MICHELIN PILOT SPORT 4 จากเทคโนโลยี Formula E สู่ยางสปอร์ตสมรรถนะสูง

3.1Kviews

เรื่อง-ภาพ : นาธัส แสงสุริยะ

● MICHELIN ตอกย้ำความเป็นผู้ผลิตยางชั้นนำด้วยการเปิดตัวยางสปอร์ต MICHELIN PILOT SPORT 4 ยางสมรรถนะสูงรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล PILOT SPORT ของ MICHELIN ซึ่งถ่ายทอดเทคโนโลยีมาจากยางของรถแข่ง Formula E โดดเด่นด้วยสมรรถนะที่ดีรอบด้านของ MICHELIN ยาง MICHELIN PILOT SPORT 4 เน้นการตอบสนองเฉียบคมดั่งใจคิดทั้งทางตรงและทางโค้ง ให้สมรรถนะการยึดเกาะที่ดีเยี่ยม และระยะเบรกสั้นแม้บนถนนเปียกตลอดอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น เสริมเอกลักษณ์ที่โดดเด่นด้วย Premium Touch Design ด้วยเฉดสีดำที่แตกต่างบริเวณแก้มยาง เพิ่มความสวยงามให้รถคู่ใจของคุณ

● MICHELIN PILOT SPORT 4 ช่วยให้ควบคุมรถได้ง่ายขึ้นอย่างมั่นใจด้วยเทคโนโลยี Dynamic Response ให้การตอบสนองเฉียบคมดั่งใจคิด และเป็นครั้งแรกของยางสปอร์ต ที่มีการผสมผสาน 2 วัตถุดิบคุณภาพสูง คือ Aramid ผสม Nylon เป็นเข็มขัดรัดหน้ายางแบบ Hybrid ซึ่งถ่ายทอดมาจากยางที่ใช้ในการแข่งขัน Formula E เพื่อให้ได้เข็มขัดรัดหน้ายางที่มีความแข็งแกร่งแต่น้ำหนักเบา ป้องกันการโก่งตัวของบล็อกดอกยาง ส่งผลให้ MICHELIN PILOT SPORT 4 มีหน้าสัมผัสกับพื้นสูงสุดตลอดเวลาแม้ขับด้วยความเร็วสูง ยึดเกาะถนนได้ดีทั้งทางตรงและทางโค้ง ตอบสนองการควบคุมได้อย่างแม่นยำและฉับไวดั่งใจคิด เนื้อยางมีส่วนผสมของ Silica ช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น หมดปัญหาเรื่องอายุการใช้งานสั้นของยางสปอร์ตยี่ห้ออื่นทั่วไป ลายดอกยางได้รับการออกแบบให้มีการกระจายแรงกดบนหน้ายางอย่างสม่ำเสมอ ยางจึงสึกเรียบสม่ำเสมอตลอดหน้ายาง

ลองของจริงกับ MICHELIN PILOT SPORT 4

● หลังจากได้ทดลองยาง MICHELIN PILOT SPORT 4 ที่เซปัง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต ในงาน MICHELIN PILOT SPORT Experience 2016 เมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทีมงานมอเตอร์ทริเวีย ก็มีโอกาสได้สัมผัสยางสปอร์ตรุ่นล่าสุด MICHELIN PILOT SPORT 4 อีกครั้งที่เมืองไทย นัดหมายติดตั้งยางที่ ศูนย์บริการ TYREPLUS ซึ่งมีการทำงานอย่างเป็นระบบตามขั้นตอนและได้มาตรฐาน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงก็ติดตั้งยางเสร็จพร้อมตั้งศูนย์ให้เรียบร้อย ขับใช้งานอีกประมาณ 500 กิโลเมตร เป็นการรัน-อินยาง และให้หน้ายางปรับเข้ากับช่วงล่าง จากนั้นจึงเริ่มจับความรู้สึกอย่างจริงจังอีกครั้ง

