Mitsubishi Triton เปิดตัวรุ่นปรับโฉม เพิ่มอุปกรณ์มาตรฐาน

2.5Kviews

ภาพ : จันทนา เจริญทวี

• มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย เปิดตัว Mitsubishi Triton รุ่นปรับปรุงใหม่ ใช้คำจำกัดความในการทำตลาดว่า “หน้าเข้ม แรงจัด ประหยัดสุด ด้วย เครื่องยนต์ 2.4 ลิตร” โดยตามข่าวมิตซูบิชิจะปรับรุ่นปีให้เป็น MY2017 เน้นจุดเด่นที่ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์คลีนดีเซล 2.4 ลิตร MIVEC ที่มาพร้อม ECO sticker จากอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง 15.2 กม./ลิตร ในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ Double Cab Plus และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาดปิคอัพ

• มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “บริษัทฯ ภูมิใจที่จะเปิดตัวมิตซูบิชิ ไทรทัน กระบะหน้าเข้มของมิตซูบิชิ ที่ลบทุกขีดจำกัดของรถกระบะด้วยคำนิยาม “พันธุ์ใหม่ หน้าเข้ม แรงจัด ประหยัดสุด ด้วย เครื่องยนต์ไมเวค 2.4 ลิตร” อันแสดงให้เห็นถึงสมรรถนะของรถกระบะที่เยี่ยมยอดที่สุดแห่งยุค พิสูจน์แล้วด้วยอัตราการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ประหยัดถึง 15.2 กิโลเมตรต่อลิตร เมื่อเทียบกับรถกระบะอื่นๆ ในระดับเดียวกัน แต่ยังคงโฉบเฉี่ยวเร้าใจด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นสไตล์มิตซูบิชิ”

มร. โมะริคาซุ ชกกิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด

• “เราตั้งเป้าหมายที่จะรักษาส่วนแบ่งทางการตลาดที่ 8% โดยใช้กลยุทธ์ที่เน้นการพัฒนาสมรรถนะของรถควบคู่ไปกับความคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับรถยนต์ในระดับเดียวกัน นอกจากนี้เรายังให้ความสำคัญด้านการพัฒนาบริการหลังการขาย ค่าอะไหล่ และค่าซ่อมบำรุงรักษาที่ศูนย์บริการราคาไม่แพง โดยปัจจุบันเรามีโชว์รูมและศูนย์บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 200 แห่ง พร้อมช่างผู้เชี่ยวชาญและบริการด้วยคุณภาพ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าของมิตซูบิชิ”

• “ผมมั่นใจว่า ลูกค้าที่มาทดลองขับกระบะไทรทันใหม่จะไม่ผิดหวัง มิตซูบิชิ ไทรทันใหม่มีสมรรถนะที่เหนือชั้น และดีไซน์ที่ดุเข้ม มีให้เลือกถึง 16 รุ่น 6 สี และวันนี้เราพร้อมเปิดตัวรถกระบะไทรทันพันธุ์ใหม่ ด้วยข้อเสนอที่เร้าใจที่สุด เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้าเป็นเจ้าของได้ง่ายขึ้น”

• มิตซูบิชิระบุว่า Triton 2017 ได้รับการออกแบบ พัฒนาขึ้นโดยนำผลการสำรวจความต้องการของลูกค้าและข้อเสนอของลูกค้ามาพัฒนาปรับปรุงภายใต้แนวคิดความคุ้มค่าของผลิตภัณฑ์ (Value for Money) โดยคำนึงถึงเรื่องสมรรถนะ อุปกรณ์มาตรฐาน รวมถึงราคาที่คุ้มค่า และเหมาะกับผู้ใช้รถทุกคน

