January 14, 2017
Motortrivia Team (10167 articles)

Toyota Corolla Altis ESPORT Option รุ่นย่อยใหม่ เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐาน


เรื่อง : นาธัส แสงสุริยะ • ภาพ : โตโยต้า ประเทศไทย

 

●   ช่วงปลายปีที่ผ่านมา โตโยต้าเปิดตัวรุ่นปรับโฉมของ อัลติสโฉมปัจจุบัน เจนเนอเรชั่นที่ 11 ปรับรุ่นย่อยใหม่ มี 7 รุ่นเท่าเดิม ยกเลิกรุ่นรองท๊อป 1.8G และแทนที่ด้วยรุ่น ESPORT Option เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐานครบครันยิ่งขึ้น และยังคงอารมณ์การขับแบบสปอร์ตด้วยระบบกันสะเทือนที่ปรับมาเฉพาะรุ่น ราคา 9.79 แสนบาท ลดลงจากรุ่นรองท๊อปเดิม 1.8G ที่ตั้งไว้ 9.99 แสนบาท และยังมีรุ่น ESPORT ทำตลาดควบคู่กันไปในราคา 9.39 แสนบาท ทีมงาน มอเตอร์ทริเวีย ทดลองขับรุ่น ESPORT Option จากศูนย์ทดสอบรถยนต์โตโยต้า บางนา กม. 3 มุ่งหน้าหัวหิน ระยะทางประมาณ 190 กิโลเมตร

●   อัลติสรุ่นปรับโฉมพัฒนาภายใต้ 4 แนวทางหลัก คือ การออกแบบที่ทันสมัย, สมรรถนะการขับที่ดี, ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัย และความสะดวกสบายที่ครบครัน ตัวรถพัฒนาในด้าน Safety ความปลอดภัย, Quality ปรับปรุงคุณภาพโดยเน้นการพัฒนาจากเสียงของผู้ใช้, Durability มีความทนทาน ใช้งานได้นาน และ Reliability เชื่อถือได้

●   ภายนอกรุ่นมาตรฐานเปลี่ยนกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ รับกับไฟหน้าทรงเพรียวแบบ Bi-Beam LED Project ปรับระดับอัตโนมัติ และโคมไฟท้าย LED ดีไซน์ใหม่ ส่วนรุ่น ESPORT และ ESPORT Option เสริมชุดแต่งรอบคันทั้งสปอยเลอร์หน้าหลัง และสเกิร์ตข้าง รวมทั้งสปอยเลอร์พร้อมไฟเบรกบนฝากระโปรงท้าย ปลายท่อไอเสียโครเมียม แผงปิดใต้ท้องรถพร้อมครีบรีดอากาศ และล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว พร้อมยาง 215/45/17 รูปลักษณ์โดยรวมดูโฉบเฉี่ยวและทันสมัยกว่าเดิม โดยเฉพาะรุ่น ESPORT ที่ตกแต่งด้วยแอโรพาร์ทรอบคัน ทำให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น

●   ภายในปรับรายละเอียดแผงคอนโซลใหม่หลายจุด พร้อมช่องแอร์ด้านข้างทรงกลม เพิ่มตะเข็บด้ายขาว เพิ่มวัสดุที่ให้สัมผัสอ่อนนุ่ม ปรับคอนโซลกลางใหม่ทั้งในส่วนของเครื่องเสียงและสวิตช์ควบคุมระบบปรับอากาศ และเปลี่ยนชุดมาตรวัดใหม่ ทำให้ห้องโดยสารโดยรวมดูสดใสและลงตัวยิ่งขึ้น รุ่น ESPORT Option ติดตั้งเบาะคู่หน้าแบบสปอร์ต ฝั่งผู้ขับปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง พร้อมที่ดันหลังไฟฟ้า พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง มีสวิตช์ควบคุมเครื่องเสียงและจอ MID แสดงข้อมูลการขับ และมี Paddle Shift