● รูปลักษณ์ภายนอกของ MICHELIN PILOT SPORT 4 มีจุดเด่นที่แก้มยาง Premium Touch Design พื้นผิวของตัวอักษรบนแก้มยางมีความนุ่มนวลดุจกำมะหยี่เมื่อลองสัมผัส ช่วยให้แก้มยางดูสวยงามและแตกต่าง เพิ่มความโดดเด่นให้กับรถ Premium Touch Design อยู่บนตัวอักษร MICHELIN ชื่อรุ่นและขนาดยาง รวมทั้งสัญลักษณ์ MICHELIN Total Performance ยางรุ่นนี้ระบุด้านนอก-ด้านใน มีตัวหนังสือ Outside ที่แก้มยาง แต่ไม่ระบุทิศทางการหมุนหรือ Rotation การสลับยางจึงทำได้อย่างอิสระ ทั้งการสลับหน้า-หลังหรือไขว้ซ้าย-ขวา

● MICHELIN PILOT SPORT 4 มีสมรรถนะเยี่ยมบนถนนเปียก เข้าโค้งคม ระยะเบรกสั้น ด้วยลวดลายดอกยางที่ความคล้ายคลึงกับดอกยางของรถแข่ง Formula E กลางหน้ายางมีร่องยางขนาดใหญ่และลึก 3 ร่อง ส่วนดอกยางด้านข้างมีร่องยางแบบเฉียง สำหรับรีดน้ำออกทางด้านข้าง กลางหน้ายางมีบล็อกดอกยางขนาดใหญ่ 3 ชุด ต่อเนื่องเป็นชิ้นเดียวกันตลอดทิศทางการหมุนของยาง บล็อกดอกยางจึงมีความแข็งแรงไม่โย้ตัว ส่วนไหล่ยางด้านนอกและด้านใน มีการออกแบบลวดลายดอกยางที่แตกต่างกัน ด้านในช่วยรีดน้ำ ด้านนอกช่วยยึดเกาะเพื่อให้การควบคุมที่ไม่ต่างกันทั้งบนถนนแห้งหรือถนนเปียก

● ยางที่ได้มาทดลองใช้เป็นขนาด 225/45 ZR17 ลองเปลี่ยนแรงดันลมยางหน้า-หลังอยู่พักใหญ่ สุดท้ายลงตัวที่ด้านหน้า 36 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ด้านหลัง 34 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ได้ความรู้สึกที่ชอบคือ ไม่นิ่มจนย้วย และไม่แข็งหรือสะเทือน แก้มยางยกจากพื้นกำลังสวย ไม่แบนกองเหมือนตอนเติมลมยางหน้า 32 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ที่ความเร็วต่ำไม่รู้สึกว่ากระแทกหรือสะเทือน แก้มยางยังคงซับแรงได้ดีเมื่อขับผ่านรอยต่อหรือตะเข็บถนน

● ขึ้นทางด่วนลองเพิ่มความเร็วขึ้นทีละนิด สังเกตว่าเสียงยางค่อนข้างเงียบ ขับทางตรงมีความเสถียรไม่วูบวาบ และเมื่อเริ่มป้อนพวงมาลัยเพื่อเปลี่ยนเลน รถจะตอบสนองทันที และเป็นไปอย่างแม่นยำ ลองเพิ่มความเร็วขึ้นอีกนิด เสียงยางก็ยังคงเงียบและควบคุมทิศทางรถได้ง่าย พวงมาลัยนิ่ง ไม่มีอาการเลื้อยหรือว่อกแว่ก ใช้ความเร็วบนทางตรงได้อย่างผ่อนคลาย ช่วงทางม้วนวนลงจากทางด่วนเป็นโค้งไม่กว้างนัก ลองผ่อนคันเร่งแค่เล็กน้อย แล้วรักษาความเร็วที่ยังค่อนข้างสูงอยู่ ป้อนพวงมาลัยและคงองศานั้นไว้เพื่อเข้าโค้ง สามารถควบคุมพวงมาลัยให้รถเลี้ยวไล่ไปตามความโค้งนั้นได้แบบนิ่งและเนียน ไม่มีเสียงยางดังเอี๊ยดอ๊าดซึ่งหมายถึงเริ่มมีการลื่นไถลให้หวาดเสียว จุดนี้เป็นการแสดงออกถึงสมรรถนะของยาง MICHELIN PILOT SPORT 4 ในด้านการยึดเกาะและความนุ่มนวลได้เป็นอย่างดี แต่อย่าลืมว่าในแต่ละโค้งล้วนต้องมีการใช้ความเร็วที่เหมาะสมแตกต่างกัน ไม่ควรฝืนใช้ความเร็วจนอาจเสี่ยงต่อการควบคุมรถ

