January 13, 2017
Motortrivia Team (10069 articles)

Carlos Ghosn ประกาศลดมลพิษและอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เป็นศูนย์


Press Release

 

●   CEO นิสสัน มร. คาร์ลอส กอส์น ประกาศทิศทางเทคโนโลยีของนิสสันและความร่วมมือสู่เป้าหมายในการลดการปล่อยมลพิษ และความรุนแรงของอุบัติเหตุบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ โดยเผย 5 แนวทางหลัก ด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแบบเดียวกับ NASA บูรณาการอย่างไร้รอยต่อ ร่วมกับ ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า Nissan Leaf และการทดสอบระบบไร้คนขับของนิสสันเป็นครั้งแรก

●   ในฐานะประธานบอร์ดและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ นิสสัน มอเตอร์ จำกัด มร. กอส์น ได้แสดงปาฐกถาเกี่ยวกับความสำเร็จของเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับเคลื่อนในอนาคตภายในงาน Consumer Electronics Show หรือ CES 2017 งานแสดงสินค้าอิเล็กทรอนิคส์และเทคโนโลยีเพื่อผู้บริโภคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ประจำปี 2017 ณ ลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา

●   “ที่นิสสัน เราไม่ได้สร้างสรรค์เทคโนโลยีในแบบเดียวกับที่คนอื่นๆ ทำ หรือเก็บไว้สำหรับรถยนต์รุ่นสูงสุด แต่เราทำจากจุดเริ่มต้นเพื่อให้ความมั่นใจว่า เทคโนโลยีที่ดีสุดนี้มีการพัฒนาขึ้นเพื่อมอบประสบการณ์ของการขับที่ดีกว่าให้กับทุกๆ คน ซึ่งนี่ไม่ได้เป็นวิธีการของเราที่จะสร้างรถในอนาคตเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นวิธีที่เราจะสามารถเป็นผู้ผลิตรถยนต์สำหรับอนาคตอีกด้วย”  มร. กอส์น กล่าว

●   มร. กอส์น ประกาศ 5 แนวทางหลักสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีการเคลื่อนที่อัจฉริยะของนิสสัน หรือ Nissan Intelligent Mobility ที่จะทำให้นิสสันบรรลุการพัฒนาไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่เสริมความปลอดภัยของผู้ขับและผู้ที่ใช้ท้องถนนร่วมกัน หรือ Intelligent Driving การขับเคลื่อนที่ให้พลังสะอาดและไร้ซึ่งมลพิษ หรือ Intelligent Power และรวมถึงการผสานเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคม หรือ Intelligent Integration

1. เร่งเวลาการพัฒนา ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ให้ใช้ได้จริงในอนาคตอันใกล้ :
●   มร. กอส์น ประกาศความสำเร็จการร่วมพัฒนาเทคโนโลยีที่เรียกว่า “Seamless Autonomous Mobility (SAM)” หรือ การเคลื่อนที่อัตโนมัติแบบไร้รอยต่อ ที่พัฒนาจากเทคโนโลยีของแบบเดียวกับองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ สหรัฐอเมริกา หรือ NASA ซึ่งเป็นพันธมิตรของ SAM โดยเป็นการประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence – AI) สำหรับการสนับสนุนเพื่อช่วยให้ยานพาหนะสามารถดำเนินการตัดสินใจในสถานการณ์ที่คาดไม่ถึง และสร้างการเรียนรู้ในระบบปัญญาประดิษฐ์นี้ โดยเทคโนโลยีอัจริยะนี้จะช่วยให้รถยนต์แบบไร้คนขับจำนวนมากสามารถอยู่ร่วมกับรถยนต์ที่ยังใช้คนขับรถได้เร็วมากยิ่งขึ้น เป็นส่วนหนึ่งของการผสานเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคมของนิสสันอีกด้วย

2. ขยายความสำเร็จของระบบขับขี่อัตโนมัติไปสู่ขั้นต่อไป :
●   ในช่วงแรกนิสสันจะเริ่มต้นการทดสอบในประเทศญี่ปุ่นในปี 2017 นี้ ด้วยการกำหนดเป้าหมายของการพัฒนายานพาหนะแบบไร้คนขับสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ โดยทำงานร่วมกับบริษัทชั้นนำด้านอินเทอร์เน็ตของญี่ปุ่นอย่าง DeNA ซึ่งนิสสันจะมุ่งเน้นการทดสอบเพื่อก่อให้เกิดความสมบูรณ์แบบของเทคโนโลยีนี้ และคาดหวังว่าในอนาคตการทดสอบจะขยายเพื่อครอบคลุมการให้บริการเชิงพาณิชย์ในช่วงของการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่กรุงโตเกียวจะเป็นเจ้าภาพในปี 2020