• Triton 2017 ตกแต่งภาพลักษณ์ใหม่ด้วยกระจังหน้าโครเมียมรมดำ ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ Bi-Xenon HID โดยรุ่น GLS -LTD จะมีไฟตัดหมอกหน้าสไตล์สปอร์ตให้ กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า บันไดข้างรุ่นใหม่ยาวกว่าเดิม 34 ซม. ไฟเบรกดวงที่ 3 บริเวณฝาท้ายกระบะ นอกจากนี้รุ่น GLS-LTD และตัวถัง Mega Cab GLX จะมีกันชนหลังฝังบันไดในชิ้นเดียวเพิ่มเติมให้

• ภายในมากับพวงมาลัยมัลติฟังก์ชันแบบ 4 ก้านหุ้มหนังพร้อม Paddle Shift, Cruise Control, ปุ่มปรับระดับไฟหน้า 5 ระดับ, มาตรวัดใหม่พร้อมจอแสดงผลข้อมูลเอนกประสงค์ (Multi-information display) แสดงผลข้อมูลได้ชัดเจนขึ้น ปรับความสว่างได้ 8 ระดับ, เพิ่มความสะดวกสบายให้ผู้โดยสารด้วยการเสริมพนักพิงศีรษะในที่นั่งตอนหลังครบ 3 ตำแหน่ง

• พละกำลังมาจากเครื่องยนต์ดีเซลรุ่นใหม่ รหัส 4N15 แบบ 4 สูบ ความจุ 2.4 ลิตร MIVEC (Mitsubishi Innovative Valve Timing Electronic Control System) ควบคุมการเปิดวาลว์ไอดีแบบแปรผัน อัดอากาศด้วยเทอร์โบชาร์จแบบแปรผัน พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 181 แรงม้าที่ 3,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 43.8 กก.-ม. ที่ 2,500 รอบ/นาที เสื้อสูบและฝาสูบผลิตจากวัสดุอลูมินัม อัลลอย ช่วยลดน้ำหนักของเครื่องยนต์ อัตราสิ้นเปลืองดีขั้น 20% การคายมลพิษลดลง 17%

• นอกจากนี้ยังมีทางเลือกเป็นเครื่องยนต์ดีเซลรหัส 4D56 ความจุ 2.5 ลิตร เทอร์โบชาร์จ พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ กำลังสูงสุด 128 แรงม้าที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 24.4 กก.-ม. ที่ 1,500 – 3,500 รอบ/นาที ปิดท้ายด้วยเครื่องยนต์เบนซินรหัส 4G64 ความจุ 2.4 ลิตร ควบคุมการจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบ ECI หัวฉีดอีเล็กทรอนิกส์ กำลังสูงสุด 128 แรงม้า ที่ 5,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 19.7 กก.-ม. ที่ 4,000 รอบ/นาที

• ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ SS4-II หรือ Super Select 4WD II All Wheel Control มีให้ใช้งาน Triton Double Cab GLS-LTD เกียร์อัตโนมัติ ผู้ขับสามารถเปลี่ยนโหมดจากระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ (2H) เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ (4H) แบบ Full-time All Wheel Control ได้โดยไม่ต้องจอดรถ ตัวระบบช่วยให้การทรงตัวดีขึ้นในการใช้งานบนถนนเรียบลื่น และสามารถเปลี่ยนระบบขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้าเป็น 4HLc หรือ 4LLc ในการขับบนเส้นทางแบบออฟ-โรด โดยระบบนี้เป็นระบบเดียวกับที่ติดตั้งอยู่ใน Mitsubishi Pajero Sport รุ่นล่าสุด