●   ช่วงล่างของอัลติสใหม่มีการปรับปรุงเพิ่มความแข็งแรงทนทาน เพิ่มความนุ่มนวล เพิ่มสมรรถนะในการควบคุม และลดการโยนตัวด้วยการปรับช๊อคฯ หน้าและหลัง ส่วนรุ่น ESPORT มีการปรับเพิ่มเติมในส่วนของสปริงและช๊อคฯ เพื่อให้รับกับหน้ายางที่กว้างขึ้นและแก้มยางที่เตี้ยลง ภายในของทุกรุ่นเพิ่มวัสดุซับเสียงที่แผงคอนโซลหน้า แผงประตู และพรมปูพื้น ที่ความเร็ว 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ลดเสียงจากเดิม 63.43 เหลือ 61.53 เดซิเบล ยกระดับความปลอดภัยด้วยแอร์แบ็ก 7 ใบทุกรุ่นย่อย ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย ส่วนระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน ไม่มีในรุ่นเริ่มต้น 1.6J เกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ

●   เครื่องยนต์ไม่เปลี่ยนแปลง รุ่น 1.8 และ ESPORT ใช้เครื่องยนต์รหัส 2ZR-FBE เบนซิน 4 สูบ DOCH 16 วาล์ว Dual VVT-i ความจุ 1,798 ซีซี กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 18.05 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบต่อนาที รองรับ E85 ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT 7 จังหวะ ซึ่งโตโยต้าเรียกว่า Super CVT-i ล็อคจังหวะการเปลี่ยนเกียร์ได้ 7 จังหวะ ในรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 1,800 ซีซี เพิ่ม Sport Mode พร้อมสวิตช์เปิด-ปิด เพิ่มการตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์ให้ฉับไวขึ้น

●   ช่วงเช้าอุ่นเครื่องเบาๆ ด้วยการขับในลานทดสอบ เปรียบเทียบระหว่างรุ่น 1.8V และรุ่น ESPORT มีการขับแบบสลาลมด้วยความเร็วต่ำ ประมาณ 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง วางไพลอนไว้ค่อนข้างแคบ ต้องหมุนพวงมาลัยอย่างรวดเร็ว เพื่อทดสอบการตอบสนองของพวงมาลัยที่ความเร็วต่ำ ต่อเนื่องด้วยการทดสอบ ABS ด้วยการขับบนลานปูกระเบื้องฉีดน้ำเพิ่มความลื่น เมื่อเบรกเต็มแรงแล้ว ABS ทำงาน มีแรงต้านแผ่วๆ ที่แป้นเบรก เบรกแล้วหมุนพวงมาลัยหลบไพลอนที่วางขวางอยู่ ต่อเนื่องด้วยการกดคันเร่งสุดเพื่อทดสอบระบบควบคุมการทรงตัว VSC และ TRC เมื่อล้อหมุนฟรี เบรกจะทำการเบรกล้อแต่ละล้ออย่างอิสระ เพื่อควบคุมให้รถไปในทิศทางที่ผู้ขับควบคุมพวงมาลัย

●   จากนั้นกลับรถตั้งหลักเพื่อสลาลอมด้วยความเร็วประมาณ 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ผมขับแค่ประมาณ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพราะรู้สึกว่าเป็นความเร็วที่สบายๆ และยังมีสมาธิเพื่อจับความรู้สึกขณะขับ จากนั้นกลับรถอีกครั้ง ทดสอบอัตราเร่งช่วงต้นซึ่งทำได้ดีกว่าที่คาดไว้ เกียร์อัตโนมัติ CVT มีการเปลี่ยนเกียร์ใกล้เคียงกับเกียร์อัตโนมัติแบบฟันเฟือง และมีการเปลี่ยนเกียร์ที่นุ่มนวลต่อเนื่อง เร่งถึงจุดที่กำหนดแล้วกลับรถอีกครั้ง เพื่อทดสอบช่วงล่างในขณะขับผ่านคอสะพาน และสภาพถนนขรุขระแบบต่างๆ จากนั้นสลับรถไปขับรุ่น ESPORT แบบต่อเนื่อง

การสลับรถให้ขับแบบต่อเนื่องภายใต้สิ่งแวดล้อมเดียวกัน ทำให้เห็นความแตกต่างได้ชัดเจน รุ่น ESPORT มีช่วงล่างที่หนึบและกระชับกว่าแบบสัมผัสได้ พวงมาลัยตอบสนองเร็วกว่านิดๆ น่าจะเป็นเพราะรุ่น ESPORT ใช้ยาง 215/45/17 แก้มยางเตี้ยกว่ารุ่น 1.8V


