January 12, 2017
Motortrivia Team (10071 articles)

2017 Honda City เปิดตัวรุ่นปรับโฉม ราคาเริ่มต้น 5.5 แสนบาท


ภาพ : จันทนา เจริญทวี

 

●   ฮอนด้าเผยโฉมรถใหม่รับปี 2017 เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย เปิดตัวซับคอมแพคท์รุ่นยอดนิยม Honda City รุ่นปรับโฉมใหม่ ตัวรถยังคงอยู่ในช่วงชีวิตของ City เจนเนอเรชั่น 6 ที่เริ่มทำตลาดในช่วงปี 2013 การปรับปรุงคุณภาพตัวรถและการตกแต่งภาพลักษณ์อยู่ภายใต้แนวคิด Advanced Energetic Smart Star ประหยัดเชื้อเพลิง ให้ความสะดวกขณะขับ และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง

●   นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “จากการเปิดตัวยนตรกรรมรุ่นใหม่หลายรุ่นในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้ฮอนด้าสามารถครองอันดับหนึ่งในตลาดรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และในปี 2560 นี้ ฮอนด้าจะยังคงนำเสนอยนตรกรรมอีกหลายรุ่น เริ่มต้นด้วยการปรับโฉมฮอนด้า ซิตี้ ซึ่งเป็นยนตรกรรมซับคอมแพคท์ยอดนิยมที่มียอดขายสูงที่สุดในเซกเมนต์ซับคอมแพคท์ โดยฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ได้มีการยกระดับความหรูหรา และความสปอร์ตยิ่งขึ้นทั้งดีไซน์ภายนอกและภายใน รวมถึงอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และมาตรฐานความปลอดภัยที่ครบครัน เพื่อช่วยเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับชีวิตยิ่งขึ้น”


(ที่ 3 จากซ้าย) นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารปฏิบัติการ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด และ (ที่ 2 จากซ้าย) นายสมภพ ปฏิภานธาดา ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาดและการวางแผนกลยุทธ์ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด


●   City ใหม่มากับชุดไฟหน้า LED ในรุ่น SV และ SV+ ในขณะที่ไฟ LED day time จะถูกนับเป็นครั้งแรกในกลุ่มซับคอมแพคท์ที่มีการติดตั้งมาให้ทุกรุ่นย่อย ส่วนไฟตัดหมอกแบบ LED มรในรุ่น SV และ SV+ ใช้การสะท้อนแสงด้วย Reflector ภายในโคม ช่วยลดการใช้พลังงาน กันชนหน้า-หลังออกแบบใหม่ กระจังหน้าตกแต่งเพิ่มเติมด้วยกรอบโครเมียม ใครอยากได้ล้ออัลลอยลายใหม่ขนาด 16 นิ้วต้องเลือกรุ่น SV และ SV+ โดยรุ่น V และ V+ จะเป็นรุ่น 15 นิ้ว

●   ห้องโดยสารปรับปรุงใหม่ ใช้แนวคิด Rich & Sophisticated คอนโซลหน้าตกแต่งด้วยวัสดุที่มีพื้นผิวต่างกัน แผงมาตรวัดพื้นผิวสีดำ และแผงคอนโซลกลางทรง T สีเมทัลลิคเข้ม พื้นที่ส่วนบนของแผงมาตรวัดถูกออกแบบให้ดูแบนเรียบ ช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในการขับ ช่องแอร์ กรอบคันเกียร์ และมาตรวัด ตกแต่งด้วยแหวนสีเงิน มาตรวัดเรืองแสงแบบ 3 วงออกแบบใหม่ให้ดูมีมิติขึ้น มีไฟเรืองแสดงสีขาวขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ เบาะสไตล์สปอร์ตเดินด้าย 2 แถว รุ่น SV+ มีไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า LED และไฟส่องสว่างภายในห้องโดยสารแบบ LED (เฉพาะรุ่น SV+)

●   อุปกรณ์อำนวยความสะดวกแตกต่างกันไปตามรุ่นย่อย อาทิ รุ่น V+, SV และ SV+ มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส, รุ่น SV+ ชุดเบาะหลังปรับพับได้ 60:40, รุ่น SV และ SV+ ติดตั้งลำโพง 8 ตำแหน่ง, รุ่น SV และ SV+ มีช่องจ่ายไฟสำรองสำหรับผู้โดยสารด้านหลัง 2 ตำแหน่ง ส่วนช่องจ่ายไฟสำรองด้านหน้า 1 ตำแหน่งจะมีให้ทุกรุ่น

