Mazda เตรียมเพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ให้เครื่องเบนซิน SkyActiv จุดระเบิดโดยไม่พึ่งพาหัวเทียน
Posted by : AREA 54
● มาสด้าเตรียมเปิดตัวเครื่องยนต์ SkyActiv แบบเบนซินเจนเนอเรชั่นต่อไป ใช้ระบบจุดระเบิดแบบไม่ต้องพึ่งพาหัวเทียน ช่วยลดความวุ่นวายในการบำรุงรักษาไปได้อีก 1 จุด โดยรุ่นรถที่จะได้ใช้งานเป็นรุ่นแรกคาดว่าจะยังคงเป็น Mazda3 (หรือ Mazda Axela ในญี่ปุ่น) รุ่นปี 2018 หลังจากที่ Mazda3 รุ่นปรับโฉม เคยเป็นตัวแทนของแบรนด์ในการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่อย่าง G-Vectoring Control มาแล้วในช่วงปี 2016 ที่ผ่านมา
● HCCI หรือ Homogeneous Charge Compression Ignition (หรือในที่นี้คือเครื่องยนต์ HCCI) ไม่ใช่แนวคิดที่เป็นของใหม่เสียทีเดียว ในปัจจุบันรถยนต์ที่เราใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้มีวิธีการจุดระเบิดในกระบวนการเผาไหม้ในกระบอกสูบอยู่ 2 แบบ แบบแรกคือการจุดระเบิดด้วยหัวเทียนในเครื่องยนต์เบนซิน (เครื่องยนต์ SI : Spark Ignition) แบบที่ 2 คือจุดระเบิดด้วยการอัดในเครื่องยนต์ดีเซล (เครื่องยนต์ CI : Compression Ignition) ซึ่งเครื่องยนต์ HCCI ที่มีฟังก์ชั่นในการจุดระเบิดโดยไม่ต้องพึ่งพาหัวเทียนก็คือการทำงานผสมผสานกันระหว่างเครื่องยนต์ SI และ CI เข้าด้วยกันนั่นเอง โดยในเครื่องยนต์ CI นั้น อากาศและเชื้อเพลิงจะมีการจุดระเบิดด้วยตัวเองจากอุณหภูมิในห้องเผาไหม้ที่สูงขึ้นจากกำลังอัด
● จุดร่วมของเครื่องยนต์ SI และ CI คือ ทั้งคู่มีการผสมอากาศและเชื้อเพลิงเป็นเนื้อเดียวกันก่อนเข้าห้องเผาไหม้ เพียงแต่อาศัยการจุดระเบิดที่ต่างกัน เว็บไซท์ asia.nikkei.com ระบุว่า จาการทดสอบของมาสด้า เครื่องยนต์เบนซิน SkyActiv รุ่นใหม่ที่จะใช้การจุดระเบิดด้วยการอัดแทนที่หัวเทียนนั้นจะช่วยให้มีการใช้เชื้อเพลิงน้อยลงราว 30% ให้แรงบิดที่ใกล้เคียงกับเครื่องยนต์ดีเซลจากกระบวนการทำงานที่คล้ายกัน และยังลดการคายมลพิษลงด้วยในอีกทางหนึ่งจากการเผาไหม้ที่สมบูรณ์กว่าเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์เบนซินในปัจจุบัน ในขณะที่อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยอาจจะอยู่แถวๆ 30 กม./ลิตร จากการทดสอบภายในของมาสด้าเอง
● ปัจจุบัน เครื่องยนต์ HCCI มีการพัฒนาขึ้นมาอย่างเป็นรูปธรรมในเชิงวิศกรรมมาแล้วโดยหลายบริษัท อาทิ บริษัท Nautilus Engineering, LLC ในแคนซัสที่เคลมว่าสามารถเพิ่มประสิทธิภาพทางความร้อน (thermal efficiency) ได้ถึง 50% หรือ GM ที่ทดลองติดตั้งเครื่อง HCCI ในรถ Saturn Aura โดยใช้พื้นฐานของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.2 ลิตร EcoTec หรือแม้แต่ในแบรนด์ญี่ปุ่นเองอย่างนิสสันก็กำลังทุ่มทรัพยากรอย่างหนักในการพัฒนาเทคโนโลยี HCCI เช่นกัน ทว่านิสสันระบุว่าจะใช้เทคโนโลยี HCCI ในรถเพื่อการพาณิชย์เป็นหลัก
● แม้จะมีการศึกษาเรื่องเครื่องยนต์ HCCI กันมาก่อนหน้านี้นานนับสิบปี แต่ก็กล่าวได้ว่ามาสด้าจะกลายเป็นเสือปืนไวผู้ที่นำเทคโนโลยี HCCI มาใช้กับรถยนต์ในสายการผลิตได้เป็นแบรนด์แรก หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตามแผนงานที่มาสด้าวางเอาไว้ข้างต้น อย่างไรก็ตาม ข้อมูลข้างต้นเป็นการคาดเดาการทำงานโดยรวมของเครื่องยนต์แบบ HCCI ของมาสด้าเท่านั้น โดยยังไม่มีข้อมูลทางเทคนิคอย่างเป็นทางการของทางมาสด้าครับ
● นอกจากนี้ asia.nikkei.com ยังให้ข้อมูลว่า มาสด้ายังคงทำตามแผนงานเดิมในการทำตลาดรถกรีนในยุโรปและสหรัฐฯ โดยจะเริ่มผลิต รถยนต์พลังงานไฟฟ้าในปี 2019 ต่อด้วยรถ plug-in hybrid ในปี 2021… หากยังจำกันได้ ทั้งแผนงานการผลิตรถ BEV, รถ PHEV รวมถึงเครื่องยนต์เบนซิน SkyActiv-G รุ่นใหม่ที่กำลังจะปล่อยออกมานี้ ล้วนเป็นแผนงานที่มาสด้าค่อยๆ ปล่อยออกมาเป็นลำดับ ตามแผนงานยุทธศาสตร์องค์กร ที่ประกาศใช้มาตั้งแต่ช่วงปี 2009 ●