● ช่วงที่ทดสอบยางมีฝนตกหนักพอดี บางครั้งตกหนักมากจนแทบมองทางไม่เห็น ซึ่งก็มีข้อดี เพราะฝนที่ตกหนักจะช่วยชะล้างฝุ่นบนถนนออกไป ทำให้ถนนสะอาดและไม่ลื่นจากฝุ่นโคลน เมื่อฝนเริ่มเบาลงแล้ว จึงลองใช้ความเร็วสูงขึ้น แต่ก็ยังไม่เท่าตอนถนนแห้ง เพราะไม่ใช่การทดลองขับในสถานที่ปิด จึงต้องเผื่อเหลือเผื่อขาดไว้บ้าง

● การรีดน้ำของ MICHELIN PILOT SPORT 4 นับว่าทำได้ดีเกินคาด เมื่อขับผ่านผิวถนนที่เปียกและบางช่วงมีน้ำขัง พวงมาลัยยังคงนิ่ง ไม่มีอาการดึงไปด้านใดด้านหนึ่ง ซึ่งเกิดจากแรงต้านของน้ำที่หน้ายาง แสดงว่ายางสามารถฝ่าน้ำลงไปสัมผัสกับถนนได้ดี น้ำส่วนหนึ่งจะถูกเก็บไว้ที่ร่องยางตรงกลางหน้ายางที่มีความลึกและกว้าง และน้ำอีกส่วนจะถูกรีดออกด้านข้างจึงไม่มีอาการเหินน้ำ ทำให้ขับบนถนนเปียกได้อย่างมั่นใจ ลองเปลี่ยนเลนที่ความเร็วค่อนข้างสูง ยางยังคงตอบสนองได้อย่างฉับไวและมั่นคง ไม่ขาดไม่เกิน

● ลองเข้าโค้งบนถนนเปียกด้วยความเร็วในโค้งค่อนข้างสูง พบว่าการเข้าโค้งบนถนนเปียกง่ายกว่าที่คิด แค่ประคองพวงมาลัยรักษาทิศทางนั้นไว้ รถก็เกาะโค้งไปได้โดยไม่มีอาการใดๆ ไม่ต้องหมุนพวงมาลัยเพิ่มหรือคลายออก จากนั้นวนกลับขึ้นทางด่วนอีกครั้งเพื่อกลับบ้าน ระหว่างทางรักษาความเร็วประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับชิดซ้ายรอจังหวะไม่มีรถทั้งด้านหน้าและด้านหลังแล้วกระทืบเบรกเต็มที่ ABS ทำงานสังเกตจากแป้นเบรกมีการสั่นสะเทือนนิดๆ รถถูกดึงลดความเร็วลงอย่างฉับไวและไม่มีอาการปัดเป๋ แค่ยึดพวงมาลัยไว้ตรงๆ ตัวรถก็หยุดนิ่งสนิทโดยไม่มีอาการว่าจะเสียการทรงตัว

● หลังจากรัน-อิน และทดลองใช้งานจริงเกือบ 1,000 กิโลเมตร พอจะสัมผัสได้ว่า MICHELIN PILOT SPORT 4 มีประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนที่ดีบนทางแห้งตามแบบฉบับของยางสปอร์ต มีความเสถียรเมื่อขับทางตรง และตอบสนองฉับไวแม่นยำเมื่อเปลี่ยนเลน เข้าโค้งนิ่งมั่นใจ ระยะเบรกสั้น ซึ่งคุณสมบัติทั้งหมดนี้ยังคงอยู่ครบถ้วนแม้ขับบนถนนเปียก ดอกยางออกแบบให้มีการรีดน้ำที่รวดเร็ว ทำให้เกาะถนนเปียกได้ดีและไม่มีอาการเหินน้ำ เป็นยางสปอร์ตที่ไม่แข็งกระด้าง แม้เติมลมค่อนข้างแข็ง และเสียงเงียบเมื่อขับบนผิวถนนแบบต่างๆ