●   การสลับรถให้ขับแบบต่อเนื่องภายใต้สิ่งแวดล้อมเดียวกัน ทำให้เห็นความแตกต่างได้ชัดเจน เมื่อเปลี่ยนมาขับรุ่น ESPORT ก็พยายามใช้ความเร็วเท่าเดิม ขับเหมือนเดิมในทุกสถานี พบว่ารุ่น ESPORT มีช่วงล่างที่หนึบและกระชับกว่าแบบสัมผัสได้ พวงมาลัยตอบสนองเร็วกว่านิดๆ น่าจะเป็นเพราะรุ่น ESPORT ใช้ยาง 215/45/17 แก้มยางเตี้ยกว่ารุ่น 1.8V ที่ใช้ยางขนาด 205/55/16 ส่วนในช่วงที่ขับผ่านผิวถนนขรุขระก็ไม่ได้รู้สึกว่าสะเทือนจนรับไม่ได้ ขับใช้งานได้เหมือนรถยนต์ทั่วไป โดยรวมรุ่น 1.8V ก็หนึบพอตัว ไม่ถึงกับยวบยาบ และมีความนุ่มนวลทั้งจากการเซตช่วงล่างและแก้มยางที่สูง ส่วนรุ่น ESPORT ก็เพิ่มความหนึบขึ้นมาอีกนิด แต่ก็ไม่ถึงกับแข็งกระด้าง

●   ขับในสนามครบทุกคนแล้วก็ตั้งขบวนเดินทางไปหัวหิน โดยระหว่างทางจะแวะทานอาหารที่ ร้านเคียงน้ำ อยู่แถวแม่กลอง ทีมงานโตโยต้าจัดให้ขับรถรุ่น ESPORT Option ระยะทางช่วงแรกประมาณ 100 กิโลเมตร รับหน้าที่เป็นผู้โดยสาร ใช้เวลานานกว่าปกติเพราะการจราจรติดขัดจากการซ้อมรับมือเหตุการฉุกเฉิน แม้จะเร่งๆ จอดๆ แต่สังเกตมาตรวัดอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยแล้วก็ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เหลืออีก 50 กิโลเมตรจะถึงร้านอาหาร การจราจรเริ่มคลี่คลาย ใช้ความเร็วสูงได้ต่อเนื่อง ถึงร้านอาหารกลางวันด้วยอัตราสิ้นเปลือง 14.5 กิโลเมตรต่อลิตร

●   อิ่มแล้วสลับมาเป็นผู้ขับ กับระยะทางที่เหลือประมาณ 90 กิโลเมตร ทางโล่งใช้ความเร็วได้ต่อเนื่อง เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีเกินคาด ช่วงออกตัวและความเร็วต่ำเร่งได้ทันใจ ส่วนการเร่งแซงที่ความเร็วปานกลางขึ้นไปก็นับว่าทำได้ดี กดคันเร่งคิ๊กดาวน์เกียร์เปลี่ยนลงต่ำได้อย่างฉับไว รอบตวัดขึ้นและไต่สู่รอบสูงอย่างไหลลื่นไม่ต้องรีดเค้น เสียงเครื่องยนต์ไม่ดังเข้ามาในห้องโดยสารมากนัก

ในตำแหน่งเกียร์ D ลองดึง Paddle Shift ถ้าความเร็วไม่ถึงก็จะเปลี่ยนขึ้นเกียร์สูงไม่ได้ และกดคันเร่งคิ๊กดาวน์ไม่ได้ แม้ไม่ได้โยกคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง M ถ้าจะยกเลิกต้องดึง Paddle Shift ฝั่งขวาค้างไว้ประมาณ 3 วินาที โหมด Sport ใช้รอบสูงกว่าประมาณเกือบ 500 รอบต่อนาที ทำให้เร่งได้ทันใจขึ้น