●   ชุดอุปกรณ์และระบบอำนวยความสะดวกอื่นๆ แบ่งเป็น รุ่น V+, SV และ SV+ ชุดระบบอินโฟฯ รองรับการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนทั้งฝั่ง Android และ iOS รองรับการเชื่อมต่อภาพและเสียงผ่านพอร์ท HDMI, รุ่น V+, SV และ SV+ มีระบบปรับอากาศอัตโนมัติพร้อมแผงควบคุมแบบสัมผัส, รุ่น V, V+, SV และ SV+ ติดตั้งมาตรวัดเรืองแสงสีขาวพร้อมจอแสดงข้อมูลการขับ MID, รุ่น SV และ SV+ เพิ่มระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 จังหวะ, รุ่น SV และ SV+ มีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ, รุ่น V+, SV และ SV+ มีสวิตซ์ควบคุมเครื่องเสียงพร้อมปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย, รุ่น V, V+, SV และ SV+ มีระบบควบคุมประตูอัจฉริยะ และระบบสตาร์ทเครื่องยนต์อัจฉริยะ

●   พละกำลังยังคงมาจากเครื่องยนต์เบนซิน SOHC i-VTEC ความจุ 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 117 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 14.8 กก.-ม. ระบบส่งกำลังเลือกได้ระหว่างธรรมดา 5 จังหวะ หรืออัตโนมัติ CVT อัตราทดแปรผันต่อเนื่อง รุ่นเกียร์ธรรมดาระบุอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเอาไว้ที่ 18.2 กม./ลิตร ส่วนรุ่น CVT เฉลี่ย 17.9 กม./ลิตร จุดเด่นคือรองรับการใช้เชื้อเพลิง E85 พร้อมเสริมความประหยัดด้วยฟังก์ชั่น E-CON หรือ Ecological-Drive Assist System ช่วยลดการใช้พลังงานที่สิ้นเปลืองโดยอัตโนมัติ

●   เกียร์ CVT ลูกนี้ของฮอนด้า นับเป็นส่วนหนึ่งของเทคโนโลยี Earth Dreams ที่ช่วยเสริมการประหยัดเชื้อเพลิง ช่วงอัตราทดเกียร์กว้าง แรงบิดที่สูงในรอบเครื่องยนต์ที่ต่ำลง เพิ่มกำลังในช่วงออกตัวเมื่อทำงานร่วมกับ G-Design Shift ซึ่งเป็นระบบควบคุมการทำงานของเกียร์ ลิ้นปีกผีเสื้อ และระบบไฮดรอลิก ตอบสนองได้รวดเร็วทันทีที่กดคันเร่ง

●   ระบบความปลอดภัย Active Safety และ Passive Safety ประกอบด้วยเทคโนโลยี G-CON ลดอาการบาดเจ็บด้วยการควบคุมแรงกระแทกที่เกิดจากการชน, รุ่น SV+ ติดตั้งถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง, รุ่น V+, SV และ SV+ สะดวกด้วยกล้องหลังสำหรับช่วยจอดปรับมุมมองได้ 3 ระดับ แสดงผลผ่านจอกลาง

●   ส่วนระบบความปลอดภัยพื้นฐานได้แก่ ระบบเบรค ABS, ระบบกระจายแรงเบรค EBD, ระบบควบคุมการทรงตัว VSA, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA และระบบส่งสัญญาณเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS ทำงานโดยอัตโนมัติระหว่างเบรคและไฟฉุกเฉิน โดยไฟเลี้ยวจะกระพริบขึ้นอัตโนมัติในลักษณะเหมือนไฟฉุกเฉิน เพื่อแจ้งให้รถที่ตามหลังทราบว่ามีการเบรคกะทันหัน

●   Honda City ใหม่มีสีภายนอก 6 สี ประกอบด้วยเทาโมเดิร์นสตีล (เมทัลลิค), ดำคริสตัล (มุก เพิ่มเงิน 6,000 บาท), เงินลูนาร์ (เมทัลลิค), ขาวทาฟเฟต้า, ขาวออร์คิด (มุก เพิ่มเงิน 10,000 บาท) และสีใหม่ น้ำเงินคอสมิค (เมทัลลิค) ห้องโดยสารสีดำ

ราคาจำหน่าย
–   Honda City SV+ เกียร์ CVT ราคาจำหน่าย 751,000 บาท
–   Honda City SV เกียร์ CVT ราคาจำหน่าย 736,000 บาท
–   Honda City V+ เกียร์ CVT ราคาจำหน่าย 689,000 บาท
–   Honda City V เกียร์ CVT ราคาจำหน่าย 649,000 บาท
–   Honda City S เกียร์ CVT ราคาจำหน่าย 589,000 บาท
–   Honda City S เกียร์ธรรมดา ราคาจำหน่าย 550,000 บาท

●   สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ www.honda.co.th/city   ●


2017 Honda City