน ตกมาอยู่อันดับสุดท้ายและไล่ขึ้นมาจนถึงอันดับ 14 ก่อนที่เซฟตี้คาร์ครั้งสุดท้ายจะออกมา และเมื่อเซฟตี้คาร์กลับเข้าพิท มันเหลือการแข่งขันอีกเพียง 10 รอบ เท่านั้น แต่ด้วยฝีมือและศักยภาพรถของแม็คลาเรน บัตตัน ไล่แซงขึ้นมาถึงอันดับ 4 ในขณะเหลืออีก 3 รอบ ข้างหน้าเขาตอนนี้มีเพียง เซบาสเตียน เวทเทล, มิคาเอล ชูมัคเกอร์ และ มาร์ค เว็บเบอร์ ซึ่งล้วนแล้วแต่ฝีมือชั้นอ๋อง อย่างไรก็ตาม เว็บเบอร์ ผิดพลาดจากการไล่แซง ชูมัคเกอร์ บัตตัน ขยับขึ้นมาได้ 1 อันดับ และไล่แซง ชูมัคเกอร์ ที่ทางตรงยาวสุดท้ายของสนามขึ้นมาอีก 1 อันดับ เหลือเพียงรอบการแข่งขันรอบเดียวกับ เวทเทล ที่อยู่ข้างหน้าเขา สิ่งที่ เวทเทล ต้องทำก็คือประคองอันดับเท่านั้น ชัยชนะก็จะไม่หนีจากเขาไปไหน แต่ด้วยดวงของ บัตตัน ที่คนจะชนะเสียอย่างอะไรก็หยุดไม่อยู่ เวทเทล สร้างความผิดพลาดในบริเวณแทร็คยังไม่แห้งสนิทและหลุดแทร็คออกไปเล็กน้อย บัตตัน ฉวยโอกาสเสียบขึ้นมานำทันที และนั่นเป็นการคว้าชัยชนะที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาชีพของ บัตตัน


ฮังกาเรียนจีพี 2011 (อันดับ 1)

●   เดาได้ไม่ยากใช่ไหมครับกับชัยชนะอีกครั้งของเขาในสนามนี้ มันมาจากสภาพการแข่งขันที่มีฝนเป็นตัวแปรอีกครั้ง บัตตัน แย่งสลับอันดับกับ ลูอิส แฮมิลตัน เพื่อนร่วมทีมอย่างสนุกสนานตลอดการแข่งขัน ในช่วงท้ายการแข่งขันฝนทำท่าจะลงเม็ดหนาขึ้น แฮมิลตัน เข้าพิทไปเปลี่ยนยางแต่ บัตตัน เลือกที่จะลุยด้วยยางแห้งต่อ ซึ่งนั่นเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของเขา และมันทำให้เขาคว้าชัยชนะครั้งที่ 2 ในฤดูกาลนั้นมาได้

เจแปนนีสจีพี 2011 (อันดับ 1)

●   มันเป็นรายการที่ บัตตัน บอกว่าชื่นชอบมากที่สุด เขาสตาร์ทจากกริด 2 และเกือบจะเอาอันดับผู้นำไปได้ตั้งแต่โค้งแรก แต่ เซบาสเตียน เวทเทล ป้องกันตำแหน่งอย่างระห่ำ ทำให้ บัตตัน หลุดแทร็คออกไปเล็กน้อยและตกไปอยู่หลังเพื่อนร่วมทีม ลูอิส แฮมิลตัน อย่างไรก็ตาม แฮมิลตัน วิ่งนำ บัตตัน อยู่ได้ไม่นานก็ต้องเข้าพิทเนื่องจากยางแตก บัตตัน ไล่ตาม เวทเทล อยู่ไม่ห่างและชิงอันดับผู้นำมาได้จากการเข้าพิทครั้งแรก

●   บัตตัน รักษาระยะห่าง 2 วินาที จาก เวทเทล ไว้ตลอดเวลาจนกระทั่งเข้าพิทครั้งสุดท้าย เฟอร์นันโด อลองโซ สลับขึ้นมาเป็นผู้ไล่ล่าแทน เวทเทล บ้าง อลองโซ ขยับเข้ามาใกล้ได้ถึง 1.2 วินาที แต่ บัตตัน ตอบรับด้วยการทำเวลาต่อรอบเร็วที่สุดทิ้งห่างออกไปอีกครั้งและคว้าชัยชนะไปได้อย่างหมดจด

ออสเตรเลียนจีพี 2012 (อันดับ 1)

●   ไม่เหมือนกับสนามอื่นๆ ที่เขาคว้าชัยชนะมาได้ท่ามกลางสภาพเหตุการณ์ที่ไม่ปกติ นี่เป็นการคว้าชัยชนะแบบถล่มทลายหลังจากที่เขาไม่ได้ทำแบบนี้มาตั้งแต่โมนาโค 2009 ลูอิส แฮมิลตัน คว้าโพลและแม็คลาเรนล็อกกริดสตาร์ท 1-2 บัตตัน ชิงเข้าโค้งแรกไปได้ก่อนซึ่งนับว่าเป็นช่วงเวลาสำคัญจริงๆ ของเขา บัตตัน นำทิ้งห่าง แฮมิลตัน ออกไป และถึงจะมีเซฟตี้คาร์ออกมาขัดจังหวะลดระยะห่างระหว่างตัวเขากับผู้ตาม นั่นไม่ทำให้สมาธิและความเร็วของเขาในวันนี้ลดลงไปแม้แต่น้อย เขายังคงคุมเชิงอย่างสบายอารมณ์อยู่หัวแถวและเข้าเส้นชัยไปเป็นคันแรกพร้อมกับเวลาต่อรอบเร็วที่สุด เหนือกว่าคู่แข่งทุกอย่างในวันแข่งขันวันนั้น   ●


ที่มา : espnf1.com.