3. สร้างความก้าวหน้าของระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ :
●   มร. กอส์น ประกาศแผนการที่จะสร้างความเป็นผู้นำของนิสสันในเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าด้วยการเตรียมเปิดตัว Nissan Leaf รุ่นใหม่เร็วๆ นี้ ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญของระบบขับเคลื่อนพลังสะอาดและไร้ซึ่งมลพิษของนิสสัน หรือ Intelligent Power โดยรุ่นต่อไปของรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดของโลกอย่าง Leaf จะได้รับการติดตั้งเทคโนโลยี ProPILOT หรือระบบขับเคลื่อนกึ่งอัตโนมัติที่ปัจจุบันออกแบบมาเพื่อสำหรับใช้บนไฮเวย์ สำหรับการขับช่องทางเดินรถเดียว (automated single-lane highway driving)

4. การเชื่อมต่อของรถ :
●   การเชื่อมต่อที่รวมการขับที่เสริมความปลอดภัยของผู้ขับ และผู้ที่ใช้ท้องถนนร่วมกัน กับการผสานเทคโนโลยีทันสมัยเพื่อการอยู่ร่วมกันในสังคม มร. กอส์น ประกาศว่า ในนามพันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน จะยังคงร่วมมือกับไมโครซอฟท์ ในการพัฒนาเทคโนโลยีการเชื่อมต่อสำหรับรถยนต์ในอนาคตอย่างต่อเนื่อง โดย มร. โอกิ เรดซิค (Ogi Redzic) รองประธานอาวุโสของพันธมิตรเรโนลต์-นิสสันด้านการเชื่อมต่อ (Alliance SVP of Connected Cars) ได้สาธิตให้เห็นถึงวิธีการที่เทคโนโลยีที่เป็นระบบผู้ช่วยเหลือส่วนบุคคล (personal assistant) อย่างไมโครซอฟท์ Cortana ช่วยทำให้การขับขี่มีประสิทธิภาพและราบรื่นมากขึ้น โดย Cortana เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่พันธมิตรเรโนลต์-นิสสัน และไมโครซอฟท์ค้นคว้าร่วมกัน

5. 100RC โครงการ 100 เมืองที่คงทนยั่งยืน
●   มร. กอส์น กล่าวเสริมว่า ในปัจจุบันนโยบายและสภาพแวดล้อมของการกำกับดูแลจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของทั่วทุกมุมโลก โดยประกาศความร่วมมือกับโครงการ 100 เมืองที่คงทนยั่งยืน หรือ 100 Resilient Cities (100RC) ซึ่งเป็นโครงการที่ริเริ่มโดยองค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไรอย่างมูลนิธิร๊อคกี้เฟลเลอร์ (Rockefeller Foundation) ในการช่วยให้แต่ละเมืองสามารถสร้างความยืดหยุ่นรอบด้านเพื่อความท้าทายการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ สังคม และเศรษฐกิจ

●   ทั้งนี้นิสสันนับเป็นแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ประกาศความร่วมมือกับโครงการ 100RC โดยจะช่วยให้เมืองวางรากฐานสำหรับระบบขับขี่อัตโนมัติ รถยนต์พลังงานไฟฟ้า รวมถึงบริการการเคลื่อนที่รูปแบบใหม่ๆ

●   “เราขอเชิญชวนภาคส่วนอื่นๆ ให้เข้าร่วมกับเรา ไม่ว่าจะเป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยี อี – คอมเมิร์ซ ผู้ให้บริการรถยนต์เพื่อการเดินทางในรูปแบบต่างๆ ผู้ประกอบการทั่วๆ ไปที่จะช่วยให้เราสามารถทดสอบและพัฒนายานพาหนะและบริการใหม่ๆ เพื่อให้นิสสันมั่นใจว่า ทุกๆ คนสามารถเข้าถึงเทคโนโลยีล่าสุดนี้ และยังเป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของทุกๆ คน”  มร. กอส์น กล่าว   ●