●   ในตำแหน่งเกียร์ D ลองดึง Paddle Shift ไฟบอกตำแหน่งเกียร์จะมีตัวเลขเกียร์ต่อท้าย ถ้าความเร็วไม่ถึงก็จะเปลี่ยนขึ้นเกียร์สูงไม่ได้ และกดคันเร่งคิ๊กดาวน์ไม่ได้ แม้ไม่ได้โยกคันเกียร์ไปที่ตำแหน่ง M ถ้าจะยกเลิกต้องดึง Paddle Shift ฝั่งขวาค้างไว้ประมาณ 3 วินาที จะกลับเข้าสู่ตำแหน่ง D ปกติ ลองกดสวิตช์เปิดโหมด Sport การตอบสนองของเครื่องยนต์และเกียร์จะฉับไวขึ้นอีกนิด สังเกตว่าที่ความเร็วเท่ากัน ในโหมด Sport จะใช้รอบสูงกว่าประมาณเกือบ 500 รอบต่อนาที ทำให้เร่งได้ทันใจขึ้น

●   ระบบเบรกแบบดิสก์ 4 ล้อ พร้อมตัวช่วยครบๆ ทั้ง ABS, EBD และ BA ผลงานของระบบเบรกอยู่ในเกณฑ์ดี แรงเบรกสัมพันธ์กับน้ำหนักเท้าที่กดแป้นเบรก ทำให้เบรกได้อย่างนุ่มนวล และสร้างแรงเบรกได้หนักหน่วงทันใจ ดึงลดความเร็วได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีอาการเบรกไหล พวงมาลัยเพาเวอร์ไฟฟ้าเบาแรงที่ความเร็วต่ำ แต่ที่ความเร็วสูงรู้สึกวูบวาบไปนิด ถึงจุดหมายปลายทางด้วยอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 14.5 กิโลเมตรต่อลิตร รถที่ทดลองขับเติมแก๊สโซฮอล์ 91 E10

●   โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส ESPORT Option ปรับโฉมภายนอกและภายในเพิ่มความทันสมัย เติมความสปอร์ตด้วยชุดแต่งเฉพาะรุ่นรอบคัน ปรับช่วงล่างเพื่อความมั่นใจเมื่อขับแบบสปอร์ต เพิ่มเติมอุปกรณ์มาตรฐานให้ครบครันยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการรูปลักษณ์และการขับแบบสปอร์ต ที่มาพร้อมความสะดวกสบายสูงสุดในการใช้งาน   ●

ขอบคุณ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด อำนวยความสะดวกตลอดการเดินทาง

Specification: Toyota Corolla Altis ESPORT Option

–   แบบตัวถัง ซีดาน 4 ประตู
–   ยาว x กว้าง x สูง 4,620 x 1,775 x 1,460 มิลลิเมตร
–   ฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร
–   ความกว้างล้อหน้า/หลัง 1,520/1,520 มิลลิเมตร
–   ระยะต่ำสุดจากพื้น 130 มิลลิเมตร
–   น้ำหนัก 1,290 กิโลกรัม
–   แบบเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-i
–   ความจุ 1,798 ซีซี
–   กระบอกสูบ x ช่วงชัก 80.5 x 88.3 มิลลิเมตร
–   อัตราส่วนการอัด 10.0:1
–   กำลังสูงสุด 141 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที
–   แรงบิดสูงสุด 18.05 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบต่อนาที
–   ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ Super CVT-i 7 จังหวะ
–   ระบบขับเคลื่อน ล้อหน้า
–   ระบบบังคับเลี้ยว แร็กแอนด์พิเนียนพร้อมเพาเวอร์ไฟฟ้า
–   ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระ แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง
–   ระบบกันสะเทือนหลัง ทอร์ชั่นบีม พร้อมเหล็กกันโคลง
–   ระบบเบรกหน้า/หลัง ดิสก์พร้อมครีบระบายความร้อน/ดิสก์ พร้อม ABS, EBD และ BA
–   ผู้จำหน่าย บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด
–   โทรศัพท์ Toyota Call Center 0-2386-2000 / 1800-238-444
–   เวบไซต์ www.toyota.co.th/model/altis.


2016 Toyota Corolla Altis ESPORT Option