• อุปกรณ์มาตรฐาน และชุดระบบความปลอดภัย ประกอบด้วยโครงสร้างตัวถังนิรภัยเหล็กกล้า RISE Body ออกแบบโครงสร้างส่วนหน้าให้สามารถดูดซับแรงกระแทกจากการชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ, จุดยึดเบาะนิรภัยสำหรับเด็ก ISOFIX 2 ตำแหน่งที่เบาะแถว 2, ถุงลมนิรภัย 7 ตำแหน่ง, เข็มขัดนิรภัยด้านหน้าแบบดึงกลับอัตโนมัติ 2 ทิศทาง (2-way pretension), เข็มขัดนิรภัยด้านหลัง ELR 3 จุด 3 ตำแหน่ง (Rear Seat Belt 3-Point ELRx3), ระบบนำทาง, กล้องมองหลังช่วยถอยจอด และระบบล็อคประตูอัตโนมัติเมื่อใช้ความเร็วมากกว่า 15 กม./ชม. (Auto Door Lock By Speed Sensing), ระบบไฟกะพริบฉุกเฉินอัตโนมัติ Emergency Stop Signal System, ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว Active Stability & Traction Control, ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Start Assist และระบบเสริมแรงเบรก Brake-Assist

• นอกจากนี้ยังมีระบบตัดการทำงานของไฟหน้ารถโดยอัตโนมัติหลังจากดับเครื่องยนต์, ใบปัดน้ำฝนปรับความเร็วอัตโนมัติ, สัญญานเตือนลืมปิดไฟหรี่หน้าด้วยสัญญาณเสียง, ระบบล็อคเซ็นทรัลล็อก, กุญแจรีโมทพร้อมระบบควบคุมการพับและกางกระจกมองข้างอัตโนมัติ, ระบบหน่วงเวลาปิดไฟในห้องโดยสาร, ระบบหน่วงเวลาเปิด-ปิดกระจกไฟฟ้าหลังจากดับเครื่องยนต์อีก 30 วินาที และสัญญาณเสียงพร้อมไฟกระพริบเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท

• หลังการเปิดตัวกับสื่อฯ ในวันนี้ (5 ตุลาคม 2559) มิตซูบิชิจะทำการเปิดตัว Triton MY2017 พร้อมกันที่โชว์รูมมิตซูบิชิกว่า 200 แห่งทั่วประเทศในวันที่ 15 ตุลาคม 2559 นี้ โดยในช่วงเปิดตัวจะมีแคมเปญ “มิตซูบิชิออกให้ 75,000 บาท รวมประกันภัยชั้น 1” พร้อมฟรีค่าแรงในการบำรุงรักษานานสูงสุด 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร (แล้วแต่ระยะใดถึงก่อน) รวมทั้งบริการช่วยเหลือฉุกเฉินตลอด 24 ชั่วโมง นาน 1 ปีให้ด้วย

• สำหรับสีภายนอก Triton MY2017 จะมีให้เลือกทั้งหมด 6 สี ประกอบด้วย สีเขียว Earth Green, เงิน Sterling Silver, ขาวมุก White Pearl, เทา Titanium Gray, ดำ Pyreness Black และขาว Solid White ราคาจำหน่ายแบ่งเป็น:

– Mitsubishi Triton Single Cab ราคาเริ่มต้น 489,000 บาท
– Mitsubishi Triton Mega Cab ราคาเริ่มต้น 571,000 บาท
– Mitsubishi Triton Mega Cab Plus ราคาเริ่มต้น 687,000 บาท
– Mitsubishi Triton Double Cab Plus ราคาเริ่มต้น 771,000 บาท
– Mitsubishi Triton Double Cab 4WD ราคาเริ่มต้น 964,000 บาท

• สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเชิญได้ที่ Mitsubishi Call Center โทร. 02-079-9500 หรือ 1800-900-009 (ฟรีเฉพาะโทรศัพท์พื้นฐาน และโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่าย AIS) ทุกวันจันทร์ – เสาร์ 8.30 – 17.00 น. หรือเว็บไซท์ www.mitsubishi-motors.co.th Facebook : www.facebook.com/MitsubishiMotorsTH Instagram : @MitsubishiMotors_Thailand Youtube Channel : Mitsubishi Motors Thailand Line Official Account / ID : Mitsubishi Motors Th/ @MitsubishiMotorsTh •