● ด้วยสมรรถนะที่ดีรอบด้านทั้งทางแห้งและทางเปียก ทั้งยังมาพร้อมความนุ่มเงียบ MICHELIN PILOT SPORT 4 จึงตอบโจทย์ได้ทั้งผู้ที่ต้องการยางสปอร์ตสำหรับรถสมรรถนะสูง หรือผู้ที่ขับรถใช้งานทั่วไป ที่ต้องการยางประสิทธิภาพสูง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในด้านการทรงตัวและการเบรก เพื่อให้การใช้รถมีความปลอดภัยสูงสุด

ทำไม MICHELIN จึงเข้าร่วมการแข่ง Formula E

● รถแข่ง Formula E ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า รับรองโดย FIA หรือสมาพันธ์ยานยนต์นานาชาติ เริ่มแข่งครั้งแรกในปี 2014 รถแข่งมีกำลังสูงสุด 270 แรงม้า เร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3 วินาที ความเร็วสูงสุด 225 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะทางที่ใช้แข่งขันกว่า 100 กิโลเมตร กฎการแข่งขันที่ท้าทายให้ MICHELIN เป็นผู้สนับสนุนยางในการแข่งนี้ คือ ต้องใช้ยางเพียง 1 ชุด ตลอดการแข่งขัน ยางสำหรับการแข่งขัน Formula E จึงต้องมีคุณสมบัติเด่นรอบด้าน ลดแรงต้านการหมุนเพื่อช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้า และต้องมีการยึดเกาะถนนที่ดีในทุกสภาพแวดล้อม ทั้งทางแห้งและทางเปียก ท่ามกลางอากาศร้อนจัดหรือหนาวเย็น และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน รองรับการเร่งและเบรกอย่างรุนแรง รวมทั้งการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงได้อย่างต่อเนื่อง และคงประสิทธิภาพการยึดเกาะสูงสุดได้ตลอดการแข่ง

จาก Formula E สู่ MICHELIN PILOT SPORT 4 ตอบสนองเฉียบคมดั่งใจคิด

● การแข่งขัน Formula E เสมือนเป็นห้องทดลองของ MICHELIN ประยุกต์เทคโนโลยีการผลิตยางสำหรับรถแข่ง และพัฒนาเป็นยางสปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุด MICHELIN PILOT SPORT 4 ขจัดปัญหาที่พบในยางสปอร์ตยี่ห้ออื่นบางรุ่น เช่น ลื่นไถลเมื่อขับบนทางเปียก ฯลฯ แต่ด้วยสูตรเนื้อยาง Functional Elastomers ของ MICHELIN PILOT SPORT 4 พร้อมร่องรีดน้ำขนาดใหญ่ 4 ร่องตามแนวการหมุนของยาง และร่องรีดน้ำแนวขวางที่ไหล่ยาง ช่วยรีดน้ำออกจากหน้ายางได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลวดลายของดอกยางถ่ายทอดมาจากยางรถแข่ง Formula E จึงมั่นใจได้ว่า MICHELIN PILOT SPORT 4 มีการยึดเกาะถนนเปียกที่ดีเยี่ยม และระยะเบรกบนถนนเปียกที่สั้นกว่า

● MICHELIN PILOT SPORT 4 ครอบคลุมรถยนต์นั่งรุ่นยอดนิยมรวมถึงรถสปอร์ต ด้วยขนาดยางที่มีให้เลือก 18 ขนาด ตั้งแต่ 16-19 นิ้ว มีทั้งขนาดที่ได้รับความนิยม ขนาดเดียวกับยางเดิมจากโรงงาน และสำหรับรถที่ต้องการเปลี่ยนยางขนาดใหญ่ขึ้น

● สนใจติดต่อผู้จำหน่ายยาง MICHELIN ทั่วประเทศ หรือ www.michelin.co.th ●

• 205/50 ZR16
• 205/55 ZR16
• 205/45 ZR17
• 205/50 ZR17
• 215/45 ZR17
• 215/50 ZR17
• 225/45 ZR17
• 235/45 ZR17
• 245/40 ZR17
• 245/45 ZR17
• 225/40 ZR18
• 225/45 ZR18
• 235/40 ZR18
• 235/45 ZR18
• 245/40 ZR18
• 255/40 ZR18
• 265/35 ZR18
• 245/40 ZR19